ละครญี่ปุ่นบางเรื่องไม่ใช่ทุกเรื่องที่จะจบแบบ Happy Ending ด้วยการที่พระ-นางลงเอยหรือใช้ชีวิตด้วยกันเสมอไป แต่เป็นบทสรุปที่แตกต่างออกไป จะมีลักษณะไหนลองมาส่องตามละครญี่ปุ่นที่น่าสนใจกันเลยค่ะ
เพิ่งผ่านพ้นเทศกาลวันวาเลนไทน์มา เราคงเห็นบรรยากาศของความรัก โดยเฉพาะคู่รักที่แสดงความรักแก่กัน จนมดขึ้นเต็มโลกออนไลน์ แล้วคนโสดอย่างเราล่ะ จะทำยังไงดี
บทความนี้เลยขอนำเสนอความรักอีกมุมมองกันสักหน่อย เอาจริงๆ แล้ว คำตอบของชีวิต ไม่ได้มีแค่ว่า ต้องมีชีวิตคู่เท่านั้น ละครญี่ปุ่นเองบางเรื่องไม่ใช่ทุกเรื่องที่จะจบแบบ Happy Ending ด้วยการที่พระ-นางลงเอยหรือใช้ชีวิตด้วยกันเสมอไป แต่เป็นบทสรุปที่แตกต่างออกไป จะมีลักษณะไหนลองมาส่องตามละครญี่ปุ่นที่น่าสนใจกันเลยค่ะ
1. First Class ขอเดินทางตามหาความฝัน
สำหรับเรื่องนี้สาวๆ หลายคนคงอาจจะเคยดูผ่านตากันมาบ้างแล้ว ถือว่าเป็นละครญี่ปุ่นที่เรียกได้ว่าแซบสุดๆ เลยค่ะ เรื่องราวชีวิตของ “จินามิ” (รับบทโดย ซาวาจิริ เอริกะ) หญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งที่ได้โอกาสเข้ามาเป็นบรรณาธิการนิตยสารแฟนชั่นชื่อดัง เหมือนชีวิตจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่ที่ไหนได้ ที่นี่มันคือแหล่งที่รวมปีศาจไว้ต่างหากล่ะ! แต่จินามิไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค ตั้งใจทำงานที่รักต่อไป พร้อมมี “อิซึกิ” (รับบทโดย ยูอิจิ นากามารุ)ชายหนุ่มจิตใจดีเข้ามาช่วยเหลือเสมอ จนกระทั่งสามารถฟันฝ่าอุปสรรคไปได้ และทั้งคู่ก็เหมือนจะรักกันค่ะ
แต่ท้ายที่สุด ก็ไม่ได้เลือกที่จะรักกันแบบ Happy Ending ขอเดินทางตามหาความฝัน แล้วค่อยกลับมารักกัน จินามิเลือกที่จะไปเป็นดีไซเนอร์ ส่วนอิซึกิก็ขอเดินทางไปเป็นช่างภาพไกลต่างแดน…
2. Last Friends รักกันเหมือนเพื่อนคนสุดท้ายในชีวิต
ละครญี่ปุ่นรักในตำนานในยุค 2000 ต้นๆ ค่ะ เป็นอีกเรื่องที่ตราตรึงใจใครหลายคน เพราะไม่ใช่ซีรีส์รักโรแมนติกที่หวานแหวว แต่ตีแผ่ปัญหาความรักที่พบเจอได้ในสังคม สำหรับละครเรื่องนี้เริ่มเรื่องจากคู่รักคู่หนึ่ง ซึ่งก็คือ “มิจิรุ” (รับบทโดย มาซามิ นากาซาว่า) กับ “โซสุเกะ” (รับบทโดย เรียว นิชิกิโดะ) ทั้งคู่รักกันมาก จนกระทั่งตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน แต่แล้วเมื่อได้มาอยู่ด้วยกันจริงๆ มิจิรุก็ได้พบความจริงว่าโซสุเกะมีพฤติกรรม DV มักทำร้ายร่างกายคนรักอย่างรุนแรง เมื่อเกิดอาการหึงหรือไม่พอใจ และในขณะนั้นเอง “รุกะ” (รับบทโดย จูริ อุเอะโนะ) สาวห้าวเพื่อนสนิทของมิจิรุก็แอบหลงรักมิจิรุอยู่เช่นกัน และในเวลาเดียว “ทาเครุ” (รับบทโดย เอตะ) ชายหนุ่มที่อาศัยอยู่ในแชร์เฮ้าส์หลังเดียวกันกับรุกะ ก็แอบหลงรักรุกะ
แม้ทุกคนจะรู้ว่ามันเป็นรักที่อาจจะเป็นไปไม่ได้ ไม่ได้คู่กันอย่างสมหวัง แต่ทุกคนก็เลือกที่จะรักต่อไป รักแบบไม่หวังอะไรตอบแทน รักกันราวกับเป็นเพื่อนคนสุดท้ายในชีวิต ที่เฝ้ามองดูเธอมีความสุขอยู่ห่างๆ
3. Dr.Rintaro ปล่อยมือเพื่อความฝันของกันและกัน
เรื่องราวของจิตแพทย์ “รินทาโร่” (รับบทโดย มาซาโตะ ซากาอิ) ที่ตั้งใจรักษาคนไข้ด้วยหัวใจ โดยไม่หวังตำแหน่งสูงๆ อย่างศาสตราจารย์ และแล้ววันหนึ่งเขาได้กับ “ยูเมะโนะ” (รับบทโดย ยุ อาโออิ) สาวสวยที่มีเสน่ห์ แต่แล้วรินทาโร่ก็พบอะไรบางอย่างในตัวตนของเธอ นั่นก็คือ ยูเมโนะเป็นโรคสองบุคลิก ทำให้รินทาโร่พร้อมใจที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยใจความรัก ความเข้าใจ เข้ามาเยียวยาเธอ จนกระทั่งมันเกิดความรู้สึกรักในใจของทั้งคู่ขึ้นมาจริงๆ แต่แล้ว…อีกฝ่ายก็ต้องยอมปล่อยมือไป เพื่อให้คนที่รักได้เดินไปในเส้นทางชีวิตที่มีความสุขกว่าที่เป็น…
4. Haken no Hinkaku แฟนไม่มีก็ได้ แต่ต้องมีงาน
แม้ละครเรื่องนี้จะถูกพูดถึงบ่อยๆ ในหลายๆ บทความ แต่ยังไงก็ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีกในหัวข้อนี้ค่ะ เพราะเป็นละครญี่ปุ่นที่มีเนื้อเรื่องตอบโจทย์กับบทความนี้มาก เรื่องราวของ “ฮารุโกะ” (รับบทโดย เรียวโกะ ชิโนฮาร่า) สาวฮาเคนหรือพนักงานสัญญาจ้างมากฝีมือ ไม่มีคำว่า “ล่วงเวลา” ในพจนานุกรมของเธอ เธอจะทำงานได้อย่างเนี๊ยบและเสร็จภายในเวลางานเสมอ พอถึงคราวทำงานเธอก็จะโฟกัสที่งานอย่างเดียวโดยไม่สนใจอย่างอื่น แน่นอนว่า เธอไม่มี “ความรัก” เข้ามาก่อกวนหัวใจให้รักสะดุด เลยทำให้ฮารุโกะเป็นผู้หญิงที่ทำงานเก่ง มีค่าตัวสูงเพราะความสามารถที่ไม่มีใครเทียบเท่า พอหมดสัญญาจ้าง เธอก็จะให้เวลาพักผ่อนกับตัวเอง ด้วยการเดินทางไปในที่ไกลแสนไกล หรือทำอะไรก็ได้ตามที่ชีวิตต้องการ เรียกได้ว่า แฟนไม่มีก็ได้ แต่ขอมีงาน และงานก็จะนำมาเงินมาให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างแฮปปี้ยังไงล่ะ
5. Kazoku no Katachi ความสุขของการอยู่คนเดียว
เคยไหมเวลากลับไปหาญาติผู้ใหญ่มักจะเจอคำถามที่ว่า “มีแฟนหรือยัง” หรือ “เมื่อไหร่จะแต่งงาน” ที่มาจากค่านิยมทางสังคมว่า ถ้าเริ่มมีอายุมากขึ้นก็ควรจะมีแฟนและครอบครัวที่อบอุ่น แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป วิถีชีวิตของคนเมืองก็เริ่มเปลี่ยนแปลง มีหลายคนที่ยินดีจะใช้ชีวิตตัวคนเดียว เหมือนกับละครญี่ปุ่นเรื่องนี้ที่สะท้อนชีวิตของคนเมืองที่เริ่มหันมาใช้ชีวิตตัวคนเดียวมายิ่งขึ้น “Kazoku no Katachi” เป็นเรื่องราวของ “ไดสุเกะ” (รับบทโดย ชินโงะ คาโทริ) ชายวัย 39 ปีที่ประกาศกับคนรอบข้างแน่วแน่ว่า จะไม่มีวันแต่งงานเด็ดขาด และตัดสินใจซื้อแมนชั่นหรู เพื่อใช้ชีวิตอย่างสบายเพียงคนเดียว (แบบไม่มีใครมาแย่ง) แต่แล้ววันหนึ่งฝันก็สลาย เพื่อชีวิตส่วนตัวมีคนสนิทชิดเชื้อก้าวเข้ามา เมื่อจู่ๆพ่อกับลูกติดของภรรยาใหม่พ่อมาขออาศัยอยู่กับเขา
ในขณะเดียวกันเขาก็ได้รู้จักกับ “ฮานาโกะ” (รับบทโดย จูริ อุเอะโนะ) สาวออฟฟิศ วัย 32 ปี ที่อาศัยอยู่ในแมนชั่นเดียวกัน ซึ่งเธอก็ได้ประกาศกร้าวว่าจะอยู่เป็นโสด ตัวคนเดียว หลังจากตัดสินใจหย่าขาดกับสามี แต่แล้วจู่ๆ แม่ขอมาอยู่ด้วย การพบเจอกันระหว่างไดสุเกะกับฮานาโกะไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก แต่ทั้งคู่ก็มีอะไรที่เหมือนกันคือ อยากมีชีวิตตัวคนเดียว แต่แตกต่างกันที่รูปแบบ คนหนึ่งอยากโสดแบบไม่อยากให้ใครเข้ามารบกวนความเป็นส่วนตัว ส่วนอีกคนอยากอยู่คนเดียว เพราะไม่อยากเจอความเจ็บปวดจากการรักใครอีก
ความพิเศษของละครเรื่องนี้คือ ได้นำเสนอชีวิตการอยู่คนเดียวได้อย่างน่าอิจฉามากค่ะ และแสดงให้เห็นว่า บางทีความสุขที่สุดของชีวิตมันอาจไม่ต้องจบที่การมีชีวิตคู่ บางทีชีวิตคู่ก็ต้องเรียนรู้อะไรมากมาย ถ้าประคับประคองไม่ไหวก็นำมาซึ่งความเจ็บปวดที่อาจจะมากกว่าการอยู่คนเดียวเสียอีก บางทีทางที่ดีเราควรที่จะเรียนรู้การรักตัวเอง และอยู่ตัวคนเดียวอย่างมีความสุข แต่ถึงอย่างนั้น มนุษย์เราก็ไม่อาจมีชีวิตเพียงลำพังได้ แต่ทางออกอาจไม่ต้องจบที่การแต่งงาน แต่มันอาจเป็นการกลับไปอยู่กับครอบครัวที่สร้างเราขึ้นมาจนมีวันนี้อย่างมีความสุขก็ได้
จุดจบความรักที่สวยงามอาจจะไม่ต้องสมบูรณ์แบบหรือลงเอยคู่กันเสมอไป จากละครที่เล่าไป เราอาจจะเห็นได้ว่า บทสรุปความรักนั้นมีหลากหลาย แม้อาจจะมีความเศร้า ความทุกข์ใจปะปนมาบ้าง แต่เชื่อว่า คำตอบที่ถูกที่สุดของชีวิตไม่ได้มีเพียงคำตอบเดียว ท้ายที่สุดเราก็จะมีความสุขในชีวิตที่เราเป็นและตัดสินใจเลือกเอง…
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– 5 ฮีโร่คนธรรมดาจากซีรีส์ญี่ปุ่นที่ใครๆ ก็หลงรัก
– 5 นางเอกจากละครญี่ปุ่นสุดเทพ ทำอะไรก็เป๊ะไปหมด
– ย้อนอดีตไปหารักกับ Proposal Daisakusenา
– Black Leather Notebook: บันทึกสีดำของผู้หญิงสีเทา
– ARASHI’s Diary -Voyage- บันทึกแห่งเส้นทางกว่า 20 ปี
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
– asianwiki.com
– blog.livedoor.jp
– ameblo.jp
– katzina.net
#ละครญี่ปุ่น