มีนักวิเคราะห์กล่าวว่าหากเพิ่มจำนวนคนทำงานที่เป็นผู้หญิงแล้ว ก็จะได้ประชากรวัยทำงานเพิ่มถึง 8 ล้านคนเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเรามาดูกันว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ผู้หญิงไม่ค่อยอยากทำงานประจำตามบริษัท
ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีปัญหาประชากรลดลง มีผู้สูงอายุมากขึ้น ดังนั้นประชากรวัยทำงานจึงลดลงเรื่อยๆ จนถึงขั้นวิกฤต สาเหตุส่วนหนึ่งมากจากการที่ประชากรเพศหญิงทำงานเพียงแค่ประมาณ 60% และมักจะหยุดงานเป็นเวลากว่าสิบปีช่วงที่ลูกเกิดจนโต บางคนก็ออกจากงานอย่างถาวรเมื่อมีลูก
มีนักวิเคราะห์กล่าวว่าหากเพิ่มจำนวนคนทำงานที่เป็นผู้หญิงแล้ว ก็จะได้ประชากรวัยทำงานเพิ่มถึง 8 ล้านคนเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเรามาดูกันว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ผู้หญิงไม่ค่อยอยากทำงานประจำตามบริษัท
เป็นแม่บ้านสบายกว่า มีคนกล่าวว่าการเป็นแม่บ้านนั้นเพียงมีหน้าที่ทำอาหารสามมื้อ และนอนกลางวัน โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่นที่มีวัฒนธรรมการทำงานแบบบ้าเลือด จึงมีผู้หญิงจำนวนมากเลือกที่จะเป็นแม่บ้านมากกว่าต้องเผชิญกับความเคร่งเครียดในการทำงานบริษัท
ตัวตนไม่ได้อยู่ที่งานแต่อยู่ที่สามี ผู้หญิงหลายคนที่จบการศึกษาระดับสูง แต่เลือกที่จะทำงานพาร์ทไทม์แลกกับรายได้ที่ไม่มากนัก ทั้งนี้เธอเหล่านั้นเชื่อว่าตัวตนของเธอไม่ได้อยู่ที่ว่าเธอทำงานอะไร แต่อยู่ที่ว่าเธอเป็นภรรยาใคร เช่น เป็นภรรยาของประธานบริษัทมิตซุบิชิ คอร์เปอเรชั่น เป็นต้น
ทำงานพาร์ทไทม์มีเวลามากกว่า การทำงานบริษัทที่ต้องใช้เวลาตลอดทั้งวัน หนำซ้ำยังอาจต้องอยู่ดึกดื่นเพื่อทำงานหรือดื่มสังสรรค์กับลูกค้าทำให้ไม่มีเวลาดูแลครอบครัว หลายคนๆ จึงเลือกจะทำงานสบายๆไม่กี่ชั่วโมงเพื่อมีเวลาเลี้ยงลูก ดูแลครอบครัว เพราะผู้หญิงญี่ปุ่นถูกคาดหวังว่าจะต้องทำงานบ้าน ดูแลบ้านอยู่แล้ว หากทำงานประจำด้วยก็ต้องเหนื่อยเป็นสองเท่า
บริษัทนิยมจ้างผู้ชายและผู้ชายมีตำแหน่งการงานสูงกว่า ระบบการทำงานของญี่ปุ่นที่เน้นการจ้างงานตลอดชีพนับตั้งแต่จบการศึกษา จึงทำให้เป็นการยากมากที่จะลาหยุด (แม้แต่ลาคลอดก็ตาม) เพราะการโปรโมตขึ้นตำแหน่งหรือเงินเดือนจะดูระยะเวลาการทำงานและการทำงานล่วงเวลามากกว่าผลงาน หลายๆ บริษัทจึงนิยมจ้างผู้ขายมากกว่าและให้ตำแหน่งสูงกว่า เพราะบริษัทเกรงว่าผู้หญิงทำงานไปสักพักก็จะลาคลอดหรือลาออกไปเลี้ยงลูกทำให้สิ้นเปลืองค่าฝึกอบรบพนักงาน พนักงานผู้หญิงจึงมักถูกจำกัดในการทำงานเอกสารซึ่งเงินเดือนก็น้อยกว่าและไม่มีโอกาสก้าวหน้า
คนญี่ปุ่นนิยมเลี้ยงลูกเอง คนญี่ปุ่นนิยมเลี้ยงลูกเองมากกว่าไปจ้างสถานรับเลี้ยงเด็ก นอกจากนี้ในหลายๆแห่งยังหาสถานรับเลี้ยงเด็กยากมาก เพราะส่วนใหญ่จะเป็นสถานรับเลี้ยงคนชรามากกว่า
วัฒนธรรมผู้หญิงดูแลผู้ชาย เมื่อเทียบกับไทยแล้ว ผู้หญิงญี่ปุ่นนั้นถูกคาดหวังที่จะต้องดูแลเทคแคร์ผู้ชายมากกว่ามาก เช่น ทำข้าวกล่องให้แฟนหรือสามี ให้ของขวัญผู้ชายในวันวาเลนไทน์ ถักผ้าพันคอหรือทำขนมให้ เมื่อแต่งงานแล้วผู้หญิงต้องดูแลครอบครัวและลูกๆ เนื่องมาจากผู้ชายต้องทำงานอย่างหนัก หน้าที่ในบ้านทั้งหลายและลูกๆจึงตกแก่ฝ่ายหญิง และสังคมญี่ปุ่นก็เห็นว่าการเป็นแม่บ้านนั้นมีความสำคัญ
อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน ค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้คู่แต่งงานหลายคนต้องอาศัยรายได้จากทั้งสองฝ่าย และผู้หญิงหลายๆคนก็อยากใช้ความรู้ความสามารถตัวเองในการทำงานประจำมากขึ้นในบริษัทต่างชาติหรือบริษัทญี่ปุ่นสมัยใหม่ที่มี Work-Life Balance มากกว่า นอกจากนี้รัฐบาลยังต้องให้ความสนับสนุนผู้หญิงในเรื่องโอกาสในการทำงานและสถานที่รับเลี้ยงเด็ก เพื่อที่ผู้หญิงจะได้มีบทบาทมากขึ้นในที่ทำงานค่ะ
เรื่องแนะนำ :
– ทำงานที่ญี่ปุ่น … เที่ยงนี้ กินอะไรดี
– นั่งรถไฟไปทำงาน อุปสรรคที่พบพานทุกเช้าเย็น
– ผ่อนคลายสบายใจ คนญี่ปุ่นทำอะไรหลังเลิกงาน
– ฟุดฟิดฟอไฟ ทำไมคนญี่ปุ่นไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษ
– เหนื่อยนักก็พักบ้าง
ขอบคุณรูปภาพ :
-http://thediplomat.com/2014/03/rising-conservatism-among-japanese-housewives/
-http://japandailypress.com/tag/skilled-workers/
-http://hereandtherejapan.blogspot.com/2006_06_01_archive.html
#บทบาทสตรีญี่ปุ่นในที่ทำงาน