เรามาต่อกันอีกครึ่งทางของ 18 ปีแห่งวันธรรมดากับสมุดบันทึก Hobonichi กันเลยดีกว่าค่ะ ไอซึก็อยากจะรู้แล้วสิว่าเส้นทางของพวกเขาจะสนุกขนาดไหนกันนะ
สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ วันหยุดยาวช่วงปีใหม่เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? ไอซึเชื่อว่าต้องเป็นช่วงเวลาที่ดีแน่ ๆ เลยเนอะ
เอาล่ะ เรามาต่อกันอีกครึ่งทางของ 18 ปีแห่งวันธรรมดากับสมุดบันทึก Hobonichi กันเลยดีกว่าค่ะ ไอซึก็อยากจะรู้แล้วสิว่าเส้นทางของพวกเขาจะสนุกขนาดไหนกันนะ
ปี 2010 รูปแบบปกที่มีมากถึง 54 แบบ
ปี 2010 นี้ถือได้ว่าเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อน ๆ ทีมนักออกแบบต้องการที่จะขยายรูปแบบของสินค้าให้มีมากขึ้น พวกเขาท้าทายตัวเองด้วยการออกแบบปกลายใหม่ ๆ ในทุก ๆ เดือนและจบปีด้วยจำนวนปกที่มีให้เลือกมากถึง 54 แบบ และในปีนี้ก็ยังเป็นปีแรกในการเริ่มต้นคอลเลคชั่นปกหนังระดับไฮเอนด์อย่าง Henry Cuir ซึ่งเป็นการร่วมกันออกแบบครั้งแรกระหว่างทีมดีไซน์เนอร์ของ Hobonichi กับแบรนด์เครื่องหนังแถวหน้าอย่าง Henry Cuir
และนอกจากนั้นในปี 2010 นี้ก็ยังมีการจัดทำคอลเลคชั่นพิเศษขึ้นมาอีกมากมายค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เสื้ออย่าง Morikage, บริษัทปากกาชื่อดังอย่าง OHTO Pen เป็นต้น รวมไปถึงคอลเลคชั่นที่ชื่อว่า The World Folk Patterns series ที่เริ่มวางจำหน่ายทั้งหมด 3 ลายด้วยกัน คือเม็กซิโก, ฟินแลนด์ และแอฟริกา
และในปีนี้ก็ยังเป็นปีที่ 2 สำหรับการวางขายสมุดบันทึกขนาด A5 หรือ Cousin ซึ่งหลังจากทำการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าและนำเข้าที่ประชุม ผลสรุปจึงออกมาว่าจะเพิ่มขนาดลายตารางจากขนาด 3.45 mm เป็น 3.7 mm
และนอกจากนี้ผู้ใช้ส่วนมากได้ออกความคิดเห็นว่าพวกเขาอยากได้คำคมหรือประโยคข้อคิดที่มีในขนาด Original ใส่ไว้ในขนาด Cousin ด้วยจะได้หรือไม่? ทำให้ปีนี้นั้นทางนักออกแบบได้จัดทำสมุดรวมคำคมประจำวันที่รวมคำคมหรือประโยคข้อคิดที่มีให้ในแต่ละวันใส่ไว้เป็นเล่มเล็ก ๆ แยกออกจากตัวสมุดบันทึก แถมไปให้สำหรับลูกค้าที่ใช้ขนาด A5 หรือ Cousin อีกด้วยค่ะ
ซึ่งไอซึคิดว่ามันดีมาก ๆ เลย สามารถพกพาติดตัวไปได้ทุกที่อีกด้วยค่ะ โดยปีนี้วางจำหน่ายในวันที่ 1 กันยายน ปีค.ศ.2009 กับจำนวนปกที่มีให้เลือกมากถึง 54 แบบ ของแถมก็จะเป็นแผ่นพลาสติกฉลุลายหมีโฮโบนิชิ, ปากกาลูกลื่น, ที่คั่นหนังสือ และปกสมุดใส โดยปีนี้ทำยอดขายไปได้ถึง 350,000 เล่มด้วยกันค่ะถล่มทลายเลยทีเดียว
ปี 2011 ฉลองครบรอบปีที่ 10 ด้วยขนาดใหม่ Weeks!!
ครบรอบ 10 ปีของสมุดบันทึกอย่าง Hobonichi แล้วค่ะ ฮู่เร่~ เวลาช่างผ่านไปเร็วเสมอ ปีนี้ทางบริษัทก็ได้ออกสมุดขนาดใหม่เพิ่มเข้ามาค่ะ สมุดขนาดใหม่นี้มีชื่อว่า Weeks ค่ะ โดยขนาดจะเล็กและบางกว่าทั้งสองขนาดที่ออกมาก่อนหน้านี้
ตัวสมุดมีความยาวเท่ากระเป๋าสตางค์ใบยาวเพียงเท่านั้นค่ะ และภายในก็ยังในมีแบ่งเป็นด้านสำหรับจดบันทึกประจำวันแบ่งช่องเอาไว้ให้ครบ 7 วัน ส่วนอีกด้านเป็นกระดาษลายตารางเอาไว้จดบันทึกค่ะ และเพื่อให้สอดคล้องกับขนาดของสมุดที่เล็กลงก็มีการปรับขนาดก็เส้นตารางให้มีขนาดลดลงเหลือ 3.45 mm โดยสมุดขนาด Weeks จะมาพร้อมปกสีดำคาดยาวด้วยสีขาว และไม่มีคำพูดใดๆ อยู่บนปกสมุดค่ะ
ซึ่งจริง ๆ แล้วตัวปกสมุดนี้ได้มาด้วยความไม่ตั้งใจค่ะ เรื่องมีอยู่ว่าผู้ที่ออกแบบปกของสมุดบันทึกขนาด Weeks นี้ชื่อว่าคุณทาคุ (Taku Satoh) ซึ่งได้ทำการร่างแบบให้ปกสมุดนี้เป็นสีดำล้วนและเว้นสีขาวเอาไว้เพื่อหมายถึงบริเวณสันปกค่ะ หลังจากนั้นจึงทำการส่งแบบให้กับคุณชิเกะซาโต้ (Shigesato Itoi)
แต่คุณชิเกะซาโต้กลับเข้าใจผิดคิดว่าสีขาวนั้นรวมอยู่ในการออกแบบของหน้าปกด้วยเลยผลิตตัวอย่างออกมาเป็นแบบที่มีสีขาวคาดยาวลงมาทางด้านซ้าย หลังจากคุณทาคุได้มาเห็นปกตัวอย่างก็คิดว่ามันก็สวยดีและคิดว่าน่าจะเป็นความคิดที่ดีถ้าหากตัดสินใจวางขาย และผลก็ออกมาตามคาดค่ะ ลายปกนี้ก็ได้รับความนิยมเพราะมีความเรียบง่ายและก็ขายดีมาจนถึงปัจจุบันเลย
และในปีนี้ก็ยังมีกระเป๋าพิเศษที่จัดทำขึ้นมาเพื่อสมุดบันทึกขนาด Weeks ด้วยค่ะ เป็นกระเป๋าผ้าสีดำใบยาวขนาดเท่ากับสมุด และภายในก็ยังมีช่องใส่ของกระจุกกระจิกอื่น ๆ ซึ่งกระเป๋าใบนี้ใช้ชื่อว่า “Black Case” เป็นการร่วมกันออกแบบระหว่าง Hobonichi และแบรนด์กระเป๋าอย่าง Porter
ซึ่งกระเป๋าใบนี้ได้รับความนิยมจากทีมงานชายใน Hobonichi เป็นอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ ในปีนี้วางจำหน่ายในวันที่ 1 กันยายน ปีค.ศ. 2010 ด้วยปกที่มีให้เลือกถึง 56 แบบ และสมุดทั้งหมด 3 ขนาดด้วยกัน ของแถมในปีนี้คือ การ์ดวันอุณหภูมิจาก OHTO, ปากกาลูกลื่น, ที่คั่นหนังสือ และปกใส ซึ่งยอดขายสำหรับปีนี้ตัวเลขอยู่ที่ 400,000 เล่มค่ะ
ปี 2012 มายิ้มกันเถอะ!! Smile a little
ธีมในปีนี้คือ “รอยยิ้ม” ค่ะ ซึ่งในปีนี้ทุกคนที่ซื้อสมุดบันทึกจะได้รับของแถมเป็นกระจกอันเล็กพิมรูปรอยยิ้ม ส่วนด้านหลังจะเป็นสีเหลืองพิมพ์ข้อความสั่น ๆ ว่า “Smile a little” น่ารักมากทีเดียว (>_<)
โดยปกเด่นของปีนี้ก็คือ ปกที่มีชื่อว่า “Smile” ด้วยหน้าปกสีเหลืองสดใส และถูกวาดหน้ายิ้มลงไปด้วยลายเส้นของคุณอากิระ (Akira Minagawa) ดีไซเนอร์ประจำแบรนด์ Mina perhonen ทำให้ปกนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเลยค่ะและไม่เพียงเท่านั้นปีนี้ยังมีการจับมือกับอีกหลายแบรนด์ดังเพื่อทำปกสุดพิเศษอีกด้วยอย่างเช่น Disney, sunui และMakino Collection เป็นต้น และหรับสมุดบันทึกขนาด Weeks ก็มีหน้าปกลายใหม่ ๆ ให้เลือกถึง 11 ลายด้วยกันค่ะ
และในปี 2011 มีการเกิดแผ่นดินไหวที่ภูมิภาคโทโฮคุ ทาง Hobonichi ก็ได้จัดส่งสินค้าทั้งสุมดบันทึกและปกสมุดไปให้กับลูกค้าในภูมิภาคโทโฮคุที่สมุดได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ฟรีอีกด้วยค่ะ สำหรับปีนี้วางจำหน่ายสินค้าในวันที่ 1 กันยายน ปีค.ศ.2011 มีปกสมุดให้เลือกถึง 71 แบบ โดยมีของแถมเป็นกระจกแห่งรอยยิ้ม, ปากกาลูกลื่น 3 สี, ที่คั่นหนังสือ และปกสมุดใสค่ะ และยอดขายในปีนี้คือ 460,000 เล่ม ยกนิ้วให้เลยค่ะ
ปี 2013 เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษเสร็จแล้ว เย้!!
แบรนด์ Sonya Park of Arts & Science ได้ให้คำแนะนำในการทำ Hobonichi ฉบับภาษาอังกฤษเล่มแรก ซึ่งในตอนแรกทางทีมงานได้ติดต่อคุณซอนย่า ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Sonya Park of Arts & Science เพื่อเชิญให้ร่วมออกแบบปกสมุด Hobonichi ด้วยกันเธอตกลงที่จะร่วมออกแบบปก แต่ไม่เพียงเท่านั้นคุณซอนย่ายังมีความสนใจในการทำ Hobonichi ในแบบฉบับของภาษาอังกฤษอีกด้วยค่ะ และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของ Hobonichi ฉบับภาษาอังกฤษเล่มแรกโดยใช้ชื่อว่า Planner นั้นเองค่ะ
Hobonichi ฉบับภาษาอังกฤษนั้นมีต้นแบบมาจากเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่นทุกประการค่ะ แตกต่างกันแค่เพียงภาษาที่ใช้ในสมุดเพียงเท่านั้น ทางทีมงานของ Hobonichi กล่าวติดตลกว่า “พวกเขาต้องการจะสร้างแพลนเนอร์ที่ดีที่สุดในโลกและตอนนี้พวกเขาก็ใกล้ความจริงไปอีกก้าวหนึ่งแล้ว”
สมุดบันทึกฉบับภาษาอังกฤษนั้นจะมาพร้อมกับปกสีดำและสลักตัวอักษรสีทองเป็นภาษาญี่ปุ่นคำว่า 手帳 (Techo ) หรือ สมุดบันทึกนั้นเอง โดยปีนี้วางจำหน่ายวันที่ 1 กันยายน ปีค.ศ.2012 โดยมีปกสมุดให้เลือกทั้งหมด 82 แบบ และสมุดอีก 4 แบบ ด้วยกันค่ะคือ A6 Original, A6 Planner, A5 Cousin และ Weeks โดยมีของแถมเป็นกระเป๋าผ้า, ปากกาลูกลื่น, ที่คั่นหนังสือ และปกสมุดใส ซึ่งยอดขายทั้งหมดอยู่ที่ 480,000 เล่มนั้นเอง
ปี 2014 ปีนี้สนุกจังเลย!!
ปีนี้เป็นปีที่มีรูปแบบปกมากที่สุดตั้งแต่จำหน่ายมา ซึ่งมากถึง 98 แบบเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งธีมของปีนี้ก็คือ “I’m having fun this year.” โดยปีนี้ได้นักวาดภาพหนังสือเด็กอย่างคุณริวอิจิ (Ryoji Arai) มาออกแบบปกสมุดด้วยค่ะ โดยใช้ชื่อว่า “I’ll listen to you anytime, says the donkey” ตัวปกจะเป็นสีฟ้า วาดรูปลาสีแดงตัวใหญ่เต็มหน้าปกเลยค่ะ ด้านในก็เป็นสีชมพูช็อกกิ้งพิงค์ สีสันสดใสเลยทีเดียว
ต่อมาคือคุณฮิบิโนะ (Kodue Hibino) กับปกที่มีชื่อว่า “Forest Bear” ซึ่งปกนี้จะมีลักษณะเป็นกระเป๋าผ้ารูปหมีมีซิป ปักลายต้นสน พร้อมช่องใส่ของด้านหลังอีกด้วย
และปกลายเส้นสวย ๆ จากคุณทาโร่ (Taro Okamoto) และปกที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างมากก็คือปกของคุณกุกิ (Gugi Akiyama) ที่ออกแบบปกที่ชื่อว่า “VINTAGE MICKEY” ที่เมื่อกางปกแล้วให้ความรู้สึกเหมือนจมูกของมิกกี้พุ่งออกมาเลยทีเดียวค่ะ รวมไปถึงคอลเลคชั่นที่มีชื่อว่า Field Pack ที่เป็นการร่วมมือของ Hobonichi กับทาง The North Face อีกด้วย
และในปีนี้ทางHobonichiได้มีการจัดประกวดตั้งสโลแกนสำหรับสมุดบันทึก Hobonichi ขึ้นมาค่ะ โดยคุณชิเกะซาโต้ (Shigesato Itoi) ใช้เวลา 2 วัน ในการนั่งอ่านและคัดเลือกผู้ชนะจาก 13,104 ท่านที่เข้าประกวด ซึ่งผู้ชนะก็คือคุณโยโกะ ทาสึมิ (Yoko Tatsumi) จากจังหวัดไอจิ โดยสโลแกนก็คือ
“หากพวกเขาแนะนำสิ่งนี้ให้กับคุณพวกเขาจะต้องชอบคุณ”
“If they recommend this to you, they must like you.”
ในปีนี้ก็ได้มีการทำคลิปวิดีโอโปรโมท สมุดบันทึก Hobonichi ในปี 2014 นี้อีกด้วยค่ะ หากเพื่อน ๆ สนใจเข้าไปชมได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้เลยค่ะ
และในปีนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ทางเว็บไซด์ของ Hobonichi มีภาษาอังกฤษเอาไว้ให้บริการแก่ชาวต่างชาติที่สนใจเพื่อง่ายต่อการซื้อสินค้ามากขึ้นนั้นเองค่ะ โดยในปีนี้วางจำหน่ายในวันที่ 1 กันยายน ปีค.ศ. 2013 กับปกสมุด 98 แบบ และมีของแถมเป็น กระเป๋าผ้า, ปากกาลูกลื่น, ที่คั่นหนังสือ และปกสมุดใส โดยปีนี้ทำยอดขายสูงสุดอยู่ที่ 500,000 เล่มค่ะ
ปี 2015 ทำความรู้จักกับสมุดแบบ “Avec”
เวอร์ชั่นใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิมของสมุดบันทึกขนาด A6 Original และขนาด A5 Cousin เพิ่มเข้ามาในปีนี้ค่ะ ซึ่งเวอร์ชั่นใหม่นี้ทางทีมงานใช้ชื่อว่า Avec เป็นการแบ่งสมุดบันทึกออกเป็น 2 เล่มเล่มละ 6 เดือน
โดยเล่มแรกจะอยู่ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน ส่วนเดือนกรกฏาคมถึงเดือนธันวาคมจะแยกไปอยู่ในเล่มที่ 2 ค่ะด้วยสมุดที่แยกออกเป็นสองเล่มจึงทำให้มีความบางมากขึ้นจึงเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการแปะกระดาษ หรือวาดสีน้ำลงไปบนตัวสมุด ทำให้ช่วยลดความหนาและหนักของสมุดบันทึกลงได้นั้นเองค่ะ
ในปีนี้เป็นที่ที่เริ่มต้นคอลเลคชั่นซีรี่ส์ Mother cover ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิดีโอเกมที่ถูกสร้างโดยคุณชิเกะซาโต้ (Shigesato Itoi) และปกในคอลเลคชั่นนี้ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ
ซึ่งในปีนี้ร้าน Loft สาขาชิบูยาได้จัดอิเว้นท์เปิดตัวสมุดบันทึกปี 2015 ขึ้นโดยภายในงานจะมีนิทรรศการเกี่ยวกับHobonichi และมีการจัดแสดงความคิดเห็นของบุคคล 21 คนในหัวข้อที่มีชื่อว่า “Life is …” อีกด้วย
และในปี 2015 นี้ที่หน้าเว็บไซด์ก็ได้เพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับ Hobonichi เป็นภาษาอังกฤษ โดยเพิ่มข้อมูลให้มากขึ้นกว่าปีก่อนอีกด้วยค่ะ ในปีนี้วางจำหน่ายในวันที่ 1 กันยายนปีค.ศ. 2014 ด้วยปกสมุด 79 แบบ และมีของแถมเป็นกล่องใส่ทิชชู่, ปากกาลูกลื่น, ปกสมุดใส และแผ่นรองเขียน และยอดจำหน่ายอยู่ที่ 550,000 เล่มค่ะ
ปี 2016 นี่คือชีวิตของฉัน
ปีนี้ได้ช่างภาพอย่างคุณคาวาชิมะ (Kawashima Kotori) มาออกแบบคลิปโปรโมทสมุดบันทึกHobonichi ในปีนี้ค่ะ โดยคลิปวิดีโอนี้มีชื่อว่า “This is my LIFE.” เข้าชมได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้ค่ะ
ปกสมุดที่โดดเด่นในปีนี้เป็นปกที่ร่วมออกแบบโดยแบรนด์ Anrealage ค่ะ ซึ่งปกจะมีลักษณะเป็นรูปครึ่งวงกลม หรือพระจันทร์ครึ่งดวง แต่หลังจากกางปกออกมาจะกลายเป็นรูปวงกลมหรือจันทร์เต็มดวงสวยงามตามท้องเรื่องค่ะ โดยปกนี้มีชื่อว่า Circle case และในปีนี้ก็ยังมีการร่วมมือกับ Hello Kitty อีกด้วยค่ะเป็นปกสมุดที่น่ารักและได้รับความนิยมอย่างมากเลย
ในปี 2016 นี้เป็นปีแรกที่แฮชแท็ก #hobonichi ได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ใช้อินสตาแกรม ทำให้ปีนี้ทางทีมงานสามารถติดตามได้ว่าสมุดบันทึก Hobonichi นี้เติบโตไปในทิศทางใดในตลาดต่างประเทศค่ะ และในปีนี้ได้มีการจัดมีตติ้งขึ้นระหว่างผู้ใช้ Hobonichi ทั้งหมด 60 คนกับทีมงาน โดยแบ่งเป็น 7 กลุ่มและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแบ่งปันไอเดียสำหรับการใช้สมุดบันทึก Hobonichi และแต่ละกลุ่มก็ยังมีการเล่นเกมส์แจกของรางวัลกันอย่างสนุกสนานอีกด้วย
และสำหรับเว็บไซด์ก็ได้มีการจัดทำรูปแบบสำหรับสมาร์ทโฟนเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึงและเลือกซื้อสินค้ามากขึ้นด้วยค่ะ ในปีนี้ได้มีการวางจำหน่ายในวันที่ 1 กันยายน ปีค.ศ.2015 กับปกสมุด 88 แบบ และของแถมในปีนี้ก็จะเป็น กล่องใส่ทิชชู่, ปากกาลูกลื่น และปกสมุดใส ยอดจำหน่ายอยู่ที่ 610,000 เล่มค่ะ
ปี 2017 การเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล
ปีนี้เป็นปีที่ปกสมุดของ Hobonichi มีสีสัมมากขึ้นกว่าที่เคยอย่างเช่นปกของคุณมาสุดะ (Masuda Sebastian) ที่มีชื่อว่า THANK YOU ALL หรือจะเป็นปกสมุดที่ออกแบบโดยแบรนด์ Snow Peak ที่มีชื่อปกว่า Stuffed Shell ก็ได้รับความนิยม และในปีนี้เรามีการจัดโหวตว่าอยากให้คอลเลคชั่นซีรี่ส์ World Folk ลายใดกลับมาจำหน่ายซ้ำอีกครั้ง และผู้ชนะก็คือลาย Ukrainian Flowers นั้นเองค่ะ
และในปีนี้ยังเป็นปีที่มีการจัดคาราวานพบปะกับผู้ใช้สมุดบันทึก Hobonichi ในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย โดยขบวนคาราวานจะไปตามภูมิภาคหรือจังหวัดต่าง ๆ ในทุกเดือน
ซึ่งบางครั้งก็มีการจัดคาราวานในต่างประเทศด้วย และอีกกิจกรรมที่ทำให้ทางคุณชิเกะซาโต้ (Shigesato Itoi) และทีมงานรู้สึกประทับใจและตื่นเต้นเป็นอย่างมากก็คือการจัดกิจกรรม The Traveling Hobonichi project
ซึ่งโปรเจคนี้เป็นการจัดขึ้นเองจากกลุ่มผู้ใช้ Hobonichi ทั่วโลกโดยการส่งสมุดบันทึกใบยังผู้ใช้แต่ละคนที่อยู่ห่างกันคนละจังหวัดหรือคนละประเทศโดยแต่ละคนก็จะบันทึกเรื่องราวของตนเองลงในสมุดบันทึก Hobonichi โดยมีผู้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ถึง 36 คน
ซึ่งสมุดบันทึกเล่มนี้ก็เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังประเทศจีน สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และในอีกหลายประเทศ ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้สร้างความคึกคักให้กับทีมงานเป็นอย่างมาก
โดยคุณชิเกะซาโต้ (Shigesato Itoi) ได้กล่าวถึงความคึกคักของกิจกรรมนี้สั้น ๆ ว่า “เรือออกจากท่าแล้วและมันสายไปที่หยุดแล้วสิ”
ในปีนี้สมุดบันทึกHobonichi วางจำหน่ายวันที่ 1 กันยายน ปีค.ศ. 2016 ด้วยปกที่มากถึง 84 รูปแบบ ส่วนของแถมจะเป็นจานรูปขนมปังปิ้งเอาไว้ใส่ของกระจุกกระจิก, ปากกาลูกลื่น และปกสมุดใส และยอดขายในปีนี้อยู่ที่ 680,000 เล่ม
ปี 2018 ทำความรู้จักกับ Hobonichi ฉบับ 5 ปี
ในปีนี้ทางบริษัท Hobonichi ได้จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อยค่ะ เพื่อการขยายตลาดที่ใหญ่ขึ้นเพิ่มศักยภาพในการลงทุนที่มากขึ้น ในปีที่ 17 นี้มีสิ่งต่าง ๆ เพิ่มเข้ามาอย่างมากมายเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม Weeks Mega เข้ามา เป็นสมุดบันทึกขนาด Weeks แต่เพิ่มจำนวนหน้าจดบันทึกที่มากขึ้น ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานแบบ Weeks ได้สนุกมากขึ้นนั้นเองค่ะ
ในปีนี้มีการวางจำหน่ายของ Hobonichi 5-Year Techo หรือสมุดบันทึกสำหรับ 5 ปีขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจนได้วางขายบนรายการ Japanet Takata รายการทีวีที่ออกอากาศทั่วประเทศอีกด้วยค่ะและในปีนี้ก็ได้นักวาดนิทานเด็กคุณชินสุเกะ (Shinsuke Yoshitake) มาออกแบบปกในปีนี้อีกด้วยค่ะ
รวมไปถึงในปีนี้ก็เป็นปีที่ Hobonichi ได้เริ่มวางขายในประเทศจีนอย่างเป็นทางการอีกด้วยค่ะ ซึ่งในปีนี้นั้นได้วางจำหน่ายในวันที่ 1 กันยายน ปีค.ศ. 2017 ด้วยจำนวนปก มากถึง 85 แบบ และของแถมก็คือ ลูกเต๋าที่มีชื่อว่าวันนี้จะทำอะไรกินกันดี? เป็นลูกเต๋า 2 ลูก ลูกแรกจะเป็นประเภทของเนื้อสัตว์ ลูกที่สองจะเป็นลักษณะของการปรุง, ปากกาลูกลื่น, ปกสมุดใส โดยยอดขายของปีนี้อยู่ที่ 780,000 เล่ม ใกล้จะถึง 1 ล้านแล้วนะอีกนิดเดียว
ปี 2019 เดินทางกันต่อไป
ปีนี้เป็นปีที่ 18 ของ Hobonichi แล้วนะคะ หลังจากปีที่แล้วที่เปิดตัว Hobonichi ฉบับ 5 ปีไป ปีนี้ก็ยังคงวางขายอย่างต่อเนื่องนะคะ และด้วยการที่ Hobonichi มีการเปิดตลาดที่ประเทศจีนจึงทำในมีการเพิ่มภาษาจีนเข้ามาเล็กน้อยเพื่อให้ผู้ใช้ชาวจีนสามารถเข้าถึงสมุดบันทึก Hobonichi ได้มากขึ้นนั้นเองค่ะ
ปีนี้มีปกสมุดให้เลือกกันมากมายค่ะ และมีการร่วมกับโดราเอม่อนอีกด้วย จากที่ไอซึสำรวจตลาดมาได้รับความนิยมอย่างมากเลยทีเดียวเชียวแหละ เพราะวางจำหน่ายไม่นานก็หมดเกลี้ยงจนต้องรอเวลารีสต็อกกันอย่างยาวนาน และไม่ใช่แค่ลายโดราเอม่อนเท่านั้นนะคะที่ได้รับความนิยม ลายจากดีไซน์เนอร์ท่านอื่น ๆ ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กันยกตัวอย่างเช่นลายของคุณริวอิจิ อาราอิ ก็หมดตั้งแต่วันแรก ๆ เหมือนกัน ใครพลาดก็ต้องรอกันยาว ๆ ไปประมาณ 2 เดือน กว่าสินค้าจะเข้าสต็อกพร้อมจัดส่งนะคะ
และในปีนี้ก็ยังมีปกพิเศษของน้องหมา Bouillon น้องหมาสุดรักของคุณชิเกะซาโต้ (Shigesato Itoi) อีกด้วยเป็นปกที่น่ารักมาก ที่คั่นก็สวยงาม และถ้าสั่งปกสมุดชุดนี้ก็ยังได้รับสติ๊กเกอร์ลิมิเต็ดไปด้วยฟรี ๆ เลยค่ะ (สั่งลายอื่นไม่ได้นะคะ)
สำหรับปีนี้เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 1 กันยายน ปีค.ศ. 2018 ด้วยปกสมุดมากถึง 98 แบบ ของแถมเป็นที่ทับกระดาษรูปหมี, และปากกาลูกลื่นค่ะ ส่วนปกสมุดใสไม่แถมแล้วแต่มีจำหน่ายในราคาย่อมเยานะคะ สำหรับยอดขายในปีนี้นั้น ยังไม่สรุปค่ะ คงต้องสิ้นปีเลยกว่าจะสรุปยอดตัวเลยได้ แต่ไอซึเชื่อว่าต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ
ทั้งหมดนี้ก็คือเส้นทาง 18 ปีแห่งวันธรรมดาของสมุดบันทึกอย่าง Hobonichi นะคะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? สำหรับไอซึคิดว่าเป็น 18 ปีที่เต็มไปด้วยความสุข ความสนุก และการเรียนรู้มาก ๆ เลยค่ะ ด้วยการทำงานที่เต็มไปด้วยความสุข ผลงานที่ออกมาถึงได้รับการตอบรับที่ดี แต่ถึงแม้จะมีแฟน ๆ ที่เหนียวแน่นแล้วนั้น ทีมงานก็ยังคงพัฒนาและสร้างสิ่งใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาเสมอ สำหรับทีมงานก็คงจะสนุกกับการคิดค้นสิ่งใหม่ ส่วนผู้บริโภคอย่างเราก็สนุกกับการพบเจอสิ่งใหม่ ๆ
ไอซึเชื่อว่าเส้นทางของสมุดบันทึก Hobonichi เล่มนี้ยังคงต้องก้าวต่อไปอีกไกลแสนไกลค่ะ ไอซึก็อยากให้ความฝันของทีมงานที่อยากจะสร้างแพลนเนอร์ที่ดีที่สุดในโลกเป็นจริงเหมือนกันค่ะ เพราะถ้าวันนั้นมาถึงเราคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายของสมุดบันทึกเล่มนี้เป็นแน่ สวัสดีวันธรรมดาค่ะ บะบาย~
เรื่องแนะนำ :
– ครบรอบ 18 ปีแห่งวันธรรมดากับสมุดบันทึก Hobonichi Techo (ตอนที่ 1)
– Hobonichi Techo สมุดบันทึกที่อยากเขียนในทุกๆ วัน/b>
– เสาโทริอิ (Torii) มีความสำคัญอย่างไรกับประเทศญี่ปุ่น
– 7 ของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดอาโอโมริ (Aomori)
– 7 เส้นทางชมธรรมชาติในคามาคุระ
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
https://www.1101.com/home.html