Miracle Apples … มาเรียนรู้เรื่องราวของคุณ Akinori Kimura ชาวสวนแอปเปิ้ลผู้อดทนฝ่าฟันอุปสรรค แม้จะถูกตราหน้าว่า “ไอ้ขี้แพ้” จนในที่สุด ความตั้งใจจริงของเขา ก็ได้ออกดอก ออกผล เป็นสุดยอดแอปเปิ้ล!!
วันก่อนดิฉันได้ดูภาพยนตร์สารคดีญี่ปุ่นที่สร้างจากเรื่องจริง ชื่อว่า 奇跡のリンゴ (Kiseki no Ringo) หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ Miracle Apples แปลว่า แอปเปิ้ลมหัศจรรย์ ตอนแรกดูแบบไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นหนังดี แต่พอดูแล้วรู้สึกซาบซึ้ง อบอุ่น และรู้สึกดีอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นดิฉันรู้สึกชื่นชมถึงความพยายามอย่างมากของคุณ Akinori Kimura ที่ใช้ความพยายามมากกว่า 10 ปีในการปลูกแอปเปิ้ลโดยวิธีธรรมชาติ
เนื้อเรื่องเกี่ยวกับ คุณคิมุระ ซึ่งเป็นชาวเมือง Hirosaki จังหวัดอาโอโมริ ในวัยเด็ก คิมุระเป็นคนที่ชอบทดลองถอดสิ่งของต่างๆเพื่อค้นหาส่วนประกอบข้างใน และดัดแปลงสิ่งเหล่านั้นโดยหวังจะพัฒนาให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเสียง หรือมอเตอร์ไซค์ แต่เขามักจะโดนพ่อแม่และครูตำหนิก่อนที่จะทำได้สำเร็จ พอเรียนจบชั้นมัธยมปลาย คิมุระก็เข้าทำงานในบริษัทที่โตเกียว ต่อม่าเขาได้กลับมาบ้านเกิดเพื่อแต่งงานกับ Mieko ซึ่งเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็ก ครอบครัวของมิเอโกะมีเพียงสองพ่อลูกเท่านั้น ดังนั้นเมื่อแต่งงานไป คิมุระจะทำหน้าที่เป็นผู้สืบทอดตระกูล โดยต้องดูแลสวนแอปเปิ้ลของครอบครัว
แอปเปิ้ลถูกนำมาปลูกที่ประเทศญี่ปุ่นจากสหรัฐอเมริกากว่า 130 ปีมาแล้ว ด้วยสภาพอากาศอุ่นชื้นในญี่ปุ่นทำให้แอปเปิ้ลก็ยังคงอ่อนแอต่อโรคและแมลง ทำให้ต้องใช้ปุ๋ยและยาฆ่าแมลงจำนวนมาก ในช่วงเริ่มทำสวนแอปเปิ้ล Kimura ใช้ยาฆ่าแมลงเหมือนเกษตรกรคนอื่นๆ เพราะทุกคนเชื่อว่า “การปลูกแอปเปิ้ลโดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลงนั้นเป็นอะไรที่เป็นไปไม่ได้” กล่าวกันว่าหากพ่นยาฆ่าแมลงในปริมาณที่เหมาะสม ผลไม้ก็จะปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค แต่สำหรับตัวเกษตรกรเองอย่างคิมุระ จะต้องทนกับอาการแพ้ทางผิวหนังเพราะจะเกิดอาการคันมากทุกครั้งที่พ่นยา มิเอโกะภรรยาของเขายังแพ้ยาฆ่าแมลงอย่างรุนแรงถึงขนาดผิวหนังลอกและล้มป่วยหนักเป็นเดือนทุกครั้งหลังการพ่นยา คิมุระยังพบว่าเกษตรกรปลูกแอปเปิ้ลจำนวนมากก็แพ้ยาเช่นเดียวกัน และการใช้ปุ๋ยซึ่งมีไนโตรเจนก็ส่งผลเสียทางสุขภาพต่อเด็กเล็กๆ ได้ เขาจึงคิดหาวิธีที่จะปลูกแอปเปิ้ลโดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลง โดยคิดว่าหากเขาทำสำเร็จจะสามารถช่วยเกษตรกรคนอื่นๆ และช่วยผู้บริโภคให้ได้รับประทานผลไม้ที่ไม่มีสารปนเปื้อน
ในการทดลองแรกๆ คิมุระได้ลดยาฆ่าแมลงทำให้ผลผลิตลดลงแต่ยังได้กำไรเพราะลดเงินที่ต้องจ่ายเพื่อซื้อยาฆ่าแมลง เขาจึงคิดว่าจะเลิกใช้ยาฆ่าแมลงไปเลย แต่แล้วก็ต้องพบว่าการลดยาฆ่าแมลงกับการไม่ใช้เลยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คิมุระได้ศึกษาตำราการปลูกแอปเปิ้ลโดยวิธีธรรมชาติมากมาย ตั้งแต่สภาพของดิน วัชพืช ไปจนถึงธรรมชาติของแมลงชนิดต่างๆ เขาได้ลองพ่นสารธรรมชาตินานาชนิดเพื่อหวังจะทดแทนยาฆ่าแมลงไม่ว่าจะเป็น น้ำส้มสายชู กระเทียม วาซาบิ นม น้ำโซดา หัวหอม ไข่ขาว ฯลฯ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าต้นแอปเปิ้ลก็ยังคงเหี่ยวเฉาปราศจากดอกและผลอยู่นั่นเอง
5 ปีผ่านไป ครอบครัวของคิมุระไม่มีรายได้จากการขายแอปเปิ้ลซึ่งเป็นผลไม้หลักแม้แต่เยนเดียว
เมื่อปราศจากยาฆ่าแมลง แอปเปิ้ลโดนหนอนและแมลงที่หนีตายมาจากสวนอื่นรุมกินโต๊ะหรือไม่ก็เป็นโรคตาย ครอบครัวของเขามีเพียงรายได้เล็กๆ น้อยๆ จากการขายผักที่ปลูกไว้ข้างๆ สวนทำให้ต้องอยู่อย่างยากจนข้นแค้นต่างจากชาวสวนแอปเปิ้ลคนอื่นๆ เวลายิ่งผ่านไปนานเท่าไร เพื่อนบ้านชาวสวนคนอื่นๆ ก็มองครอบครัวของคิมุระด้วยสายตาแปลกแยกและแทบไม่พูดคุยกับครอบครัวของเขาเลย ทุกคนซุบซิบนินทาว่าเขาเป็น “ไอ้พวกขี้แพ้” คิมุระต้องขายสวนบางส่วนและเอาบ้านไปจำนองเพื่อนำเงินมาดำรงชีวิต เขายังเป็นชาวสวนเพียงคนเดียวที่ต้องเข้าไปทำงานเป็นยามในโตเกียวในช่วงฤดูหนาว พอหนักๆ เข้าคนรอบตัวของเขาแม้แต่พ่อแม่ก็หันหลังให้ เพราะอับอายที่ลูกชายในฐานะหัวหน้าครอบครัวไม่สามารถเลี้ยงดูลูกเมียให้สุขสบายได้ แม้แต่เพื่อนสนิทของเขาเองก็ตัดขาดความเป็นเพื่อน เพราะไม่เห็นด้วยกับความหัวรั้นของเขาจนทำให้ครอบครัวต้องเดือดร้อน เวลาผ่านไปเจ็ดแปดปี คิมุระโดนชับออกจากสังคมโดยสิ้นเชิง โดยเพื่อนและญาติต่างมองเขาว่า “บ้าไปแล้ว” ที่ยอมแลกชีวิตที่สุขสบายกับการปลูกแอปเปิ้ลโดยวิธีธรรมชาติ คิมุระทำใจยอมรับความพ่ายแพ้โดยขอเลิกกับภรรยาและตัดสินใจจะฆ่าตัวตาย
ใต้แสงจันทร์บนภูเขาขณะที่เขากำลังหาวิธีแขวนเชือกผูกคอตัวเองนั้น เขาก็ได้พบว่าผลไม้ในป่าช่างงดงามโดยปราศจากการดูแลรักษาจากมนุษย์ การสังเกตว่าต้นไม้นั้นมีรากที่แข็งแรงลึกลงดิน ทำให้เขาได้ค้นพบความจริงที่พยายามค้นหามาเกือบสิบปีว่า “ต้นไม้โตเอง ใบไม้ผลิเอง ผลไม้โตได้เอง” หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม การที่จะให้ต้นแอปเปิ้ลโตได้โดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลงและปุ๋ยก็คือ จะต้องทำสภาพแวดล้อมให้เหมือนธรรมชาติมากที่สุด
คิมุระกลับมาบ้านด้วยความหวังอีกครั้ง เขาลงมือศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอีกมากมาย พร้อมๆ กับการทำงานพาร์ทไทม์เป็นบ๋อยเสิร์ฟอาหารเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว เขาทำสภาพแวดล้อมของสวนให้เหมือนธรรมชาติมากที่สุด แล้วความพยายามของเขามากกว่าสิบปีก็เริ่มเป็นผล เมื่อเพื่อนบ้านเริ่มสังเกตว่าสวนผลไม้ของเขานั้นมีสภาพแวดล้อมดีมาก มีนกและสัตว์มากมายเข้ามาอาศัยอยู่ ผักและผลไม้ชนิดอื่นๆ ที่พวกเขาปลูกก็ผลใหญ่และรสชาติดีเยี่ยม ในปีถัดมาในที่สุดสิ่งที่เขารอคอยก็มาถึง เขาได้พบว่าต้นแอปเปิ้ลก็ออกดอกบานสะพรั่งเต็มสวนและตามมาด้วยผลแอปเปิ้ลที่งดงาม คิมุระร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจอย่างสุดซึ้ง แอปเปิ้ลจากฟาร์มของคิมุระนั้นรสชาติหวานอร่อย จนลูกค้าหลายๆ คนกล่าวว่า “เกิดมาไม่เคยกินแอปเปิ้ลที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน” เขาได้รับออร์เดอร์มากมายไม่ขาดสายจากทั่วญี่ปุ่นรวมถึงภัตตาคารหรูๆในประเทศอื่น รายการทีวี NHK ยังนำเรื่องราวของเขาไปสร้างเป็นสารคดี ในปัจจุบันคิมุระได้รับเชิญไปบรรยายเรื่องการทำเกษตรแบบธรรมชาติทั่วญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศทั่วโลก นักวิจัยต่างๆ ยืนยันว่าการปลูกพืชแบบธรรมชาติของคิมุระนั้นมีความเป็นวิทยาศาสตร์มาก
วิธีที่คิมุระใช้ปลูกแอปเปิ้ลต่างจากการปลูกแบบออร์แกนิก เพราะไม่เพียงแต่ไม่ใช้ยาฆ่าแมลงเท่านั้น เขายังไม่ใช้ปุ๋ยใดๆ แม้แต่ปุ๋ยหมักก็ตาม วิธีของเขาคือเข้าไปแทรกแซงการปลูกให้น้อยที่สุด และทำให้สวนเป็นเหมือนป่าธรรมชาติให้มากที่สุดเขายังปฏิบัติกับผักผลไม้ราวกับว่ามีชีวิต คิมุระกล่าวว่า “ทุกๆ อย่างมีจิตวิญญาณอยู่ เราจะต้องแสดงความขอบคุณพืชพันธุ์ทั้งหลาย ที่ออกดอกออกผลให้เรากิน” เขาจึงคิดอยู่ตลอดเวลาว่า “จะทำอย่างไรให้พวกผักผลไม้มีความสุข” หรือ “ผักผลไม้คงดีใจถ้าเราทำแบบนี้” เขาย้ำว่า การทำเกษตรธรรมชาติต้องอาศัยประสบการณ์ ความรู้เกี่ยวกับฟาร์ม และสำคัญที่สุดคือ ความรู้สึกขอบคุณธรรมชาติที่สร้างความสมดุลโดยมอบความหลากหลายของสิ่งมีชิวิตต่างๆ
ที่คิมุระมีวันนี้ก็เพราะกำลังใจจากภรรยา พ่อตาและลูกๆที่เชื่อมั่น ไม่เคยหมดหวังในตัวเขา และคอยให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังไม่ว่าเขาจะทำอะไร เขากล่าวว่า “หากเรายืนหยัดในการค้นหาสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากๆ วันหนึ่งเราจะได้พบคำตอบที่เราต้องการ” ดิฉันก็เชื่อว่าหากเราพยายามทำอะไรอย่างถึงที่สุดแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับผู้อื่น สุดท้ายจะมี “มือที่มองไม่เห็น” มาช่วยให้เราทำสำเร็จจนได้ค่ะ
ติดตามอ่านเรื่องราวการทำธุรกิจด้วยใจรักจนประสบความสำเร็จได้ในหนังสือ Japan Success ธุรกิจสำเร็จได้ด้วยใจรัก และพูคุยกับพิชชารัศมิ์ได้ทาง Facebook Page: Life Inspired by พิชชารัศมิ์
สามารถติดตามเรื่องราวแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจด้วยความรักในหนังสือ “Japan Success ธุรกิจสำเร็จได้ด้วยใจรัก” ตามแผงหนังสือชั้นนำ และ สามารถพูดคุยสื่อสารกับพิชชารัศมิ์ได้ที่ FB: Life Inspired by พิชชารัศมิ์
เรื่องแนะนำ :
– 10 ข้อสังเกตว่าคนนี้เหมาะจะเป็นแม่บ้าน (แม่ของลูก) ฉบับชาวญี่ปุ่น
– หีบห่อของขวัญญี่ปุ่นที่มอบประสบการณ์ที่ดีแก่คนซื้อ
– บริษัทญี่ปุ่นที่สั่งให้พนักงานสื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษ
– Konosuke Matsushita ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ควรมีอยู่เพื่อสังคม
– พนักงานบริษัทญี่ปุ่นรู้สึกผิดเมื่อลาพักร้อน และการใช้โดรนไล่พนักงานกลับบ้าน
– 4 ปัจจัยที่จะทำให้คุณมีความสุข
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://www.direct-ns.co.jp/kisekinoringo/
https://www.atpress.ne.jp/news/113525