วันก่อนอาอี๊บ่นว่าเครื่องสำอางญี่ปุ่นไม่เห็นดีอย่างที่ดิฉันบอกเลย ดิฉันยังยืนกรานว่ามันดี อาอี๊บอกว่าครีมล้างหน้าที่ลื้อซื้อมาไอ้หลอดฟ้าๆ น่ะ มันเหนียวๆ ล้างแล้วเหมือนไม่สะอาด ดิฉันโล่งใจพร้อมยิ้มอย่างผู้มีชัยชนะ ครีมญี่ปุ่นเขาดีอยู่แล้ว แต่อาอี๊ใช้ผิด
วันก่อนมีคนใกล้ตัวดิฉันบ่นว่าเครื่องสำอางญี่ปุ่นไม่เห็นดีอย่างที่ดิฉันบอกเลย (คนใกล้ตัว = อาอี๊วัย 60 ปี) ด้วยเกียรตินักเรียนทุนญี่ปุ่น ดิฉันรักและผูกพันกับประเทศและสินค้าประเทศนี้บ้าง จึงต้องออกหน้าปกป้อง ดิฉันยังยืนกรานว่ามันดี อาอี๊บอกว่าครีมล้างหน้าที่ลื้อซื้อมาไอ้หลอดฟ้าๆ น่ะ มันเหนียวๆ ล้างแล้วเหมือนไม่สะอาด
ดิฉันโล่งใจ…พร้อมยิ้มอย่างผู้มีชัยชนะ
ครีมญี่ปุ่นเขาดีอยู่แล้ว แต่อาอี๊ใช้ผิดต่างหาก…
ลองมาดูกันนะคะว่ามีเครื่องสำอางญี่ปุ่นอะไรบ้าง ที่เพื่อนๆ หลายคนอาจใช้ผิดวิธีอยู่…
1. Shiseido Perfect Whip Foam
สบู่ล้างหน้ายอดฮิตที่ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นก็ต้องซื้อมาฝาก (หรือโดนฝากซื้อ) แต่..หากใช้บีบลงในมือแล้วละเลงหน้าเลย คุณจะรู้สึกว่าสบู่หลอดนี้มันฮิตกันเข้าไปได้ยังไง และเริ่มครหามาตรฐานสินค้าญี่ปุ่น
แต่เดี๋ยวก่อน … สบู่ล้างหน้าหลอดนี้มีวิธีการใช้ที่สนุกนิดหนึ่งค่ะ ตามชื่อสินค้า “Whip foam” เพราะฉะนั้น เราต้องตีครีมให้เป็นฟอง ง่ายๆ ค่ะ
1. บีบสบู่ล้างหน้าให้ยาวเท่ายาสีฟันที่คุณใช้แปรงฟันทุกเช้าลงบนอุ้งมือ
2. เหยาะๆ น้ำลงไปหน่อย
3. ค่อยๆ เอานิ้วสองนิ้วถูๆ ในลักษณะกวักนิ้วเข้าหาตัว
4. พอเริ่มเกิดฟอง อาจค่อยๆ ใส่น้ำเข้าไปอีก
5. ใส่น้ำเข้าไปอีกเล็กน้อยแล้วตีฟองบนอุ้งมือไปเรื่อยๆ จนได้ฟองในระดับที่พอใจ
6. เอาฟองนั้นมาล้างหน้าจ้า
ใครรู้สึกว่าตีฟองเองแล้วยาก แนะนำให้ใช้ตาข่ายช่วยตีฟองค่ะ ถ้าไปญี่ปุ่นมันจะมีขายตาข่ายสำหรับตีฟองสบู่ล้างหน้าเลยโดยเฉพาะ คือ เอาตาข่ายนี่มายีๆๆ ฟอง แล้วก็รูดออก เราก็จะได้ฟองจำนวนมหาศาลพอล้างหน้าได้แล้ว หาซื้อได้ตามร้านร้อยเยน ร้านมูจิ และร้านขายยาทั่วไปค่ะ (ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “อาวะ ตาเตะ เน็ทโตะ -泡立てネット” ค่ะ) หรือเราอาจใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน เอาที่ตาข่ายขัดตัวบ้านเราที่ขายกันลูกละ 70-80 บาทมาใช้ ก็ได้เหมือนกัน
Shiseido ภูมิใจในเทคโนโลยีหนักหนา ฟองครีมขาวละเอียดเหล่านี้จะช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกตามรูขุมขนได้ดีกว่าเจล ล้างหน้าทั่วไปค่ะ นอกจากจะล้างหน้าได้สะอาดแล้ว ยังทำให้สาวๆ ได้สนุกกับการตีฟองนุ่มๆ อีกด้วย
2. โลชั่น Hada Labo
โลชั่นยี่ห้อนี้เป็นอีกตัวที่ฮือฮาในไทยแถมทำโฆษณาเสียด้วย ต่างกับบริษัทเครื่องสำอางญี่ปุ่นเจ้าอื่นที่ไม่ค่อยทำตัวโดดเด่นเท่าไร ฮาดะลาโบะเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ใบหน้า เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนผิวแห้งค่ะ
ก่อนที่จะกลายเป็นการรีวิวเครื่องสำอาง… มาดูวิธีใช้กันนะคะ ขั้นแรก เทโลชั่นลงบนอุ้งมือ จากนั้นก็ทาบนหน้า ถึงจุดนี้ทุกๆ ท่านคงนึกว่าเสร็จแล้ว …. แต่เดี๋ยวก่อน นี่คือสิ่งที่เราชาวไทยลืมเลือนกันค่ะ!
เมื่อทาเสร็จเราต้องเอาอุ้ง มือตบๆ หน้านิดหนึ่ง จริงๆ ก็ไม่เชิง “ตบ” แต่เป็นการ “ดัน” มากกว่า เอามือแปะและดันเบาๆ นับ 1-2 แล้วก็เปลี่ยนที่แปะ ทำอย่างนี้จนทั่วหน้า เอาเข้าจริงใช้เวลาไม่นานหรอกค่ะ
นางแบบนายแบบของโฆษณาผลิตภัณฑ์ตัวนี้แทบทุกคนจะต้องทำท่าดันๆ แปะๆ เหล่านี้จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของฮาดะลาโบะไปแล้วค่ะ ถามว่าทำไมต้องใช้มือตบๆ อีก? เขาว่ากันว่าอุ้งมืออุ่นๆ จะทำให้โลชั่นซึมเข้าผิวหน้าได้ดีขึ้นค่ะ ลองดูนะคะเผื่อแก้มจะยิ่งนุ่มขึ้น ^^
3. ครีมกันแดด Anessa
สารภาพว่าเครื่องสำอางตัวนี้เป็นตัวเดียวที่ดิฉันไม่เคยใช้ แต่เห็นเพื่อนๆ คนไทยชอบซื้อกันเยอะมาก เลยลองเสิร์ชดูว่ามันมีวิธีใช้อะไรที่พิสดารไปมากกว่าการเกลี่ยบนหน้าหรือ เปล่า
ปรากฏว่า…..มีค่ะ
สมเป็นเครื่องสำอางญี่ปุ่น ต้องมีวิธีใช้ที่เป็นเอกลักษณ์นิดหนึ่ง
วิธีใช้ Anessa (และคาดว่ารวมถึงครีมกันแดดทั่วไป)
1. เทครีมกันแดดลงบนฝ่ามือ แล้วใช้นิ้วแต้มไปแตะตรง 5 จุดบนหน้า ได้แก่ โหนกแก้มซ้าย-ขวา คาง จมูก และหน้าผากค่ะ (ถ้าเป็นแบบเจล เทขนาดเท่าเม็ดไข่มุก ถ้าเป็นแบบอีมัลชั่น เทขนาดเท่าเหรียญบาท)
2. ใช้นิ้ววนเบาๆ ตามลูกศรในภาพด้านบน
3. เมื่อครีมกันแดดซึมดีแล้ว ให้ทาซ้ำอีกรอบค่ะ (ยกเว้นถ้าทารองพื้น ก็ไม่ต้องทา 2 รอบจ้ะ)
สินค้าญี่ปุ่นมีดี…และมีวิธีใช้ที่ดี…. แต่พวกเราไม่เคยรู้ 555… ครั้งนี้ เกตุวดีพยายามใช้ความรู้ภาษาญี่ปุ่นที่อุตส่าห์ไปเล่าเรียนมา 8 ปีมาศึกษาและถ่ายทอดวิธีการใช้เครื่องสำอางญี่ปุ่นสุดฮิตให้เกิดประสิทธิภาพ สูงสุดกับใบหน้าของพวกเราชาวไทยกันแล้วค่ะ!
สาวญี่ปุ่นเขาช่างละเอียดกันจริงๆ กว่าจะทา กว่าจะแปะ กว่าจะดัน กว่าจะนวดหน้า ดูแลรักษากันขนาดนี้ มิน่าคนชาตินี้ถึงผิวสวย ผิวดี (ตรรกะประหลาดนิดๆ แต่อยากจบ “สวย” ค่ะ…อิๆ)
คอลัมน์แถม: วิธีดูว่าขวดไหนแชมพู? ขวดไหนครีมนวด?
สินค้าญี่ปุ่นส่วนใหญ่ทำมาเพื่อขายประชากรกว่าร้อยล้านกว่าคนของญี่ปุ่น ตลาดในประเทศมันใหญ่พอที่เขาจะทำขายคนญี่ปุ่นด้วยกันเองเป็นหลัก หลายๆ ครั้ง พวกเราจึงงงกันมากว่าเครื่องสำอางขวดนี้ กระบอกนั้น มันใช่สิ่งที่พวกเรากำลังหาอยู่หรือเปล่า
วิธีสังเกตง่ายๆ นะคะ “แชมพู” เขาจะเขียนว่า “シャンプー” ส่วนครีมนวด เขาจะเขียนว่า “リンス” ค่ะ พยายามหาภาษาญี่ปุ่น 2 ตัวนี้ให้เจอ ส่วนใหญ่เขียนอยู่แถวๆ โลโก้แบรนด์ค่ะ
วิธีสังเกตที่ง่ายกว่านั้น ไม่ต้องงมหาภาษาญี่ปุ่นค่ะ เพียงแค่ใช้มือสัมผัสก็จะทราบความแตกต่าง ขวดแชมพูจะมีรอยหยักตรงหัวจุก กับตรงข้างๆ ขวด ส่วนครีมนวดจะไม่มี
บริษัทญี่ปุ่นทำขวดแบบนี้เพราะ เวลาเราสระผมหรือล้างผม หลายคนหลับตา เพราะฉะนั้น แค่ทำขวดให้หยักแตกต่าง คนสามารถคลำแล้วรู้ได้เลยว่าขวดไหนครีมนวด ขวดไหนแชมพู ผู้ที่สายตาพิการก็พลอยได้รับผลประโยชน์ไปด้วย แฮ้ปปี้กันทุกฝ่ายจ้ะ
ใครไปญี่ปุ่นและคิดจะซื้อ ลองคลำๆ ขวดเพื่อแยกความแตกต่างดูนะคะ
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Japan Gossip by เกตุวดี Marumura