ก่อนอื่นเรามารู้จักความหมายของคำว่า “เกอิชา” กันก่อน โดยถ้าแยกตามความหมายของคำศัพท์ แยกได้เป็น 2 คำ คือ (เกอิ = ศิลปะการแสดง ชา = คน) ซึ่งจะมีความหมายว่า “ผู้ที่ชำนาญทางด้านศิลปะการแสดง” โดยนิยมเอาเด็กหญิงอายุน้อยๆ มากฝึกฝนร่ำเรียนศิลปะแขนงต่างๆ เช่น การฟ้อนรำแบบอาเคโนโบ และเกียวไม การเล่นเครื่องดนตรีชนิดต่าง ๆ การแต่งโคลง การจัดดอกไม้ การเขียนอักษรด้วยพู่กันแบบโบราณ จนกระทั่งการชงชาแบบโบราณ
มีความเชื่อกันว่าเด็กหญิงที่จะเป็น “ไมโกะ” ที่ดีได้จะต้องเริ่มการฝึกฝน ฝึกหัดศิลปะต่างๆ ในวันที่ 6 เดือน 6 เมื่ออายุได้ 6 ขวบ แล้วจะสามารถเรียนรู้ศิลปวิทยาการต่างๆ ได้อย่างแตกฉานชำนาญทุกรูปแบบ เมื่อมีอายุพอสมควรจึงนำตัวไปฝึกงานในร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เพื่อเรียนรู้มารยาทในการรับแขก และสันทนาการความบันเทิงให้กับแขก จนกระทั่งแตกเนื้อสาวพรั่งพร้อมไปด้วยประสบการณ์ จึงเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นตำแหน่ง “เกอิชา” สนนราคาในการเรียกตัวเกอิชาไปให้บริการนั้นจัดว่าแพงมาก จะรวมค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ค่าแต่งตัว ซึ่งในการแต่งตัวและแต่งหน้าจะต้องใช้ผู้ช่วยถึง 2-3 คน เลยทีเดียว ต่อไปจะเป็นค่ายานพาหนะทั้งไปและกลับ และค่าตัวในการเรียกใช้บริการ ย่อมขึ้นอยู่กับความความสามารถในแต่ละบุคคลและนิยมชมชอบของตัวลูกค้า โดยปัจจุบันอาชีพของเหล่าผู้ชำนาญทางด้านศิลปะ (เกอิชา) ถือว่าเป็นบุคคลที่มีเกียรติได้รับการยกย่องในสังคม เพราะกว่าจะฝึกปรือไต่เต้ามาเป็นเกอิชาได้นั้นมันไม่ธรรมดา ต้องมีการฝึกฝนอดทนพยายาม เริ่มตั้งแต่เด็กเล็กจนเป็นผู้ใหญ่ การที่บุคคลต่างชาติมองอาชีพนี้เป็นหญิงขายบริการนั้น ก็ต้องบอกว่าคงมองแค่เปลือกนอกเท่านั้น แท้จริงแล้วกลับเป็นการรักษาศิลปะวัฒนธรรมของชาติ ให้สืบทอดคงอยู่ในสังคมตลอดไป
บทความโดย : ทีมงาน www.marumura.com