หลายๆ คนบ่นว่า “ไม่มีเวลาหาแฟน” หรือ “คนดีๆ หาได้ที่ไหน ไม่มีโอกาสได้เจอ” เรามาดูวิธีหาคู่แบบญี่ปุ่นซึ่งสามารถนำมาใช้กับคนไทยในสังคมปัจจุบันได้เช่นเดียวกันค่ะ
หนุ่มสาวยุคใหม่ทั้งที่ญี่ปุ่นและไทยจำนวนมากยุ่งกับการทำงาน และในที่ทำงานก็ดันหาคนโสดที่น่าสนใจไม่ได้เลย จนหลายๆ คนบ่นว่า “ไม่มีเวลาหาแฟน” หรือ “คนดีๆ หาได้ที่ไหน ไม่มีโอกาสได้เจอ” เรามาดูวิธีหาคู่แบบคนญี่ปุ่นซึ่งสามารถนำมาใช้กับคนไทยในสังคมปัจจุบันได้เช่นเดียวกันค่ะ
1) การดูตัว (お見合い) โดยส่วนมากคนรู้จักจะทำหน้าที่แนะนำฝ่ายชายและฝ่ายหญิงให้รู้จักกัน ในอดีตมักจะเป็นญาติๆหรือแม่สื่อของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ในปัจจุบันก็มักจะเป็นเพื่อนของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ในปัจจุบันวิธีนี้ยิ่งทำได้ง่ายขึ้นโดยการใช้เฟชบุ้กหรือโซเชียลมีเดียอื่นๆค่ะ เราอาจลองหาดูว่ามีใครที่เป็นเพื่อนของเพื่อนเราที่ยังโสดอยู่บ้างและลองให้เพื่อนแนะนำให้ค่ะ เพียงแค่คุณแสดงตัวให้ชัดเจนว่า “โสด” และ “ต้องการหาคนรู้ใจ” อาจบอกผ่านเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ และให้เขาช่วยแนะนำคนที่คิดว่าน่าจะไปกันได้ แต่หากเราไม่บอกความต้องการของตัวเอง เพื่อนคุณอาจคิดว่าไม่อยากมีใคร ก็เลยไม่ได้แนะนำให้รู้จัก
2) การนัดบอด ผู้ชายและผู้หญิงที่ยังโสดอาจหาเพื่อนๆมาเอง หรือคนกลางที่เป็นเพื่อนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจนัดแนะเพื่อให้ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจำนวนเท่าๆกัน เช่น ชาย 10 คน หญิง 10 คน มาพบปะสังสรรค์กัน โดยทุกคนจะมีโอกาสแนะนำตัวและพูดคุยกับอีกฝ่ายสั้นๆ และเปลี่ยนคู่ การแนะนำตัวไปเรื่อยๆ แบบนี้เป็นการให้เราคัดกรองว่าใครที่น่าจะเข้ากับเราได้โดยดูจากรูปร่าง หน้าตา บุคลิกภาพ การพูดจา อาชีพการงาน ความสนใจของอีกฝ่าย ฯลฯ หากคู่ใดรู้สึกว่าคุยกันได้ดีและอยากจะสานสัมพันธ์ต่อก็สามารถทำได้หลังจากจบปาร์ตี้ไปแล้ว ที่ประเทศไทยเองมีบริษัทจัดหาคู่หลายแห่งนิยมจัดกิจกรรมนัดบอดเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะโอกาสพิเศษต่างๆเช่น วันวาเลนไทน์ วันคริสต์มาส ฯลฯ
3) บริษัทจัดหาคู่ เป็นที่นิยมมากในประเทศอื่นๆรวมทั้งญี่ปุ่น และด้วยวิถีชีวิตคนโสดในปัจจุบันที่ยุ่งจนไม่มีเวลา ช่องทางการหาคู่เหล่านี้จึงเป็นที่นิยมมากขึ้น ก่อนอื่นเขาก็จะให้เรากรอกข้อมูลเกี่ยวกับตัวเรา และคุณสมบัติของผู้ชาย หรือผู้หญิงที่เราต้องการทั้ง อายุ การศึกษา รูปร่าง ส่วนสูง นิสัยใจคอ งานอดิเรก รวมถึงอาจมีการทำข้อสอบจิตวิทยาเพื่อให้รู้ว่า เรามีบุคลิกอย่างไรและเหมาะกับคนแบบไหน ดิฉันสอบถามเพื่อนที่เคยเปิดบริษัทจัดหาคู่ในไทยก็พบว่า คุณสมบัติของคนที่บริษัทจัดหาคู่หามาให้ดีจริงๆ เพราะบริษัทคัดกรองมาให้เราแล้ว จึงเป็นการประหยัดเวลาในการเลือกเองค่ะ ทำให้เชื่อเลยว่ายังมีคนโสดดีๆ น่าสนใจอยู่อีกเพียบ แต่ค่าบริการของบริษัทจัดหาคู่อาจสูงพอสมควร และหากเราได้พบคนคนนั้นแล้ว เราจะเข้ากับเขาได้ไหม หรือเคมีตรงกันไหมก็เป็นอีกเรื่อง
4) เว็บไซต์หาคู่ ก็จะคล้ายกับบริษัทจัดหาคู่แต่โดยมากไม่มีการเก็บค่าบริการ และต่างกันตรงที่เราต้องเป็นคนที่ใส่รายละเอียดของตัวเอง รูปถ่าย และคุณสมบัติของผู้คนที่เราอยากได้เป็นแฟน ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการจะนำเสนอตัวเองแบบไหน เขียนให้ชัดเจนว่าเรามีบุคลิกลักษณะอย่างไร ชอบผู้ชายหรือผู้หญิงแบบไหนเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเวลาคุยกับคนที่ไม่ใช่ รูปถ่ายก็สำคัญค่ะ เช่น หากเราต้องการหาคู่ครอง เราก็ควรจะใส่รูปที่เหมาะสม ไม่ใช่รูปที่เปิดเผยร่างกายมากเกินไปหรือใส่ชุดว่ายน้ำ เป็นต้น
ดิฉันเคยลองใช้เว็บไซต์หาคู่ และก็ต้องประหลาดใจว่ามีคนคุณสมบัติดีๆ มากมายที่ใช้บริการแบบนี้ เว็บไซต์หาคู่จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม แต่หากนัดเจอกับคนที่รู้จักทางเว็บไซต์ ก็ควรจะระวังให้มากกว่าปกติ และควรนัดเจอในที่สาธารณะ เพราะเราไม่รู้ว่า คนเหล่านั้นดีหรือไม่ดียังไง หรือเป็นพวกหลอกลวงหรือเปล่า และควรจะคุยกันให้นานพอสมควรก่อนจะนัดออกมาเจอกันค่ะ
5) แหล่งกิจกรรมที่คุณชื่นชอบ หรือกลุ่มที่คุณมีค่านิยมร่วม เช่น ฟิตเนส โรงเรียนสอนเต้นรำ โบสถ์ สมาคม กลุ่มอาสาสมัครชมรมต่างๆ หรือการสัมมนาเพื่อการพัฒนาตัวเอง ข้อดีในการพบคนรู้ใจจากช่องทางนี้ก็คือ คุณจะได้เจอคนที่มีความสนใจบางอย่างร่วมกัน ทำให้มีเรื่องคุยกันถูกคอ คนในกลุ่มกิจกรรมโดยมากอาจเป็นเพื่อนของเพื่อนที่ทำให้คุณไว้ใจได้ระดับหนึ่ง ดิฉันมีเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่พบคู่จากโรงเรียนสอนเต้นรำ และกลุ่มดำน้ำค่ะ พวกเขาเข้ากันได้ดีมาก เพราะจะได้ทำกิจกรรมนั้นๆ ร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม ต้องอย่าลืมว่า “การเดท” คือการเรียนรู้อีกฝ่ายเพื่อเป็นพื้นฐานการพัฒนาไปสู่ความสัมพันธ์ที่มั่นคง หมายถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ช้าๆ อย่างระมัดระวัง และต้องรู้จักรักษาสมดุลระหว่างหัวสมองและหัวใจ เราจึงไม่ควรไปหลงรักใครบางคนจนหมดหัวใจ ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้มีทัศนคติร่วมกันกับเราเลย ดังนั้นถึงแม้ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงที่เราพบจะมีเสน่ห์ เท่สุดๆ ยังไง ก็ต้องอย่าลืมประเมินว่าคนนี้เหมาะกับเราหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราควรรู้ว่าเราต้องการอะไร ชอบคนแบบไหน ต้องชัดเจนกับตัวเองว่า “อะไรที่ยอมรับได้” และ “ยอมรับไม่ได้” ให้คิดอยู่เสมอว่า “เรามีตัวเลือก” อย่าเพิ่งผูกมัดตัวเองกับคนที่ยังไม่ได้คิดแบบเดียวกัน และควรเปิดโอกาสให้ตัวเองที่จะพบคนอื่นๆ จนกว่าจะแน่ใจว่าทั้งเขาและคุณมีความต้องการที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ให้ก้าวหน้าไปอีกระดับค่ะ
สามารถติดตามเรื่องราวแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจด้วยความรักในหนังสือ “Japan Success ธุรกิจสำเร็จได้ด้วยใจรัก” ตามแผงหนังสือชั้นนำ และ สามารถพูดคุยสื่อสารกับพิชชารัศมิ์ได้ที่ FB: Life Inspired by พิชชารัศมิ์
เรื่องแนะนำ :
– ผู้หญิงญี่ปุ่นอยากแต่งงานเร็ว และผู้ชายแบบไหนที่พวกเธอไม่ชอบ
– Tsukakoshi ประธานบริษัท Ina Food ผู้ได้ชื่อว่าเป็นเจ้านายที่ดีที่สุด
– แอปเปิ้ลมหัศจรรย์ของ Akinori Kimura ที่ใช้เวลาปลูกมากกว่า 10 ปี
– 10 ข้อสังเกตว่าคนนี้เหมาะจะเป็นแม่บ้าน (แม่ของลูก) ฉบับชาวญี่ปุ่น
– หีบห่อของขวัญญี่ปุ่นที่มอบประสบการณ์ที่ดีแก่คนซื้อ
– บริษัทญี่ปุ่นที่สั่งให้พนักงานสื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
https://okinawa.stripes.com/news/so-i-married-japanese-man
Illustration by Christi Rochin