Kiyoko Ojima…ถึงแม้ประเทศญี่ปุ่นจะเป็นประเทศพัฒนาทางเศรษฐกิจ แต่กลับยังมีผู้คนมากมายที่ต้องดิ้นรนหาอาหารกินในแต่ละมื้อ
Kiyoko Ojima อายุ 39 ปี ได้เริ่มรับรู้ถึงปัญหาความอดอยากของผู้คนในทวีปแอฟริกาผ่านทางสารคดีทีวีตั้งแต่ตอนเด็กๆ จึงเกิดความคิดที่ว่าต้องการจะช่วยเหลือผู้คนที่อดอยากโดยผ่านการปลูกพืชผลทางการเกษตร เธอบอกว่า
“ถึงแม้ประเทศญี่ปุ่นจะเป็นประเทศพัฒนาทางเศรษฐกิจ แต่กลับยังมีผู้คนมากมายที่ต้องดิ้นรนหาอาหารกินในแต่ละมื้อ”
โอจิมะ โตมาในสถาพแวดล้อมที่เป็นทุ่งนาป่าเขาในจังหวัดคุมาโมโต้ และก็ทำตามความฝันของเธอซึ่งก็คือ การเป็นเกษตรกร เพราะเธอต้องการจะให้ความช่วยเหลือด้านการปลูกพืชต่อประเทศกำลังพัฒนา
ต่อมาเธอได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาเอกชนชั้นนำอย่างเคโอ ในคณะสิ่งแวดล้อมและข้อมูล ซึ่งเธอได้เรียนเกี่ยวกับความมั่นคงทางอาหารของโลกและความร่วมมือระหว่างประเทศ พร้อมๆ ไปกับการทำงานในองค์กรที่ช่วยขายผักและโปรโมทการปลูกพืชแบบออร์แกนิค ทำให้เธอพบว่าเกษตรกรที่อาศัยวิธีการปลูกพืชออร์แกนิคแบบดั้งเดิมประสบความยากลำบากในการขายเพราะต้องแข่งกับผู้ผลิตรายใหญ่ ดังนั้นในปี 2006 เธอจึงได้เริ่มร้านค้าออนไลน์เพื่อให้เกษตรกรคุมาโมโต้สามารถขายสินค้าไปยังลูกค้าโดยตรงได้ สองปีต่อมา เธอได้เริ่มให้เช่าแปลงผักของเธอสำหรับใครก็ตามที่อยากจะลองปลูกพืช
ส่วนความคิดที่จะจ้างคนไร้บ้านเกิดขึ้นเพราะระหว่างทางเดินกลับบ้านในวันหนึ่ง เธอบังเอิญได้พบชายไร้บ้านที่ต้องขายนิตยสารตามถนนเพื่อดำรงชีพ เธอประหลาดใจที่ได้ทราบว่าชายคนนั้นอยากจะทำงานที่ดีกว่านี้แต่หาไม่ได้เพราะไม่สามารถแจ้งที่อยู่ที่แน่นอนกับผู้จ้าง
เธอยังได้ทราบว่าคนไร้บ้านเหล่านี้มีความกระตือรือร้นสูง ตามการสำรวจของกระทรวงแรงงานกล่าวว่า ในปี 2017 มีคนไร้บ้านอยู่ถึง 5,534 คน และ 1 ใน 4 ของกลุ่มคนไร้บ้านต้องการความช่วยเหลือในด้านโอกาสการทำงาน โอจิมะจึงเริ่มโครงการรับคนไร้บ้านมาทำงานในไร่ขึ้นในปี 2008
ถึงแม้กลุ่มคนเหล่านี้จะไม่ได้รับค่าจ้างแต่จะได้รับการสนับสนุนจากโรงเรียนที่ไม่แสวงหารายได้ของเธอเพื่อเตรียมการสำหรับการทำงานในอนาคต โดยโครงการดังกล่าวจะมีการจัดที่พักอาศัยและเสริมทักษะด้านการทำงานด้านต่างๆ คนไร้บ้านส่วนใหญ่มีปัญหาความเครียดด้านความสัมพันธ์ ทำให้เลือกที่จะแยกตัวจากสังคม เธอกล่าวว่า “แทนที่จะกลับไปทำงานเลย คนไร้บ้านต้องการเวลาที่จะปรับตัว
ทุกๆ เดือนเมษายน จะมีกลุ่มคนทั้งหญิงและชายราว 10 คน อายุระหว่าง 20-60 ปีมาช่วยหว่านเมล็ด ถางวัชพืช รดน้ำ และเก็บเกี่ยวผลผลิต บนที่ดินหนึ่งหมื่นตารางเมตรของเธอ รวมระยะเวลา 6 เดือน ในขณะที่ปลูกแครอทและผักอื่นๆ ผู้ฝึกงานเหล่านี้จะได้เรียนรู้ที่จะพัฒนาการสื่อสารและความสามารถในการทำงานเป็นกลุ่ม และได้ค้นหาเป้าหมายชีวิต
การสอนของโอจิยะทำให้คนเหล่านี้เรียนรู้การทำงานร่วมกับคนอื่นแบบเป็นขั้นเป็นตอน โดยวัตถุประสงค์ในการสอนก็คือ “ให้คนเหล่านั้นได้มีความมั่นใจกลับคืนมา และสามารถยืนหยัดด้วยตัวเองได้อีกครั้ง” จากทั้งหมด 75 คนที่ร่วมโครงการ มี 31 คน ที่ได้งานทำหลังจากจบโครงการ โดยครึ่งหนึ่งยังคงทำงานภาคการเกษตรต่อไป
ในปี 2013 เธอได้ขยายโรงเรียน เพื่อเปิดโอกาสรับคนด้อยโอกาสอื่นๆ เช่น คนที่ไม่ได้เรียนหนังสือ หรือผู้แยกตัวจากสังคม (ฮิคิโคโมริ) โครงการของเธอได้รับการสนับสนุนจากบริษัทอาหาร รวมถึงสมาชิกครอบครัวของคนที่เข้ารับการอบรม
โครงการนี้ทำให้เธอได้รับรางวัลด้านการสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคม จากกระทรวงการเกษตรของญี่ปุ่น เธอหวังว่าจะมีคนสนใจการทำสวนทำไร่มากขึ้น และนี่คือแรงบันดาลใจในการทำแปลงปลูกผักของเธอค่ะ
ติดตามอ่านเรื่องราวการทำธุรกิจด้วยใจรักจนประสบความสำเร็จได้ในหนังสือ “Japan Success ธุรกิจสำเร็จได้ด้วยใจรัก” และ หนังสือจิตวิทยาความรักความสัมพันธ์ “เมื่อจิตวิทยา ทำให้คนรักกัน” สามารถพูดคุยสื่อสารกับพิชชารัศมิ์ได้ที่ FB: Life Inspired by พิชชารัศมิ์
เรื่องแนะนำ :
– Rita No Kokoro จิตใจที่ทำเพื่อผู้อื่นของบริษัทญี่ปุ่น
– หัวอกคุณแม่ชาวญี่ปุ่นที่ต้องทำงานนอกบ้าน
– ผู้ชายญี่ปุ่น 10 ประเภท
– ชิเซโด้ บริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอางเพื่อช่วยผู้มีปัญหาแผลเป็นร้ายแรง
– การบริการญี่ปุ่นที่ดูเปลี่ยนไป
– Kato Sangyo บริษัทที่พนักงานกว่าครึ่งอายุมากกว่า 60 ปี
ที่มา Japan Times