Lost in Translation หลายคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของหนังรักโรแมนติก ที่มีฉากหลังทั้งเรื่องเป็นประเทศญี่ปุ่นกันมาพอสมควรแล้ว หนังเรื่องนี้เป็นผลงานภาพยนตร์ลำดับที่ 2 ของ Sofia Coppola ที่เธอทำหน้าที่ทั้งกำกับและเขียนบทด้วยตัวเอง โดยได้แรงบันดาลใจมาจากมนต์เสน่ห์ของประเทศญี่ปุ่น
เมื่อสาวอเมริกันอย่างเธอต้องมาทำงานต่างแดนในฐานะช่างภาพให้นิตยสารแฟชั่นของเพื่อน ซึ่งทำให้เธอติดใจญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก จะด้วยบรรยากาศหรือสิ่งแวดล้อม ที่ทำให้เธอต้องกลับมาเยี่ยมเยียนที่แห่งนี้อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เป็นเวลาเกือบ 10 ปี ในช่วงอายุ 20 – 30 ปี ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการเขียนบทหนังเรื่องนี้ ซึ่งเธอบอกมาว่า นอกจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว ในหัวเธอไม่เคยคิดว่าหนังเรื่องนี้จะถ่ายในประเทศไหนได้อีกเลย
หนังเรื่องนี้หลังจากได้ลงโรงฉายในปี 2003 ได้เสียงตอบรับที่ดีทั้งในอเมริกาและในญี่ปุ่น ได้รางวัลการันตีมากมาย อาทิเช่น ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Oscar สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมและภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้รับรางวัลสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม อีกทั้งในเวที Golden Globes และ BAFTA ก็ได้ไปกวาดรางวัลมาแล้ว
ก่อนจะไปทำความรู้จักสถานที่ที่ตัวละครทั้ง 2 ได้เดินทางไปเป็นเหตุให้เกิดเรื่องราวต่างๆ มากมาย เรามาทำความรู้จักเรื่องราวคร่าวๆ กันก่อนดีกว่า
Lost in Translation เป็นหนังที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นอย่างประหลาดระหว่างคนอเมริกัน 2 คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มาใช้ชีวิตอยู่ในโตเกียว ในช่วงเวลาเดียวกัน และบังเอิญได้มาเจอกัน บ๊อบ (Bill Murray) ดาราฮอลลี่วู้ดชื่อดังที่เข้ามาถ่ายโฆษณา Suntory วิสกี้ยี่ห้อดังของญี่ปุ่นด้วยค่าตัวแสนแพง ชาร์ลอต (Scarlett Johanson) ภรรยาสาวของช่างภาพข้าวใหม่ปลามัน เพิ่งเรียนจบหมาดๆ และได้ติดตามคนรักของเธอที่ได้มาถ่ายภาพในญี่ปุ่น ทั้ง 2 เข้าพักในโรงแรมเดียวกัน ดื่มเหล้าในบาร์เดียวกันของโรงแรม อาการนอนไม่หลับและความโดดเดี่ยวของผู้คนที่มาจากต่างที่และต่างวัฒนธรรม เหมือนกัน ได้มาเจอกัน ในสถานที่และเวลาที่เหมือนจะมีมนต์เสน่ห์เกินห้ามใจ ความโดดเดี่ยวปนความสับสนของสาววัย 20 ต้นๆ ของชาร์ลอต ที่สามีของเธอก็มัวแต่ทำงาน โดยปล่อยเธอไว้ที่โรงแรมคนเดียว กับความเหงาของดาราหนุ่มใหญ่ผู้กำลังเผชิญกับวิกฤตวัยกลางคน ความต่างทางวัฒนธรรม ความโดดเดี่ยวท่ามกลางการสื่อสารที่ไม่เข้าใจ ได้นำทางให้คน 2 คน มาเจอกัน ในความสัมพันธ์ที่ไม่เข้ากัน แต่ไม่ยากที่จะเข้าใจ
เอาล่ะ เราไปเยี่ยมสถานที่ที่ทำให้เกิดเรื่องราวของคนทั้ง 2 กันเถอะ
Park Hyatt
คือที่แรกที่เราจะพาไป เป็นสถานที่ที่เหตุการณ์ส่วนใหญ่เกิดขึ้น Park Hyatt เป็นโรงแรมระดับหรูตั้งอยู่บน 14 ชั้นสูงสุดในตึกชินจูกุพาร์คทาวเวอร์ ย่านนิชิ ชินจูกุ ซึ่งจะทำให้เห็นบรรยากาศของย่านใจกลางเมืองในยามค่ำคืนได้เป็นอย่างดี ฉากที่มีในเห็นในเรื่องนี้ ก็จะมีทั้งส่วนของห้องพัก นิวยอร์คบาร์สุดหรูในโรงแรมที่เป็นเสมือนพื้นที่เล็กๆ ให้คนอเมริกันอย่างเขาและเธอ รู้สึกไม่เหงาเกินไป ซึ่งเป็นที่ที่ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 เริ่มก่อตัวขึ้น และยังมีส่วนของล็อบบี้ ฟิตเนส และโถงทางเดินให้เห็นในหนังอีกด้วย
Ichikan
เป็นร้านซูชิเล็กๆ แต่หรูของญี่ปุ่นที่มีราคาแพงทีเดียว ตั้งอยู่ที่ ไดคันยามะ ชิบุย่า และคนที่เข้าฉากเป็นเชฟปั้นซูชิให้ทั้ง 2 ทานในหนังก็ยังเป็นเจ้าของร้านตัวจริงอีกด้วย
Shibuya
การข้ามถนนที่ว้าวุ่นและมีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น ที่มีให้เห็นอยู่ในหนังมากมายหลายเรื่องที่ใช้ฉากหลังเป็นประเทศญี่ปุ่น ในหนังเรายังจะเห็น บ๊อบ ร้องคาราโอเกะในร้าน Karaoke-Kan และ ชาร์ลอตเดินผ่านโซนที่เป็นที่เล่นเกมส์ของเหล่าเกมเมอร์วัยรุ่นอีกด้วย อีกที่หนึ่งที่อยู่ในชิบุย่าเช่นกันก็คือ ร้าน Shabu Zen ตั้งอยู่ชั้นใต้ดินของโรงแรม Creston Hotel เสิร์ฟทั้งชาบูชาบู และสุกี้ยากี้ ราคาไม่แพงจนเกินไป ใครได้มีโอกาสแวะไปก็เข้าไปลิ้มลองกันได้ เค้ามีโปรโมชั่นพิเศษมื้อกลางวันด้วยนะ
Air
ถือว่าเป็นคลับสุดฮิปของวัยรุ่นญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่ที่ ไดคันยามะ ซึ่งจะมีดีเจดังๆ วนมาเปิดแผ่นทุกอาทิตย์ เป็นที่ที่ชาร์ลอต พาบ๊อบ ไปเที่ยวกับเพื่อนคนญี่ปุ่นของเธอ
หลังจากอ่านมาถึงตรงนี้ ได้รู้จักสถานที่สำคัญต่างๆ ที่ใช้เป็นฉากหลังของหนังเรื่องนี้แล้ว หลายคนที่เคยดูหนังเรื่องนี้ถ้ามีโอกาสไปญี่ปุ่น ก็อาจจะอยากไปเดินโฉบๆ ดูซักครั้ง หรือแม้กระทั่งลองนั่งที่ New York Bar โรงแรม Park Hyatt ชมวิวชิบุย่า ฟังเพลงแจ๊ส สัมผัสความรู้สึกของบ๊อบและชาร์ลอต หรือระหว่างข้ามถนนที่ห้าแยกอันวุ่นวาย อาจจะเผลอมองหาคนที่เดินทางมาจากที่เดียวกันก็ไม่แปลก แต่สำหรับคนที่ยัง ไม่เคยดูหนังเรื่องนี้ อ่านบทความของเราแล้ว เวลาเดินผ่านแผงดีวีดี ก็อาจจะหยิบติดมือหรือหยิบยืมเพื่อนกันมาบ้าง เราไม่มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้เลยนะ แต่ชอบมาก เลยหยิบหนังเก่าแต่เก๋าเรื่องนี้มาแบ่งปันให้ได้อ่านกัน เราเชื่อว่าชาว marumaru.com ผู้ชื่นชอบความเป็นญี่ปุ่น อาจจะชอบหรืออาจเคยมีประสบการณ์ ร่วมกับหนังเรื่องนี้ Lost in Translation กันบ้าง อาจจะดีก็ได้
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– Live Action Film หนังญี่ปุ่นภาคคนแสดง
– รีวิว One Piece Film Z
– รีวิวภาพยนตร์มาสค์ไรเดอร์ รวมพลังผ่ามิติกู้โลก (Let’S Go KAMEN RIDERS)
– คู่กรรม…แบบญี่ปุ่น
– รีวิวภาพยนตร์ Chronicle of My Mother
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
www.indiewire.com
movies.about.com
en.wikipedia.org
tokyo.park.hyatt.jp
tokyofox.wordpress.com
travel.ninemsn.com
www.impawards.com
fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net
25.media.tumblr.com
filmphilosophy.files.wordpress.com
thebestpictureproject.files.wordpress.com
annefatosme.files.wordpress.com
www.serialoptimist.com
www.listal.com
zyneensky.files.worldpress.com
www.fansshare.com
#lost in translation