ทราบไหมคะว่าขนมดังโงะ (Dango) ที่เราพบเห็นกันอย่างชินตานั้นถือเป็นขนมโบราณที่อยู่คู่กับชาวญี่ปุ่นมานับร้อยปี และยังเป็นขนมที่ทำหน้าที่ในการสะท้อนประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบันอีกด้วย
ขนมดังโงะนั้นสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในประเทศญี่ปุ่น ยิ่งในช่วงที่ดอกซากุระกำลังบานสะพรั่งขนมชนิดนี้ก็มักจะได้รับความนิยมตามไปด้วยเสมอ
แต่ทราบไหมคะว่าขนมดังโงะที่เราพบเห็นกันอย่างชินตานั้นถือเป็นขนมโบราณที่อยู่คู่กับชาวญี่ปุ่นมานับร้อยปี และยังเป็นขนมที่ทำหน้าที่ในการสะท้อนประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบันอีกด้วย
เรามาทำความรู้จักขนมชนิดนี้กันให้มากขึ้นดีกว่าค่ะ
ขนมดังโงะนั้นถ้าจะเทียบกันที่รสสัมผัส ก็อาจจะดูคล้ายขนมญี่ปุ่นอีกสองชนิดอย่าง โมจิ และ ไดฟุกุ ซึ่งเพื่อน ๆ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าขนมทั้งสามชนิดนี้เหมือนกันนะคะ เพราะขนมดังโงะนั้นมีความแตกต่างจากขนมทั้งสองชนิดข้างต้นในด้านของส่วนผสมนั้นเองค่ะ
สำหรับโมจินั้นคือการนำข้าวเหนียวที่หุงสุกใหม่มาตำในครกไม้ในขณะที่ยังร้อนให้กลายเป็นแป้งโมจิที่มีความเหนียว โดยมักจะรับประทานแบบสดหรือนำไปผสมอาหารอื่น ๆ ซึ่งวัฒนธรรมการตำโมจินี้มักจะทำกันในช่วงเทศกาลปีใหม่
ส่วนไดฟุกุคือการนำแป้งโมจิมาต่อยอดโดยการผสมไส้ที่อาจจะทำจากผลไม้กวนหรือผลไม้สดลงไปเพื่อสร้างรสชาติที่แปลกใหม่ขึ้นมา
แต่สำหรับขนมดังโงะนั้นจะทำมาจากแป้งข้าวเจ้าเพียงเท่านั้น ซึ่งวิธีการทำขนมดังโงะให้สุกนั้นมีด้วยกัน 2 วิธีคือ
1. การนึ่ง ส่วนผสมของขนมดังโงะนั้นจะมีแป้งข้าวเจ้าเป็นส่วนผสมหลักและในบางสูตรอาจผสมแป้งข้าวเหนียวอบพิเศษหรือแป้งชิระทะมะโกะ(Shiratamako)ลงไปด้วย ซึ่งจะทำให้ตัวแป้งมีความแน่นทำให้สามารถเอาไปเสียบไม้ย่างได้ง่าย โดยวิธีการนึ่งนั้นจะใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที
2. การต้ม โดยส่วนมากถ้าหากเลือกทำให้สุกด้วยวิธีการต้มส่วนผสมของแป้งจะใช้แป้งข้าวเจ้าและแป้งข้าวเหนียวอบพิเศษหรือแป้งชิระทะมะโกะ(Shiratamako)ในอัตราส่วน 50:50 ทำให้ตัวขนมดังโงะที่ได้นั้นมีความนิ่มและนุ่มชุ่มชื่นมากกว่าการนึ่ง มักจะนิยมทานเลยโดยไม่ต้องนำไปย่างอีก ซึ่งการต้มนั้นใช้เวลาน้อยกว่าเพียงแค่ 3-5 นาทีเท่านั้น
ขนมดังโงะนั้นมีหลากหลายรสชาติและหลากหลายแบบซึ่งชื่อเรียกขนมดังโงะนั้นก็จะแตกต่างไปตามส่วนผสมของแป้งและน้ำซอสราดนั้นเองค่ะ ยกตัวอย่างเช่น มิตาราชิ ดังโงะ (Mitarashi Dango) คือขนมดังโงะที่เคลือบด้วยซอสที่ทำมาจากซีอิ๊ว สาหร่ายคมบุและน้ำตาลทราย มิตาราชิ ดังโงะจะมีความหนึบหนับจากตัวดังโงะผสมผสานอย่างลงตัวด้วยรสชาติเค็มๆ หวานๆ ของน้ำซอสมิตาราชิที่ใช้นั้นเองค่ะ
อัง ดังโงะ (An dango) คือดังโงะราดด้วยถั่วแดงกวน
คุซะ ดังโงะ หรือโยโมงิ ดังโงะ (Kusa dango) คือดังโงะสีเขียวโดยในส่วนผสมของตัวแป้งจะใส่ใบโยโมงิลงไปด้วยส่วนมากจะราดด้วยถั่วแดงกวนเช่นกัน
โนริมากิ ดังโงะ (Norimagi dango) คือดังโงะราดด้วยซอสมิตาราชิแล้วนำไปย่างไฟอีกรอบจากนั้นห่อด้วยแผ่นสาหร่ายแห้ง
ซุนดะ ดังโงะ (Zunda dango) คือดังโงะราดด้วยซอสถั่วแระกวน และนอกจากนี้ยังมีแบบที่นำเต้าหู้มาผสมลงไปในดังโงะและราดซอสรสชาติต่างหรือจะนำมายัดไส้ถั่วแดงกวนก็ยังมีค่ะ น่าทานทั้งนั้นเลยเนอะ
ขนมดังโงะและประวัติศาสตร์
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าขนมดังโงะนั้นเป็นขนมโบราณที่มีความเก่าแก่นับร้อยปี โดยมีความเชื่อกันว่าขนมดังโงะนั้นมีต้นกำเนิดมาจากขนมโมทกะหรือขนมโมทัก (Modak) ซึ่งเป็นขนมหวานจากประเทศอินเดียที่ใช้ในการถวายองค์พระพิฆเนศวรในศาสนาฮินดู
ซึ่งในศาสนาฮินดูเชื่อว่าขนมโมทกะนี้เป็นขนมที่องค์พระพิฆเนศวรทรงโปรดปรานนั้นเอง โดยขนมดังโงะนั้นได้ปรากฎอยู่ในหนังสือที่ชื่อว่า The Shin Sarugaku Ki ที่ถูกแต่งขึ้นในยุคเฮอัน (ค.ศ. 794-1185)ในช่วงศตวรรษที่ 10
ซึ่งขนมดังโงะในสมัยนั้นถือเป็นของว่าง หรือขนมทานเล่นของบรรดาขุนนางและชนชั้นสูงในสมัยนั้น เราจึงสามารถพบเห็นบันทึกเกี่ยวกับขนมดังโงะอยู่มากมาย ทั้งในพจนานุกรมเก่าแก่ที่มีชื่อว่า Wamyo Ruijusho (倭名類聚抄) รวมไปถึงหนังสือรวมตำราอาหารเก่าแก่ของจีนอย่าง Chuujirui Ki อีกด้วย
ในสมัยก่อนแป้งข้าวเจ้าไม่ได้หาง่ายอย่างทุกวันนี้ ส่วนผสมในการทำขนมดังโงะจึงมีการใช้ข้าวบาเลย์, ข้าวสาลี, ลูกเดือยชนิดต่าง ๆ, ข้าวโพด, ถั่ว, มันหวาน หรือแม้กระทั่งเม็ดเกาลัด จึงทำให้ในปัจจุบันเราจะยังสามารถพบเห็นขนมดังโงะที่มีส่วนผสมที่แตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่นได้อยู่นั้นเองค่ะ
ขนมดังโงะในเทศกาลต่าง ๆ
ขนมดังโงะไม่ได้เป็นเพียงอาหารเพื่อความอิ่มท้องเท่านั้นนะคะ ในสมัยโบราณนั้นขนมดังโงะถูกใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาในการบูชาเทพเจ้าของชาวญี่ปุ่นอีกด้วย ในบางตำนานเล่าว่าขนมดังโงะนั้นมีต้นกำเนิดมาจากร้านน้ำชาเล็ก ๆ ในเกียวโตที่มีชื่อว่าคาโมะ มิตาราชิ (Kamo Mitarashi) โดยร้านน้ำชาแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับศาลเจ้าชิโมกาโมะ (Shimogamo) โดยรูปทรงของขนมนั้นทำขึ้นมาเพื่อเลียนแบบฟองที่เกิดจากน้ำบริสุทธิ์ตรงบริเวณทางเข้าศาลเจ้านั้นเองค่ะ
เดิมทีขนมดังโงะนี้ถูกใช้เพื่อบูชาเทพเจ้าและเทพธิดาที่อยู่ในศาลเจ้าค่ะ โดยมิตาราชิ ดังโงะแบบดั้งเดิมนั้นจะทำขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของผู้คนโดยใน 1 ไม้จะมีทั้งหมด 5 ลูก ลูกบนสุดหมายถึงศีรษะ สองลูกต่อมาหมายถึงแขนทั้งสองข้างและสองลูกสุดท้ายแทนความหมายของขาทั้งสองข้าง โดยสีดั้งเดิมของมิตาราชิ ดังโงะจะเป็น สีแดง สีขาว และสีเขียวค่ะ
เทศกาลชมดอกซากุระ
ปัจจุบันขนมดังโงะถูกนำมาใช้ในเทศกาลอันเลื่องชื่อของประเทศญี่ปุ่น อย่างเทศกาลชมดอกซากุระที่จะจัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่ดอกซากุระกำลังบานสะพรั่ง คนญี่ปุ่นมักจะออกจากบ้านเพื่อมาชื่นชมความสวยงามของดอกซากุระกันค่ะ และหนึ่งในอาหารที่คนญี่ปุ่นนิยมทานคู่กับการชมดอกซากุระก็คือ ฮานามิ ดังโงะ (Hanami dango) ขนมดังโงะสามสีนั้นเอง
ฮานามิ ดังโงะนั้นจะประกอบไปด้วย สีชมพู สีขาว และสีเขียว ไล่จากบนสุดลงมาด้านล่างตามลำดับ โดยแต่ละสีจะมีความหมายแตกต่างกันไป ดังนี้ค่ะ
• ความหมายที่ 1 แทนการออกดอกของซากุระ สีชมพูหมายถึงดอกที่ยังตูม เมื่อบานออกจะกลายเป็นสีขาว และสีเขียวคือใบไม้
• ความหมายที่ 2 แทนการสื่อความหมายของฤดูกาล สีชมพูหมายถึงดอกซากุระเป็นตัวแทนของฤดูใบไม้ผลิ สีขาวหมายถึงหิมะเป็นตัวแทนของฤดูหนาวที่เพิ่งผ่านไป ส่วนสีเขียวหมายถึงต้นไม้เป็นตัวแทนของหน้าร้อนที่ใกล้เข้ามา
• ความหมายที่ 3 แทนความสวยงามของวิวทิวทัศน์ในฤดูใบไม้ผลิ สีชมพูคือดอกซากุระหรือพระอาทิตย์ สีขาวคือหิมะที่ยังหลงเหลือ และสีเขียวคือต้นหญ้าเขียวชะอุ่มนั้นเองค่ะ
ซึ่งความหมายทั้งสามล้วนเป็นความหมายที่ผสานวัฒนธรรม และความสวยงามของญี่ปุ่นเอาไว้ด้วยขนมดังโงะเพียงเท่านั้น ซึ่งความนิยมของขนมดังโงะในเทศกาลชมซากุระนี้ก็ทำให้เกิดวลีที่ว่า Hana Yori Dango (花より団子) ซึ่งหมายความว่า นอกจากชมความสวยงามของซากุระแล้วก็อย่าลืมทานขนมดังโงะให้อิ่มท้องด้วยนั้นเองค่ะ
เทศกาลไหว้พระจันทร์
ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 หรือราวเดือนสิงหาคม – ตุลาคม ตามปฏิทินจันทรคติในแต่ละปี ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงในประเทศญี่ปุ่นนั้น คนญี่ปุ่นจะทำซึกิมิ ดังโงะ (Tsukimi Dango) ขึ้นเพื่อใช้บูชาพระจันทร์ในเทศกาลนี้
ส่วนผสมของซึกิมิ ดังโงะ นั้นจะมีเพียงแป้งข้าวเจ้าและน้ำตาล โดยขนมดังโงะนั้นจะถูกวางเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายกับปิรามิด โดยมีความเชื่อว่าการวางแบบนี้จะทำให้ขนมดังโงะได้อยู่ใกล้กับเทพเจ้ามากขึ้นนั้นเองค่ะ
ถึงแม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปแต่ขนมดังโงะก็ยังถือได้ว่าเป็นขนมที่ได้รับความนิยมอยู่เสมอ เพราะเป็นดั่งสิ่งที่คอยสะท้อนถึงขนบธรรมเนียมและประเพณีอันเก่าแก่ในอดีตนั้นเอง
และในปีนี้หากใครได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นในช่วงที่ซากุระกำลังเบ่งบานก็อย่าลืมมองหาขนมดังโงะมาทานระหว่างการชมดอกซากุระเพื่อจะได้เข้าถึงบรรยากาศแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ และยังตรงกับวลีที่ว่า Hana Yori Dango อีกด้วย
เรื่องแนะนำ :
– ครบรอบ 18 ปีแห่งวันธรรมดากับสมุดบันทึก Hobonichi Techo (ตอนจบ)
– ครบรอบ 18 ปีแห่งวันธรรมดากับสมุดบันทึก Hobonichi Techo (ตอนที่ 1)
– Hobonichi Techo สมุดบันทึกที่อยากเขียนในทุกๆ วัน
– เสาโทริอิ (Torii) มีความสำคัญอย่างไรกับประเทศญี่ปุ่น
– 7 ของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดอาโอโมริ (Aomori)
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก :
https://blog.gotomalls.com/2018/01/jajanan-khas-jepang/
https://sweetsofjapan.com/wagashi/what-is-dango-the-most-popular-types-of-dango/
http://thisis-japan.com/dango/
http://yabai.com/p/2345
https://matcha-jp.com/en/3318