เจ้าหน้าที่มาทีไรผมก็ต้องหลบไปหลบมาเพราะกลัว …จริงๆ แล้วก็ไม่ต้องกลัวก็ได้ เพราะที่มาไม่ใช่ตำรวจ แต่ก็นั่นไง..สิ่งที่ผมเป็นอยู่ตลอดที่ญี่ปุ่น..คือความระแวงวิตกกังวล แค่เดินสะดุดหรือจิ้งจกทักก็คิดไปไกลแล้ว
ภาพโดย : อ.วิโรจน์ สายดนตรี
ร้านของส้มที่นาโกย่าเป็นร้านหนึ่งที่ขายดีมากในบริเวณแถบนั้น ด้วยความมีอัธยาศัยดี เป็นมิตรกับลูกค้าและเพื่อนๆของแฟนเธอที่เป็นชาวญี่ปุ่น ซึ่งชอบที่จะมานั่งคุยงานในช่วงกลางวันและเย็นที่ร้านของเธอ
ทำเลก็คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนมาที่ร้านเธอ อาชีพอีกอย่างที่ผมอยากทำ คือการเป็นพ่อครัว ความจริงโอกาสที่จะได้เป็นพ่อครัวที่ญี่ปุ่นนั้นผมมีหลายครั้ง แต่ผมไม่มั่นใจ ถ้าทำให้ตัวเรากินเองพอได้ แต่ถึงขนาดจะทำขายไม่กล้า พี่วินัยที่เป็นพ่อครัวสอนการทำกับข้าวให้ผมบ่อยๆ ที่ร้านแกมีหน้าที่ทำอาหารไทย อาหารอีสาน ส่วนอาหารญี่ปุ่นมีพ่อครัวเป็นชาวญี่ปุ่นอีกคน
ความสะอาดในครัวมาเป็นอันดับแรก นี่เป็นบทเรียนแรกที่พี่วินัยสอนผม…
ก่อนเปิดครัวแกต้องยกมือไหว้ก่อนเริ่มทำงาน หลังจากนั้นต้องทำการเผากระทะทั้งหมดให้ร้อนจนเหล็กเกือบแดงเพื่อเป็นการ ล้างกลิ่นจากการทำอาหารของเมื่อวาน นอกจากงานประจำที่ผมต้องปิด-เปิดร้าน ดูความเรียบร้อยต่างๆ ช่วงไม่มีลูกค้าก็จะเข้ามาดูพี่แกทำอาหาร ที่ญี่ปุ่นจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐมาตรวจครัวบ้างเป็นครั้งคราว มาดูเรื่องความสะอาด ใบอนุญาตประกอบการต่างๆ เจ้าหน้าที่มาทีไรผมก็ต้องหลบไปหลบมาเพราะกลัว …จริงๆ แล้วก็ไม่ต้องกลัวก็ได้ เพราะที่มาไม่ใช่ตำรวจ แต่ก็นั่นไง..สิ่งที่ผมเป็นอยู่ตลอดที่ญี่ปุ่น..คือความระแวงวิตกกังวล แค่เดินสะดุดหรือจิ้งจกทักก็คิดไปไกลแล้ว
ได้วิชาการทำอาหารมาเยอะเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่สามารถนำมาประกอบอาชีพเป็นพ่อครัวใหญ่ได้หรอกครับ เอาไว้ทำกินเอง ชอบมากครับการทำกับข้าว ผมว่ามันเป็นศิลปะใกล้ตัว ยิ่งอาหารญี่ปุ่นที่ร้านของส้ม พ่อครัวดูเป็นมืออาชีพเลยทีเดียว สะอาดพอๆ กันเลยกับพี่วินัยของผม ผมชอบการแต่งตัวของพ่อครัวทั้งสองสัญชาติ พี่วินัยก็เดิมๆ แบบไทยๆ พ่อครัวญี่ปุ่นก็แต่งตัวเนี๊ยบมาก ใส่หมวกตลอดเวลา
บริเวณหน้าร้านมีตู้ใส่อาหารโชว์มากขึ้นกว่าเดิม และมีที่นั่งเพิ่มเติมบริเวณหน้าร้าน บริเวณในร้าน ผนังมีภาพสวยติด เป็นภาพที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่เมืองไทย อันนี้ผมเคยช่วยส้มติดเมื่อครั้งที่แล้ว หลังจากที่ทำแตกไปสองสามรูป จากการทะเลาะวิวาทของผมในครั้งนั้น ตั้งแต่ผมจากไป ก็คงไม่มีของเสียหายเพิ่มเติม
ส้ม…………..เธอทำร้านนี้ได้ดีมากครับ ดีเกินที่จินตนาการไว้มากเหลือเกิน
ตกเย็นร้านใกล้ปิด ผมก็ยังดื่มเหล้าเหมือนเดิม พี่วินัยแกก็ดื่มเหมือนกัน นั่งคุยเรื่องต่างๆ แกก็เล่าเรื่องของแก ให้ผมฟัง ส่วนผมไม่ค่อยเล่าอะไรให้แกฟัง คิดว่าส้มคงเล่าหมดแล้ว เอาเข้าจริงๆ พี่วินัยบอกว่าส้มบอกว่าผมเป็นเพื่อน รู้จักกันเพราะผมเคยช่วยเหลือ หลายครั้งตอนอยู่ร้านที่หงษ์ ตอนแรกพี่วินัยบอกผมว่า นึกว่าส้มเป็นแฟนผม ผมก็เล่าเรื่องชีวิตที่ญี่ปุ่นให้แกฟัง แกฟังแล้วคงงงๆ ว่าทำไมปัญหามันถึงเยอะจัง ต่างกับแก ด้วยความเป็นญาติส้ม และแกก็มาตอนที่ส้มสบายแล้ว แกไม่เคยออกไปเที่ยวไหนเลย กินเหล้าแล้วก็เข้านอน
ผมชอบออกไปเดินเล่น เดินเมาๆ อย่างนั้นแหละครับ บางทีก็เดินไปไกลนะ ชอบไปนั่งในสวนสาธารณะ บางทีเดินเล่นถึงตี 2 ตี 3 กว่าจะกลับเข้ามานอน ผมทำแบบนี้เป็นประจำเกือบทุกวัน แต่มาอยู่ร้านส้มรอบนี้ผมทานเหล้าน้อยลงเยอะ กลัวจะมีเรื่องมีราวทำความเสียหายให้ร้านอีก
นอกจากร้านอาหารที่ส้มทำประสบความสำเร็จแล้ว เธอยังมีร้านเล็กๆ ของอาหารในห้างด้วย แต่ผมไม่เคยไป เธอให้เด็กที่มาจากร้านพี่หงส์ไปช่วยงานที่ร้านนั้น แต่ร้านปิดก็กลับมานอนที่นี่ ส่วนส้มจะไปอยู่ร้านนั้นตอนกลางวัน ส่วนตอนเย็นเธอจะกลับมาดูร้านนี้ กลางวันเท่ากับเป็นหน้าที่ผมที่จะดูแลร้านในส่วนของการบริการลูกค้า ปัญหาคือภาษา ผมยังพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ ฟังก็แทบไม่ได้ แต่ก็จะมีคนที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นได้ เป็นเด็กชาวญี่ปุ่นที่ส้มจ้างเอาไว้ แต่ลูกค้าช่วงกลางวันไม่วุ่นวาย เพราะยังไม่มีเหล้า กลางคืนวุ่นวายหน่อย เพราะจะมีคนเมาเยอะ
การกลับมาทำงานที่ร้านส้มครั้งนี้ มีแต่ความสุขครับ แทบจะไม่มีปัญหาอะไรเลย ผมเองก็รู้จักความรับผิดชอบมากขึ้น ใจเย็นลง ความเป็นนักเลงอันพาลก็เบาลง คงเป็นเพราะโดนมาเยอะจนเบื่อแล้ว …….พี่หงษ์มาเที่ยว มาหาด้วยนะครับ มานอนพักอยู่สองสามคืน วันที่แกมา ผมจำได้ว่าเธอพาผมไปเที่ยวกลางคืน ไปนั่งร้องเพลงกัน มีส้ม ผม พี่หงษ์ ร้องกันถึงเช้าเลยครับ ร้านที่ไปก็เป็นของคนไทยเหมือนกัน เป็นร้านคาราโอเกะ มีเพลงไทยด้วย วันนั้นอยู่กันถึงเช้าเลยครับ ผมว่าตอนนี้ส้มดูเหมือนจะเป็น ที่ปรึกษาให้กับพี่หงษ์ในหลายเรื่อง ในระหว่างที่นั่งที่้ร้านนั้น ผมก็ร้องเพลงเป็นหลัก ส้มกับพี่หงษ์คุยกันแต่เรื่องทำมาหากิน ผมว่าส้มน่าจะมีทุนเรื่องเงินเยอะจากแฟน พี่หงษ์ก็คงอยากมีช่องทางทำมาหากินเพิ่มเติม แล้วแฟนของส้ม ก็คือลูกค้าที่พี่หงษ์แนะนำให้รู้จัก บุญคุณ…..เป็นสิ่งที่ส้มคิดเสมอว่าต้องช่วยพี่หงษ์กลับไปบ้างถ้ามีโอกาส แต่จริงๆ แล้ว เรื่องเงินพี่หงส์ก็หาได้ไม่น้อย เพียงแต่ค่าใช้จ่าย บนโต๊ะ ใต้โต๊ะ แกเยอะไปหน่อย แกคงอยากมีร้านแบบส้ม อยากให้แฟนส้มช่วยหาทำเลแบบนี้ให้
อ่านญี่ปุ่นในมุมมืดทั้งหมด คลิ๊ก >>> ญี่ปุ่นในมุมมืด