Jimi ni Sugoi เรื่องราวของ Etsuko Kono หญิงสาววัย 28 ปี ที่หลงใหลแฟชั่นมาก ๆ (แต่ละวันแต่งตัวมาทำงานไม่ซ้ำแบบเลยค่ะ) และมีความฝันอยากเป็นบรรณาธิการของนิตยสาร LASSY จนเข้าไปสมัครงานกับบริษัทนี้หลายรอบ จนคนในบริษัทจำหน้าได้ แต่…แผนกที่เข้าไปกลับเป็นฝ่ายพิสูจน์อักษรของสำนักพิมพ์!
ช่วงนี้กำลังอยู่ในช่วงของงานหนังสือ ถ้าพูดถึงหนังสือเราคงนึกถึงนักเขียน บรรณาธิการ และอีกหนึ่งอาชีพที่มีความสำคัญเช่นกันก็คือ “นักพิสูจน์อักษร” ค่ะ
แม้จะเป็นอาชีพที่ใครหลายคนต่างเคยได้ยินชื่อ แต่นักพิสูจน์อักษรเป็นอาชีพหนึ่งที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงในสังคมบ่อยนัก และมักถูกมองว่า เป็นอาชีพง่าย ๆ และมักถูกตำหนิเป็นคนแรก ๆ เมื่อเห็นตัวอักษรที่พิมพ์ผิดโผล่มาให้เห็น แต่ขอบอกว่า อาชีพพิสูจน์อักษรไม่ใช่เรื่องง่ายนะคะ และละครญี่ปุ่นเองก็เห็นความสำคัญของอาชีพนี้ จนสร้างเป็นละครขึ้นมา นั่นก็คือเรื่อง Jimi ni Sugoi Koetsu Garu Kono Etsuko ค่ะ
เรื่องราวของสาวนักพิสูจน์อักษรที่ไม่ได้ตั้งใจจะมาเป็น
Jimi ni Sugoi Koetsu Garu Kono Etsuko เป็นเรื่องราวของ Etsuko Kono หญิงสาววัย 28 ปี ที่หลงใหลแฟชั่นมาก ๆ (แต่ละวันแต่งตัวมาทำงานไม่ซ้ำแบบเลยค่ะ) และมีความฝันอยากเป็นบรรณาธิการของนิตยสาร LASSY จนเข้าไปสมัครงานกับบริษัทนี้หลายรอบ จนคนในบริษัทจำหน้าได้
และแล้วด้วยความพยายามก็ทำให้เธอได้เข้าทำงานในบริษัทที่ใฝ่ฝัน แต่…แผนกที่เข้าไปกลับเป็นฝ่ายพิสูจน์อักษรของสำนักพิมพ์! ซึ่งดูเป็นงานที่ไม่เหมาะกับคนอย่างเธอเลย แต่หัวหน้าแผนกกลับเห็นพรสวรรค์ในตัวเธอ และรับเธอเข้ามาเป็นนักพิสูจน์อักษรมือใหม่ โดยล่อว่าเธอจะสามารถใช้เส้นทางนี้ปีนไปสู่การเป็นบรรณาธิการแฟชั่น!
ไม่รู้จะได้เป็นจริงหรือไม่ แต่ Etsuko ก็ขอสู้กับการเป็นนักพิสูจน์อักษร พร้อมความฝันที่จะก้าวไปเป็นบรรณาธิการแฟชั่นให้ได้ และในระหว่างนั้นเองเธอก็ได้ไปสะดุดรักโดยบังเอิญกับช่ายหนุ่มมหาวิทยาลัยรูปงาม ที่มารู้ทีหลังว่าเขากำลังเป็นนายแบบคนใหม่ของนิตยสาร LASSY และดันเป็นเจ้าของผลงานนวนิยายแสนน่าเบื่อที่เธอกำลังปรู๊ฟอยู่ด้วย!
เรื่องราวชุลมุนของสาวนักพิสูจน์อักษรกับความรักต่างวัยแสนอลเวงได้เริ่มต้นขึ้น เธอต้องทั้งพิชิตใจชายหนุ่มพร้อมทำตามฝันในการเป็นบรรณาธิการให้ได้ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป เธอก็เริ่มหลงรักอาชีพพิสูจน์อักษรไปอย่างไม่ทันรู้ตัว…
เรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับอาชีพพิสูจน์อักษร
ความน่าสนใจของละครเรื่องนี้คือ นอกจากความคอมเมดี้แล้ว ยังถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของคนทำอาชีพเป็นนักพิสูจน์ได้อย่างละเอียดยิบเลยค่ะ ส่วนตัวเคยทำงานในสายหนังสือมาก่อน ก็จะพอรู้คร่าว ๆ ว่าอาชีพในสายงานหนังสือแต่ละอาชีพจริง ๆ เป็นอย่างไร พอได้ดูละครเรื่องนี้ก็เห็นเลยค่ะว่าทำไมเอาความจริงมาพูดได้เป๊ะขนาดนี้ ซึ่งมีหลายเรื่องที่เป็นความจริงที่คนส่วนใหญ่มักไม่รู้เกี่ยวกับอาชีพนี้ค่ะ งั้นเรามาดูกันค่ะว่าจะมีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับอาชีพพิสูจน์อักษรอะไรบ้าง ที่ละครเรื่องนี้พยายามจะบอกกับเรา
1. พิสูจน์อักษรไม่ใช่แค่ตรวจคำถูกคำผิด
ใครว่างานพิสูจน์อักษรเป็นงานสบาย แค่นั่งอ่านหนังสือเฉย ๆ แบบผ่าน ๆ ไป จริง ๆ แล้วมันยากกว่าที่คิดค่ะ เพราะนักพิสูจน์อักษรต้องรับผิดชอบตรวจทุกอย่างที่มีตัวอักษร ต้องอ่านแบบละเอียดยิบในเวลาอันจำกัด อ่านทุกอย่างที่เป็นตัวอักษร ไม่ว่าจะเป็นตัวหนังสือในต้นฉบับ เลขหน้า เช็กด้วยเส้นบรรทัดเท่ากันไหม ตัวหนังสือบนหน้าปกหนังสือ และไม่ใช่แค่ตรวจคำสะกดถูกหรือผิดเท่านั้น แต่ต้องเช็กถึงข้อเท็จจริงของเนื้อหา ความเหมาะสมของการใช้คำ
แถมการตรวจงานแต่ละฉบับ ไม่ใช่แค่ตรวจรอบเดียวนะคะ แต่ต้องตรวจกันหลายรอบ เพื่อป้องกันความผิดพลาดให้ได้มากที่สุด และต้องทำงานร่วมกับบรรณาธิการและนักเขียน เวลามีประเด็นที่เห็นต่างกันก็ต้องปรึกษาหารือกัน เพื่อทำหนังสือออกมาให้สมบูรณ์แบบที่สุด
2. พิสูจน์อักษรเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้หลายด้านมาก
ถ้าอยากเป็นนักพิสูจน์อักษรต้องเก่งภาษาใช่ไหม? ขอตอบว่า “ใช่ค่ะ” และต้องเก่งมาก ชนิดที่ว่ารู้ลึก รู้จริง แต่แค่ทักษะภาษาอย่างเดียวไม่พอค่ะ เพราะต้นฉบับนั้นมีหลากหลายประเภทมาก ไม่ว่าจะเป็นนวนิยาย สารคดี หนังสือพัฒนาตัวเอง หนังสือทำอาหาร หรือแม้แต่หนังสือเรียน หนังสือแบบฝึกหัด ซึ่งหนังสือแต่ละประเภทก็ต้องใช้ความรู้เฉพาะด้านในการตรวจด้วย เพื่อไม่ให้เนื้อหาผิดเพี้ยน
3. ไม่เคยมีใครที่ไม่เคยผิดพลาด
อาจมีบางคนรู้สึกหงุดหงิด หรือตำหนิในใจถึงหนังสือที่มีคำผิดปรากฏอยู่ และอาจบ่นในใจว่าทำไมนักพิสูจน์ทำงานไม่รอบคอบแบบนี้ แต่เอาเข้าจริงแล้ว ต่อให้เป็นนักพิสูจน์อักษรที่มากประสบการณ์ ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่เคยพลาด เหมือนสำนวนที่ว่า “สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง” ขนาดระมัดระวังแล้วก็ยังมีข้อผิดพลาดได้ เพราะอะไรถึงพลาด? ละครเรื่องนี้ก็ได้แสดงให้เห็นถึงกระบวนการทำงานค่ะว่าต้นฉบับจะมีการแก้กลับไปกลับมาหลายรอบ แก้งานหลายไฟล์ เลยอาจทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นได้ ในกรณีส่งไฟล์ผิดหรือเกิดจากการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน เช่น นักพิสูจน์อักษรแก้ไปแบบนี้ แต่บ.ก.กับนักเขียนไม่แก้ตามก็มี เป็นต้นค่ะ
และมีเหตุผลอย่างหนึ่งที่ห้ามไม่ได้จริง ๆ ก็คือ “ความผิดพลาดที่บังเอิญเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ” จริง ๆ แล้วมนุษย์เราไม่ใช่สิ่งที่สมบูรณ์แบบค่ะ ทุกคนล้วนแต่เคยทำผิดพลาดมาบ้าง นักพิสูจน์อักษรเองก็เช่นกัน แม้บางงานจะมีจุดผิดโผล่ออกมาถึง 2-3 จุด แต่พวกเขาก็ต้องทุ่มทั้งแรงกายแรงใจและแรงสมองในการตรวจอีกหลายร้อยจุดให้สมบูรณ์แบบที่สุด
4. นักพิสูจน์อักษรคือผู้ค้นหาความจริง
อย่างที่เล่าไปค่ะว่านักพิสูจน์อักษรไม่ใช่แค่คนที่ตรววจคำถูกคำผิดเท่านั้น แต่ต้องตรวจอะไรหลายอย่าง ๆ รวมถึงข้อเท็จจริงในต้นฉบับ ซึ่งข้อเท็จจริงที่ว่าก็ต้องเป็นสิ่งที่ถูกพิสูจน์มาแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่เราทึกทักเอาเอง และความยากก็คือความจริงบางอย่างก็ไม่มีในหนังสืออ้างอิง ค้นหาไม่ได้ในอินเตอร์เน็ต แต่ต้องออกไปค้นหาความจริงด้วยตัวเองเท่านั้น
อย่างในละครเรื่องนี้ นางเอกของเรื่อง นางจะชอบลงพื้นที่ค่ะ นวนิยายเรื่องนี้ตัวละครไปทำอะไรที่ไหน เธอก็จะลองไปสถานที่นั้น และลองดูว่าความจริงที่เห็นกับสิ่งที่นักเขียนบรรยายมันตรงกันหรือเปล่า เป็นความรู้สึกที่สมจริงหรือไม่ นักเขียนว่ารู้จริงแล้ว นักพิสูจน์อักษรต้องรู้ยิ่งกว่านั้นอีกค่ะ
งานพิสูจน์อักษร เป็นงานที่จำเป็นต้องสงสัยทุกตัวอักษร
ถ้าสงสัยอะไรสักครั้ง ต่อให้ใครบอกว่า “ถูกต้องแล้ว”
ก็ต้อง “เช็กเองด้วยตาให้แน่ใจ”
เราคงจะได้เห็นกันแล้วว่า นักพิสูจน์อักษรนั้นไม่ใช่อาชีพที่ทำกันได้ง่าย ๆ เลย อาชีพที่ไม่ได้มีหน้าที่ตรวจคำถูกคำผิด แต่เป็นคนที่ช่วยเหลือนักเขียนและบรรณาธิการ ห้หนังสือที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งได้ออกมาให้พวกเราได้อ่านกันค่ะ
เรื่องแนะนำ :
– พลังของละครญี่ปุ่นที่ช่วยเปลี่ยนแปลงสังคมที่อยากได้ให้เป็นจริง
– พระ-นางละครญี่ปุ่น ที่ไม่ได้แสนดีตามขนบนิยม
– ดารา- ศิลปินญี่ปุ่นมากฝีมือ ที่ขอโบกมืออำลาวงการบันเทิง
– อุปสรรคความรักในละครญี่ปุ่น ที่ไม่ใช่แค่เรื่องมือที่สาม
– ละครญี่ปุ่นที่นักแสดงออกมาเต้นเซอร์ไพร้ส์ในเพลงท้ายเรื่อง
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก
ละครญี่ปุ่นเรื่อง Jimi ni Sugoi Koetsu Garu Kono Etsuko
http://asianwiki.com/Pretty_Proofreader
http://mantan-web.jp/gallery/2016/10/06/20161006dog00m200000000c/001.html
http://aitoda.blogspot.com/2016/10/satomo-ishihara-jimi-ni-sugoi-koetsu.html
http://www.cinemacafe.net/article/img/2016/11/09/44776/249493.html
http://r39journal.com/1381.html
http://www.cinemacafe.net/article/img/2016/10/12/44108/245434.html