ฮอกไกโดตอนกลางถูกแบ่งเป็นเขตซัปโปโร มีเมืองซัปโปโร เป็นศูนย์กลางการคมนาคมและเศรษฐกิจของเกาะเหนือนี้ มีทั้งท่าอากาศยานชิโตเซะ สถานีรถไฟซัปโปโร ที่น่าเที่ยวในเมืองมี สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลหิมะ (Snow Festival) ที่เลื่องลือในฤดูหนาว
ภูมิภาคฮอกไกโด ถูกล้อมด้วยทะเลรอบด้าน ลักษณะคล้ายปลากระเบน มีภูมิอากาศเย็นสบายในฤดูร้อนและมีฝนตกน้อยกว่าภูมิภาคอื่นๆ ของญี่ปุ่น ทางทิศเหนือสุดเป็นแหลมโซยะ ที่อยู่ระหว่างทะเลญี่ปุ่นและทะเลโอโฮค ทางทิศใต้สุดเป็นที่ตั้งของเมืองปราสาทมะจึมะเอะ ทางทิศตะวันออกสุดเป็นแหลมชิเรโตโคะและมีทะเลสาบสวย ทางตอนกลางเฉียงไปทางทิศตะวันตก มีทั้งเมืองท่าการค้าที่สำคัญ ทะเลสาบและแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติ ทุ่งดอกไม้กลายเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวผู้สนใจในการชิมอาหารทะเลสด ผลไม้ ชมธรรมชาติความงามของทุ่งดอกไม้
ฮอกไกโดตอนกลางถูกแบ่งเป็นเขตซัปโปโร มีเมืองซัปโปโร เป็นศูนย์กลางการคมนาคมและเศรษฐกิจของเกาะเหนือนี้ มีทั้งท่าอากาศยานชิโตเซะ สถานีรถไฟซัปโปโร ที่น่าเที่ยวในเมืองมี สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลหิมะ (Snow Festival) ที่เลื่องลือในฤดูหนาว ตลาดสดนิโจอิจิบะ มีอาหารทะเลสด อีกทั้งผลไม้ตามฤดูกาล ขากลับแวะจับจ่ายของฝากใกล้สถานีซุซุคิโนะ (Susukino) ได้อีกด้วย
การเดินทางจากสถานี JR Sapporo ใช้รถไฟใต้ดินสาย Nanboku (สีเขียว) ลงที่สถานี Odori ใช้เวลาเดิน เพียง 5 นาที แวะเที่ยวชมสวนและตลาดสดก็ได้ แล้วต่อไปชอปปิ้งที่สถานี Susukino เป็นสถานีถัดไป
ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Jingu) เป็นศาลเจ้าของลัทธิชินโตที่มีอายุเก่าแก่ถึง 140 ปี เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้าโยฮะชิระ ผู้พิทักษ์ฮอกไกโดมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกดินแดนนี้ จึงมีผู้ศรัทธาไปมนัสการมากตลอดปี
การเดินทาง จากสถานี รถไฟใต้ดิน Odori ลงที่สถานี Maruyamakoen ใช้เวลา 15 นาที
ข้อมูลเพิ่มเติม ในเวปไซท์: www.welcome.city.sapporo.jp
เมืองท่าโอตะรุ (Otaru) เคยเป็นศูนย์กลางการค้าขาย ระหว่างปลายศตวรรษที่ 18 ถึงต้นศตวรรษที่ 19 มีคลองขุดในปีค.ต.1914 ใช้เวลา 9 ปี บริเวณริมคลองเรียงรายด้วยโกดังเก็บสินค้าเก่าที่ก่อด้วยอิฐ และโคมไฟที่ถูกจุดด้วยแก๊ส เสริมบรรยากาศแสนโรแมนติคในยามค่ำคืนทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาวน่าเดินเล่นยิ่งนัก อาคารโกดังสินค้าเก่าส่วนมากถูกปรับเป็น พิพิธภัณฑ์ ศูนย์อาหารและแหล่งจับจ่ายซี้อของ ที่นักท่องเที่ยวน่าแวะชม ชิมและช๊อป
พิพิธภัณฑ์คลองโอตะรุ (Otaru-shi Sogo Hakubutsukan Unkakan) เป็นอาคารที่ถูกออกแบบสถาปัตยตะวันตกสมัยใหม่ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอาคารแห่งประวัติศาสตร์ของเมืองท่าสำคัญริมคลองโอตะรุ ภายในจัดแสดงเกี่ยวกับธรรมชาติของเมืองโอตะรุที่น่าชมและประวัติของเรือคิตะมะเอะที่น่าสนใจด้วย
ปัจจุบันเมืองท่านี้ลือชื่อในฐานะเมืองแห่งซึชิ เพราะมีย่านถนนร้านซึชิ (Sushiya Dori) ใหญ่เล็กกว่า20 ร้าน กลายเป็นแหล่งบันเทิงที่คึกคักถึงค่ำคืน ยังมีอาคารร้านอาหาร คลองโอตะรุ (Otaru Unka Shokudou) ภายในมีร้านราเมน ร้านอาหารทะเล ที่น่าชิมและลานเบียร์ที่น่าดื่ม เป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ยังมี อาคารอุนคะพลาซ่า (Unka Plaza) ที่น่าช้อปปิ้ง ภายในมีร้านค้าอาหารทะเลแปรรูป และของกินต่างๆ อีกทั้งมีการจำหน่ายสินค้าท้องถิ่น สินค้าหัตถกรรม สำหรับนักท่องเที่ยว
การเดินทาง จากสถานี JR Sapporo โดยสายรถไฟJR Hakodate ลงที่สถานี JR Otaru ใช้เวลา 50 นาที แล้วเดินจากสถานีไปประมาณ 10 นาที
ข้อมูลเพิ่มเติมในเวปไซท์ : www.otaru.gr.jp
บ่อน้ำแร่ธรรมชาติ ทางตอนกลางที่มีชื่อเป็นแหล่งพักตากอากาศที่มีโรงแรม และรีสอร์ทยอดนิยมได้แก่ บ่อน้ำแร่ Jozankei Onsen แหล่งน้ำแร่ Niseko Onsen มีบ่อน้ำแร่กลางแจ้ง ทั้งลานสกีบนที่ราบสูงที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ภูเขาโยเท(Mt.Yotei) และ บ่อน้ำแร่ Toyako Onsen ริมทะเลสาบซึ่งเป็นที่จัดงานเทศกาลดอกไม้ไฟ ในฤดูร้อน ยังมีอีก 1ในแหล่งน้ำแร่ชั้นนำของญี่ปุ่นแหล่งน้ำแร่ Noboribetsu อุดมสมบูรณ์ด้วยน้ำแร่ชนิดต่างๆ อีก 11 บ่อ แหล่งที่มีความนิยมเรียกว่า Jikokudani หมายถึงหุบเขานรก มีควันไอน้ำพุร้อนพวยพุ่งขึ้นมาตลอดเวลา
ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่เมืองฟุระโน่ (Laveder Field Furano) บนเนินสูง คะมิฟุระโน่ (Kami-furano) และนะคะฟุระโน่ (Naka-furano) จะบานสวยสะพรั่งที่สุดตลอดเดือนกรกฎาคม งามสุดสายตาราวกับพรมดอกลาเวนเดอร์สีม่วง โดยเฉพาะที่ทุ่งโทมิตะ (Tomita Farm) ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตรงกับชื่อของเจ้าของฟาร์มผู้เพียรพยายามบุกเบิกและลองปลูกเรื่อยมาทุกปี กระทั่งเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นผู้รักดอกไม้ไปแวะชมและช้อป ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากดอกลาเวนเดอร์หลายหลากเป็นของฝากอีกด้วย
เนินสูงบิเอ ยังมีทุ่งข้าวสาลี ทุ่งมันฝรั่ง หลากสีเขียวขาวเหลือง เป็นอีกแหล่งธรรมชาติหนึ่งที่น่าแวะชม เพราะอยู่บนเส้นทางถัดจากเมืองฟุระโนไปไม่ไกล เป็นทางผ่านไปเมืองอะซะฮิคะวะ (Asahikawa) ที่เป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวของตอนกลางด้วย ในเมืองมีสวนสัตว์อะซะฮิยะมะ (Asahiyama Zoo) เป็นที่จัดแสดงความสามารถของแมวน้ำ สัตว์เมืองหนาว เช่น เพนกวินน่ารักเดินออกกำลังกาย
ภูเขาอะซะฮิดะเค (Mt.Asahidake) ในบริเวณของเมืองคะมิคะวะ (Kamikawa City) อยู่ทางตะวันออกของเมืองอะซะฮิคะวะ เป็นเขาที่สูงสุดบนเกาะนี้ ความสูง 2,290 ม. มีกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติรอบทิศได้ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไดเซจึซัน (Daisetsusan National Park)
เป็นแหล่งชมใบไม้แดงที่มีชื่อในฤดูใบไม้ร่วง และยังมีบ่อน้ำพุร้อนโซอุนเคียว (Sounkyo Onsen) และน้ำตกจากผาสูงชื่อ น้ำตกริวเซ (Ryusei Fall) และน้ำตกกินกะ (Ginga Fall) ที่นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการชมป่าเขาลำเนาไพร แล้วพักในโรงแรมที่มีห้องแช่น้ำแร่ท่ามกลางธรรมชาติได้อย่างผ่อนคลาย
ทางตอนใต้สุดของเกาะนี้เป็นเมืองแห่งปราสาทมะจึมะเอะ (Matsumae Castle) ที่อยู่เหนือสุดของญี่ปุ่นเคยเป็นที่พักอาศัยของซะมุไรตระกูลมะจึมะเอะ สมบัติที่มีค่าได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของฮอกไกโดโดยชาวเมืองมะจึมะเอะเป็นผู้เลือก
เมืองท่าฮะโคดะเทะ (Hakodate City) เป็นศูนย์กลางการค้าขายที่เจริญรุ่งเรืองตั้งแต่ต้นยุคเมจิเรื่อยมาจนปัจจุบัน ได้กลายเป็นเมืองท่าสำคัญแห่งการท่องเที่ยวที่อุดมด้วยอาหารทะเลสดและสมบูรณ์ด้วยที่เที่ยวธรรมชาติ
ทางใต้ของเมืองมีภูเขาฮะโคดะเทะ (Mt.Hakodate) ที่ติดอันดับหนึ่งภูเขาที่สามารถชมทิวทัศน์จากยอดเขายามราตรีได้สวยสุดในโลก
ทางตะวันออกของเมืองมีป้อมปราการแห่งแรกที่ถูกสร้างแบบตะวันตกเป็นรูปทรงดาว และเคยใช้ป้องกันศัตรูทางทะเล ตอนเกิดสงครามฮะโคดะเทะในปี ค.ศ.1886 ปัจจุบันถูกปรับเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะ (Hakodate Goryokaku Park) ที่มีชื่อในการชมดอกซะคุระในฤดูใบไม้ผลิ
ทางเหนือของเมืองมีสวนสาธารณะโอนุมะ (Onuma Park) ที่มีทะเลสาบโคนุมะ (KonumaLake) อยู่เบื้องหน้า และมีภูเขาโคมะกะดะเค (Mt. Komagadake) เป็นฉากหลังเสริมให้มีความงามตามธรรมชาติที่สวยลงตัวตลอดทุกฤดูกาล น่าเดินเล่นสำหรับผู้รักธรรมชาติอย่างแท้จริง
การเดินทางจากสถานีJR Hakodate โดยรถไฟสาย JR Hakodate ลงที่สถานี JR Onuma Koen ใช้เวลา 20 นาที ข้อมูลเพิ่มเติมดูในเวปไซท์ : http://en.visit-hokkaido.jp/