ขณะที่คนทั่วโลกต่างชื่นชมญี่ปุ่น แต่คนญี่ปุ่นเองกลับมองอย่างเฉย ๆ เหมือนกับว่านี่เป็นสิ่งที่ทางจังหวัดควรจะต้องทำอยู่แล้ว อะไรคือความแตกต่างระหว่างมาตรฐานญี่ปุ่นกับมาตรฐานทั่วโลก
เวลา 05.15 น. ถนนกลางเมืองฟุกุโอกะยุบตัว ก่อให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ 30 เมตร ลึกถึง 15 เมตร ขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของสระว่ายน้ำโอลิมปิคเลยทีเดียว
น่าแปลกที่เกิดอุบัติเหตุใหญ่เช่นนี้ แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
น่าแปลกที่ทางเมืองสามารถซ่อมแซมถนนสายดังกล่าวเสร็จได้ภายใน 7 วัน
หนังสือพิมพ์ในเยอรมันลงข่าวนี้โดยแอบเปรียบเทียบกับโครงการสนามบิน Berlin Brandenburg Airport ที่ยืดเวลาเปิดตัวไปนานกว่า 5 ปี ส่วนสื่ออังกฤษก็ชื่นชมความรวดเร็วของญี่ปุ่น โดยบอกว่าที่อังกฤษนั้นใช้เวลาตั้ง 10 เดือนกว่าจะซ่อมเสร็จ
ขณะที่คนทั่วโลกต่างชื่นชมญี่ปุ่น แต่คนญี่ปุ่นเองกลับมองอย่างเฉย ๆ เหมือนกับว่านี่เป็นสิ่งที่ทางจังหวัดควรจะต้องทำอยู่แล้ว
อะไรคือความแตกต่างระหว่างมาตรฐานญี่ปุ่นกับมาตรฐานทั่วโลก
ก่อนอื่นลองมาดูสิ่งที่ทางจังหวัดฟุกุโอกะทำในแต่ละวันนะคะ
วันที่ 1: ตอนตี 5 คนงานก่อสร้างเห็นน้ำไหลจากพื้นถนนขึ้นมา 10 นาที หลังจากนั้นทางทีมก่อสร้างตัดสินใจสั่งหยุดการจราจรทั้งหมดในบริเวณนั้น อีก 5 นาทีหลังจากนั้น … กล่าวคือ เวลา 5.15 น.ถนนถล่มและเกิดความเสียหาย
13.30 น. เป็นต้นไป ทางเมืองเริ่มดำเนินการนำรถขนซีเมนต์พิเศษ (ที่แข็งตัวได้แม้โดนน้ำ) เข้ามาเทในพื้นที่ มีการตั้งหน่วยราชการดูแลปัญหานี้โดยเฉพาะและส่งคนไปตรวจจุดก่อสร้างที่อื่นอีก 280 แห่งจาก 543 แห่ง
วันที่ 2: 9.30 น. ตัวแทนจากบริษัทเอกชนและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อแบ่งปันข้อมูลเมื่อวานก่อน และหามาตรการดำเนินงานต่อไป
18.30 น. รถเทซีเมนต์พิเศษถึงระดับน้ำที่ท่วมได้เรียบร้อย จุดก่อสร้างอีก 263 แห่งที่เหลือได้รับการตรวจสอบหมด
วันที่ 3: ตรวจสอบความแข็งพื้นซีเมนต์ในวันที่ 3 นี้ พื้นที่โดยรอบเกือบทั้งหมดสามารถใช้ไฟฟ้า แก๊ส และน้ำประปาได้แล้ว
วันที่ 4: นำชิ้นส่วนพื้นส่งไปศูนย์ทดสอบเพื่อตรวจสอบว่าคอนกรีตแข็งเรียบร้อย
วันที่ 5: จัดการประชุมตรวจสอบความปลอดภัยโดยเชิญนักวิจัย อาจารย์มหาวิทยาลัย และผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบและหารือด้านความปลอดภัย ขณะเดียวกัน ก็เชิญสื่อมวลชนเข้าร่วมประชุมด้วยและให้มาตรวจสอบความปลอดภัยพร้อมกัน
วันที่ 6 และ 7: แก๊ส ไฟฟ้า ประปา ทั้งหมดสามารถใช้ได้ ราดยางมะตอย ตีเส้นถนน ตั้งไฟจราจร เตรียมพร้อมเปิดให้รถวิ่งได้
เวลาตี 5 ของวันที่ 8 หลังจากเกิดเหตุ ถนนก็กลับมาใช้ได้ตามปรกติ
【เบื้องหลังปาฏิหาริย์ 7 วัน】
เหตุใดญี่ปุ่นสามารถซ่อมถนนให้เสร็จได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ทั้ง ๆ ที่ประเทศอื่นใช้เวลาเป็นเดือน ๆ ?
1. เห็นความเดือดร้อนของประชาชน
รัฐบาลท้องถิ่นเห็นว่าประชาชนเดือดร้อนเดินทางสัญจรไปมาไม่ได้ ขณะเดียวกันบริษัทและร้านค้าที่อยู่ละแวกนั้นก็ได้รับผลกระทบทางธุรกิจ เนื่องจากไม่มีประปาและไฟฟ้าใช้ ติดต่อลูกค้าไม่ได้ มูลค่าความสูญเสียหลายล้านเยนต่อวัน ทางเมืองจึงต้องเร่งฟื้นฟูสถานการณ์ให้เร็วที่สุด
ขณะเดียวกันสุนทรพจน์ของนายกเทศมนตรีก็ชี้ให้เราเห็นว่าตัวท่านเห็นความสำคัญของปัญหานี้เป็นอย่างยิ่ง
ข่าวอุบัติเหตุครั้งนี้ ไม่ได้ถูกเผยแพร่อยู่แค่ในประเทศญี่ปุ่น คนทั่วโลกกำลังมองเราอยู่ เราต้องเร่งแก้ไขสถานการณ์ให้เร็วที่สุดเพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นถึงพลังของประเทศญี่ปุ่นเมื่อเกิดสถานการณ์คับขัน
การใส่ใจและเห็นความเดือดร้อนเช่นนี้ ทำให้แรงงานกว่า 200 คนในแต่ละวัน ร่วมมือร่วมใจกันซ่อมถนนตลอด 24 ชั่วโมง
2. มีข้อมูลและความรู้พร้อม
เริ่มตั้งแต่คนงานก่อสร้างมีความรู้ รู้ว่าเมื่อน้ำซึมออกมาย่อมเกิดเหตุการณ์ผิดปกติแน่
นอกจากนี้ยังมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมการประชุมเพื่อหาวิธีแก้ไขที่ดีที่สุด อีกทั้งให้มาตรวจสอบสถานการณ์ความปลอดภัยเสมอ ทางเมืองยังมีข้อมูลจุดก่อสร้างทั้งหมดทำให้รัฐสามารถส่งคนไปตรวจสอบพื้นที่ได้
เมื่อมีเสียงกังวลว่า ใช้เวลาเพียง 7 วันในการซ่อมถนน การจราจรบริเวณนั้นจะปลอดภัยแน่หรือ ท่านนายกเทศมนตรีก็สามารถหยิบข้อมูลผลการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญมาตอบคำถามโดยบอกได้อย่างชัดเจนว่า พื้นที่บริเวณนี้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเก่า 30 เท่า
3. มีประสบการณ์เผชิญภัยพิบัติ
คนญี่ปุ่นต้องเผชิญกับภัยพิบัติและต้องฝึกซ้อมเมื่อเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝันเสมอ นั่นทำให้ทุกคนมีสติและรู้หน้าที่ของตน ไม่แตกตื่นเมื่อเกิดอุบัติเหตุเช่นนี้
【สิ่งที่เรียนรู้ได้จากญี่ปุ่น】
1. เห็นความปลอดภัยเป็นที่หนึ่ง
ท่านใดที่ทำงานในโรงงานญี่ปุ่นจะเห็นว่าคนญี่ปุ่นพูดคำว่า “Safety First” อยู่บ่อย ๆ
จากเหตุการณ์ครั้งนี้จะเห็นว่าแม้จะพยายามดำเนินการทุกอย่างด้วยความรวดเร็วคนญี่ปุ่นก็ให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่งอย่างแท้จริง เรียกประชุมผู้เชี่ยวชาญหาวิธีที่ดีที่สุด จากนั้นเมื่อแก้ไขทุกอย่างเสร็จก็มีการส่งทีมมาตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจในความปลอดภัยจริง ๆ
2. การทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ
คงไม่ง่ายเลยที่จะบริหารคนวันละ 100-200 คนจากหน่วยงานต่าง ๆ ให้ทำงานด้วยกันได้ แต่ทางฟุกุโอกะทำได้เพราะทุกคนเห็นเป้าหมายที่ชัดเจน
หลังจากผู้นำเข้าร่วมประชุมตอนเช้า ทุกคนจะกระจายงานโดยมีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน
จากการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางนายกเทศมนตรีสามารถคาดคะเนได้แต่แรกแล้วว่าคอนกรีตใช้เวลา 3 วันกว่าจะเทและแข็งตัว ถนนจะใช้เวลาประมาณ 7-8 วันกว่าจะซ่อมเสร็จ
นั่นทำให้ทุกคนในทีมรู้ว่าแต่ละวันตนเองต้องทำหน้าที่อะไร เท่าไร ทำถึงไหนบ้าง
3. การไม่ปล่อยให้ปัญหาเกิดซ้ำ
แม้จะทำถนนเสร็จ แต่ทางจังหวัดก็ยังตั้งทีมค้นหาสาเหตุของปัญหาที่แท้จริงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีก
พวกเขาไม่ได้แค่พอใจกับผลลัพธ์ที่สร้างแต่มองไปถึงอนาคตด้วยว่า จะป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> เกตุวดี Marumura
อ่าน Japan Gossip ทั้งหมด CLICK HERE
เรื่องแนะนำ :
– การเตรียมตัวตาย …. กระแสใหม่ในญี่ปุ่น
– บุกสุดยอดร้านเทมปุระ Mikawa Zezankyo ที่ลุงจิโร่ยังซูฮก
– ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างในหลวงร.๙ กับจักรพรรดิญี่ปุ่น
– ความใส่ใจ (อย่างสุดหัวใจ) สไตล์โรงแรมญี่ปุ่น
– ผู้ชายแบบไหน เท่ในสายตาสาวญี่ปุ่น