ช่วงเวลาเดียวกันนี้ของปีที่แล้ว ดิฉันได้เขียนบทความหนึ่งเกี่ยวกับเป้าหมายในการเม้าท์มอยของเกตุวดีซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4 ข้อ หนึ่งในเป้าหมายคือ การตามหาญี่ปุ่นขั้นเทพเพิ่มเติมค่ะ
ช่วงเวลาเดียวกันนี้ของปีที่แล้ว ดิฉันได้เขียนบทความหนึ่งเกี่ยวกับเป้าหมายในการเม้าท์มอยของเกตุวดีซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 4 ข้อค่ะ (อ่านเพิ่มเติม:https://www.marumura.com/talkative/?id=3449) หนึ่งในเป้าหมายของดิฉันในปีที่แล้ว คือ การตามหาญี่ปุ่นขั้นเทพเพิ่มเติมค่ะ
คำว่า “ญี่ปุ่นขั้นเทพ” ในที่นี้ หมายถึง คนญี่ปุ่นที่มาเมืองไทยบ่อยมาก รู้จักเมืองไทยดีมาก ดีกว่าคนไทยเสียอีก และมีความเป็นคนไทยสูงทีเดียว ถ้านัดทานข้าว 1 ทุ่ม ญี่ปุ่นขั้นเทพอาจจะมาสัก 1 ทุ่ม 10 นาทีหรือทุ่มครึ่ง และพูดว่า “ไม่เป็นไร สบายๆ” พวกเขาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสังคมไทยขนาดนั้นเลย
ในที่สุด ดิฉันก็บรรลุเป้าหมายในการเม้าท์มอยข้อนี้เมื่อตอนสิ้นปี 2013 ค่ะ
ลูกศิษย์ที่ดิฉันเคยสอนภาษาไทยชวนดิฉันไปงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าของกลุ่มเพื่อนๆเขา เป็นเนื้อย่างยากินิขุไฮโซบุฟเฟ่ต์หัวละ 1,380 บาท ดิฉันหลั่นล้ามาก แต่พอไปถึง ดิฉันกลายเป็นคนไทยคนเดียวในโต๊ะ นอกนั้นอีก 8 คนเป็นคนญี่ปุ่นหมดเลย มีคนที่บินมาจากญี่ปุ่น 5 คน และทำงานอยู่เมืองไทย 3 คนค่ะ
เมื่อฟังโปรไฟล์ของสมาชิกทั้ง 8 คนแล้ว ดิฉันคิดว่าคำว่า ญี่ปุ่นขั้นเทพอาจฟังดูน้อยเกินไปสำหรับความยิ่งใหญ่ของพวกเขา ก็เลยขอเรียกทั้ง 8 คนนี้เป็นโป๊ยเซียน (8 เซียน) แทน และขอนำมาเล่าสู่กันฟังให้พวกเราสัมผัสถึงความสุโค่ยของญี่ปุ่นขั้นเทพค่ะ เริ่มจาก…..
เซียนที่ 1. เอกิซัง
ลูกศิษย์ดิฉันเอง อายุ 40 กว่าๆ เป็นเจ้าของธุรกิจและยังโสด บินไปๆ มาๆ เมืองไทยเกิน 200 รอบ โดยที่ทั้งสองร้อยรอบ ไม่เกี่ยวกับธุรกิจเลย เป็นความชอบส่วนตัวล้วนๆ ปีนึงมาเมืองไทย 5-6 รอบ ดิฉันและเพื่อนคนอื่นพิสูจน์กันแล้วว่า แกไม่ได้มีลูกเมียคนไทยแอบซ่อนอยู่จริงๆ แกบินมาเพื่อมาหาและสังสรรค์กับเพื่อนสนิทคนญี่ปุ่นทั้งหลายเท่านั้นเอง อารมณ์นั่งรถไฟข้ามเมืองไปเยี่ยมญาติ อารมณ์ประมาณนั้น
แกบอกว่า เคยโดนต.ม.ญี่ปุ่นตรวจกระเป๋าและสัมภาษณ์บ่อยมาก เพราะเห็นพาสปอร์ตแกมีแต่รอยประทับตราสามเหลี่ยมของเมืองไทย แกโดนมองว่าอาจเป็นพวกค้ามนุษย์น่ะค่ะ
ผู้ชายญี่ปุ่นวัยสี่สิบ โสดอีกเช่นกัน ตัวท้วมๆ เหมือนหมี หน้าเหมือนหมียิ้ม คนอะไรจะเหมือนหมีขนาดนี้ แถมเป็นหมีที่ใจดีด้วย ถ้าคุณเห็นนาไกซัง คุณจะรู้เลยว่า ผู้ชายคนนี้จะไม่ทำร้ายใคร
นาไกซังเคยทำงานอยู่เมืองไทยมานานกว่า 8 ปี พูดภาษาไทยคล่องมาก เขาเป็นเจ้าความคิดในการเอาเหล้าไวน์เข้ามาเปิดดื่มที่ร้านอาหาร และคืนนั้น หมีนาไกก็พกไวน์มา 2 ขวด เหล้าโชจูอีก 1 ขวด แถมยังบอกพนักงานเสิร์ฟให้เอาถังน้ำแข็งมาอีก….แน่นอน นาไกซังบอกเป็นภาษาไทยอย่างชิลๆ ว่า “น้องๆ ขอถังน้ำแข็งแช่หน่อย” แกเนียนเหมือนคนไทยมาก
(หมายเหตุ: ปกติร้านอาหารญี่ปุ่นทุกที่จะไม่อนุญาตให้ลูกค้านำอาหารและเครื่องดื่มเข้ามาในร้าน เพราะฉะนั้นคนญี่ปุ่นจะไม่ชินกับการเอาอาหารหรือเครื่องดื่มเข้ามาในร้านอาหารเลยค่ะ เขาจะรู้สึกผิดมาก)
เซียนที่ 3. ไดโจซัง
เจ้าพ่อคาราโอเกะ รู้หมดว่า ร้านคาราโอเกะที่ไหนเป็นอย่างไร ร้านไหนเพลงดี ร้านไหนบรรยากาศดี ถูกหรือแพงยังไง ล่าสุดที่เราไปร้องเพลงที่ Yes R&B ทองหล่อ แกเป็นคนรีเควสท์ขอห้องที่เป็นธีมรถสิบล้อ บรรยากาศจะได้เข้ากับเพลงลูกทุ่งที่แกจะร้อง แกยังหันมากระซิบดิฉันอีกว่า ที่นี่มีเครื่องเป่าวัดแอลกอฮอล์อยู่ด้วยนะ ..อืม…แกรู้ได้ยังไง
สูงยาวเข่าดี ผิวสีแทน อายุย่าง 40 ปีและยังโสด! คาโต้ซังอยู่เมืองไทย 13 ปีแล้วโดยทำงานที่บริษัทไทยยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งค่ะ สาวๆ คนไหนที่อ่านมาถึงตรงนี้ อย่าเพิ่งดี๊ด๊าไป เซียนคนอื่นบอกดิฉันว่า คาโต้ซังสูบบุหรี่หนักมาก และเจ้าชู้มากค่ะ เราปล่อยเขาไว้ให้เป็นโสดต่อไปก็แล้วกันนะคะ
ดิฉันเพิ่งเคยเจอคาโต้ซังเป็นครั้งแรก และไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไร รู้แค่อ่านเขียนภาษาไทยได้ค่ะ
เซียนที่ 5. ทากิเซนเซ
คุณหมอตัวใหญ่ใจดี ดิฉันถามแกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า แกทำงานอะไร แกก็ตอบมาเป็นภาษาไทยว่า “หมอกระดูก” ทากิเซนเซเคยมาทำงานที่เมืองไทย 1 ปี อยู่แถวรามคำแหง
ครั้งนี้แกมาเมืองไทย 4 วัน 3 คืน แกไปดู (เที่ยว?) ม็อบที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วก็ไปเดินเดอะมอลล์บางกะปิ แกบอกว่า คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ สมัยอยู่ที่รามคำแหง
สถานที่ในเมืองไทยที่แกชอบมากคือ ตลาดคลองเตย แกบอกว่ามันดูมีชีวิตชีวาและรู้สึกไทยๆ ดี ของไม่แพง
สาวแกร่ง อยู่เมืองไทยมา 12 ปี ตอนนี้เป็นเจ้าของธุรกิจเครื่องประดับและเสื้อผ้าค่ะ คนนี้ประวัติน่าสนใจมาก ตอนแรกมาแบ็คแพ็คที่เมืองไทยแล้วติดใจ เลยจะมาเรียนภาษาไทยที่เมืองไทย 1 ปี แต่พอใกล้เรียนจบ คุณพ่อโมโตโกะซังต้องย้ายมาทำงานที่ไทย เธอก็เลยหางานทำและอยู่เมืองไทยต่อมาเรื่อยๆ กว่า 1 ทศวรรษแล้ว
ล่าสุดโมโตโกะซังเพิ่งถอยรถยนต์คันใหม่เพื่อใช้ขับไปที่ทำงาน เธอบอกว่า ขับรถบนถนนกรุงเทพฯเหนื่อยกว่านั่งรถไฟประมาณ 3 เท่า ต้องระวังคนเดิน หมาข้ามถนน และมอเตอร์ไซค์ เรามาเป็นกำลังใจให้โมโตโกะซังกันค่ะ
เซียนที่ 7. ทากะซัง
อยู่เมืองไทยมา 11 ปี มีรถ Prius เป็นของตัวเอง แกสามารถขับรถพาเพื่อนๆ ไปอยุธยาเพื่อไปกินกุ้งย่างร้านเด็ด พาไปตลาดอัมพวาเพื่อไปดูหิ่งห้อย ไปกันเองโดยที่ไม่มีคนไทยนำได้
ความสามารถพิเศษ: ทำกระเป๋าสตางค์หาย 3 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว ครั้งล่าสุดมีเงินในกระเป๋าประมาณ 8 พันบาท สาเหตุที่ทำหายคือเมาแล้วหมดสติ จำไม่ได้ว่าตัวเองเอากระเป๋าไปไว้ที่ไหน หรือทำตกที่ใด หรือกลับบ้านยังไง เซียนท่านนี้มักทำให้เพื่อนๆ เซียนท่านอื่นเป็นห่วงเสมอ
เซียนที่ 8. ฮิโร่ซัง
เซียนท่านนี้เป็นสุดยอดแห่งความเป็นญี่ปุ่นขั้นเทพที่ดิฉันภูมิใจนำเสนอทุกท่านมากๆ ค่ะ ฮิโร่ซังเป็นแฟนคลับนักร้องชื่อดังหลายคนตั้งแต่เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว สมัยก่อน แกก็ไล่ตามเบิร์ด ธงชัย นิโคล เทอริโอ แต่หลังๆ แกหันมาคลั่งไคล้นักร้องลูกทุ่งแทน ช่วงปีใหม่นี้ แกมาเมืองไทย 6 วัน มีแผนไปพบศิลปินนักร้องทั้งหมด 23 คน ลงเครื่องปุ๊บแกก็ติดรถเพื่อนคนไทยไปแถวลำลูกกาเพื่อไปดูคอนเสิร์ตลูกทุ่งเลย
ตอนทานข้าวด้วยกัน แกถามดิฉันก่อนเลยค่ะว่า รู้จักบลูเบอร์รี่ อาร์สยามไหม พอดิฉันตอบว่า “ไม่ค่ะ” แกก็ส่ายหัวและทำเสียงจิ๊จ๊ะ พร้อมโชว์รูปที่ตัวเองถ่ายคู่กับสาวๆในวงให้ดู แกบอกว่า “เนี่ย ในเมืองไทย บลูเบอร์รี่อาร์สยามดังพอๆ กับ AKB 48 ในญี่ปุ่นเลยนะ”
ดิฉันเลยถามว่า “ถ้างั้น รู้จักใบเตยกับกระแตหรือเปล่า” ฮิโร่ซังตอบชัดเจนเลยว่า “เพื่อนสนิท!” พร้อมโชว์รูปถ่ายคู่ให้ดู ดิฉันเจ็บใจมากเลยลองย้ายค่ายศิลปินดูบ้าง และถามว่ารู้จักหญิงลีไหม ที่ร้องเพลงขอใจเธอแลกเบอร์โทรน่ะ แกตอบอีกว่า “เพื่อนสนิท!” โชว์รูปถ่ายคู่ให้ดู (อีกแล้ว) พร้อมทั้งฮัมเพลง ไม่มีอะไรหยุดผู้ชายคนนี้ได้ค่ะ
ความสุดยอดของฮิโร่ซัง ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ค่ะ ดิฉันต้องบอกก่อนว่า ฮิโร่ซังทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่น อ่านเขียนภาษาไทยไม่ได้เลย พูดภาษาไทยก็ไม่ค่อยได้ เวลาคุยกับนักร้อง ก็คุยเป็นภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่นของแกไป แกบอกว่า แกภูมิใจตัวเองมากในการพยายามตามนักร้องลูกทุ่งหลายๆ ค่าย ถ้าเป็นศิลปินค่ายดังๆ อย่างค่ายแกรมมี่เนี่ย แกบอกว่าตามไม่ยาก เพราะเขาจะมีตารางชัดเจนว่าจะจัดคอนเสิร์ตที่ไหน เมื่อไร แต่ถ้าเป็นศิลปินนักร้องลูกทุ่ง ข้อมูลจะหายากมาก เขาจะไม่ได้โปรโมทตามสื่อหลักๆ อย่างโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ไม่มีเว็บไซต์ จะรู้ข้อมูลงานคอนเสิร์ตได้จากแฟนคลับจริงๆ หรือป้ายที่ติดบริเวณงานแถวๆ นั้น เรียกว่า ถ้าไม่ขับรถผ่านก็จะไม่รู้เลย
วิธีการที่ฮิโร่ซังสามารถสืบทราบคอนเสิร์ตต่างๆ ของนักร้องคือ ไปตีสนิทกับผู้จัดการส่วนตัว (ซึ่งมักจะเป็นคุณแม่ของนักร้อง) หรือคนขับรถ ซื้อขนมญี่ปุ่นไปแจก เอาเสื้อ เอาผ้าเช็ดหน้าญี่ปุ่นน่ารักๆ ไปแจก คนเหล่านี้ก็จะยอมบอกข้อมูลเด็ดๆ ให้ว่า นักร้องจะไปที่ไหน คอนเสิร์ตจะมีเมื่อไรค่ะ ฉลาดจริงๆ ฮิโร่ซัง
และนี่คือเรื่องราวของ 8 เซียนญี่ปุ่นผู้หลงใหลและรักเมืองไทยกับคนไทยเหลือเกินค่ะ หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่ดี ทำให้พวกเราชาว marumura ที่รักและชื่นชอบญี่ปุ่นได้รู้สึกภูมิใจในความเป็นไทย และในขณะเดียวกัน ก็รักญี่ปุ่นมากขึ้นนะคะ
ปีใหม่นี้ ดิฉันตั้งใจว่าจะเขียนบทความที่เชื่อมโยงระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ให้คนทั้ง 2 ประเทศเข้าใจกันมากขึ้น รักกันมากขึ้นต่อไปค่ะ สวัสดีปีใหม่ค่ะทุกท่าน ☺
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Japan Gossip by เกตุวดี Marumura