สัมผัสเสน่ห์ฤดูหนาวของฮอกไกโดกับเส้นทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟและพาสสุดคุ้ม! ถ้าเบื่อกับการท่องเที่ยวแบบเดิมๆ ครั้งนี้ตามเราไปสัมผัสเสน่ห์การท่องเที่ยวในฤดูหนาวของญี่ปุ่น โดยรถไฟท่องเที่ยวบนเส้นทางสุดพิเศษ ที่สามารถใช้ HOKKAIDO RAIL PASS แสนคุ้มค่าได้ อย่างที่ใครเห็นก็จะต้องอิจฉา!
“นั่งรถไฟเที่ยวฮอกไกโดอย่างไรให้คุ้มค่า! ข้อมูลครบ! จบใน 3 ตอน”
ฤดูหนาวเป็นหนึ่งในฤดูกาลยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น และถ้าพูดถึงจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวของประเทศญี่ปุ่น ก็จะต้องเป็นฮอกไกโด!
ฮอกไกโด (Hokkaido) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดและยังเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ในช่วงฤดูหนาวจะมีอากาศหนาวเย็นมาก แต่ก็มีทัศนียภาพอันงดงามของหิมะสีขาวบริสุทธิ์ที่ปกคลุมไปทั่วสุดลุกหูลูกตา หรือธารน้ำแข็งให้ได้ชื่นชม
ถ้าเบื่อกับการท่องเที่ยวแบบเดิมๆ แล้ว ในครั้งนี้ ตามเราไปสัมผัสเสน่ห์การท่องเที่ยวในฤดูหนาวของญี่ปุ่น โดยรถไฟท่องเที่ยว และเส้นทางสุดพิเศษที่สามารถใช้ HOKKAIDO RAIL PASS แสนคุ้มค่าไปชมวิวอลังการที่ใครเห็นจะต้องอิจฉา!
นอกจากนี้ เราจะเปรียบเทียบให้เห็นอีกว่า ถ้าใช้ HOKKAIDO RAIL PASS แล้วจะคุ้มค่า ประหยัดไปได้มากน้อย แค่ไหน!
HOKKAIDO RAIL PASS พาสรถไฟสุดคุ้มค่า
HOKKAIDO RAIL PASS คือพาสรถไฟสุดคุ้มค่า ซึ่งเราสามารถใช้ในการโดยสารรถไฟในฮอกไกโดได้แบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง (ยกเว้น Hokkaido Shinkansen) และยังรวมไปถึงการขึ้นรถบัสบางส่วนได้แบบไม่จำกัด
HOKKAIDO RAIL PASS เป็นพาสแบบเหมาจ่าย ที่มีให้เลือกมากถึง 4 แบบด้วยกัน ได้แก่ 3, 5, 7 วัน และแบบ Flexible 4 วัน ที่สามารถเลือกวันใช้งานได้ พาสนี้จะช่วยให้เราท่องเที่ยวฮอกไกโดได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
HOKKAIDO RAIL PASS ในแต่ละแบบ มีอะไรบ้าง?
* อายุต่ำกว่า 6 ปี โดยสารฟรี
* หากซื้อพาสสำหรับเด็กก่อนครบอายุ 12 ปี ทั้งแบบ Exchange order หรือพาสตัวจริงในปีนั้นๆ จะยังคงถือว่ายังสามารถใช้พาสราคาเด็กได้
พาส 3 วัน, 5 วัน และ 7 วัน นั้นจะเป็นพาสแบบต่อเนื่อง หรือก็คือพาสที่ต้องใช้วันติดต่อกัน
(ตัวอย่างเช่น หากเราเริ่มใช้พาสวันที่ 1 เม.ย. เป็นวันแรก สามารถใช้งานได้ 3 วัน , 5 วัน หรือ 7 วันตามหน้าบัตร หลังจากนั้นก็จะไม่สามารถใช้งานได้)
* สำหรับพาสแบบ 4 วันเลือกวันได้นั้น เราสามารถเลือกวันใช้งานวันไหนก็ได้ระหว่าง 10 วัน นับจากวันแรกที่เริ่มใช้งาน อย่างเช่น เราเริ่มใช้วันที่ 1 เม.ย. เป็นวันแรก ระหว่างวันที่ 1 เม.ย. จนถึงวันที่ 10 เม.ย. เราจะเลือกใช้วันไหนก็ได้ แต่ได้แค่ 4 วันเท่านั้น
ปู๊น! ปู๊น! รถไฟมาแล้ว!! รีบออกเดินทางไปด้วยกันกับ HOKKAIDO RAIL PASS ดีกว่า!
รถไฟท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด
รถไฟ SL ฟุยุ โนะ ชิทสึเก็น (SL Fuyu-no-Shitsugen Train)
รถไฟ SL ฟุยุ โนะ ชิทสึเก็น (SL Fuyu-no-Shitsugen Train) เป็นรถไฟท่องเที่ยวแบบหัวจักรไอน้ำที่เปิดให้บริการเฉพาะช่วงฤดูหนาวของทุกปี โดยรถไฟจะวิ่งให้บริการในช่วงเดือนปลายเดือนมกราคมถึงวันที่ 1 มีนาคม ระหว่างสถานีคุชิโระ (Kushiro) ถึงสถานีชิเบชะ (Shibecha)
กำหนดการเดินรถ : วันที่ 25, 26 มกราคม 1-11, 14-16, 21-21, 29 กุมภาพันธ์ และ 1 มีนาคม 2563 *รถไฟวิ่งไป-กลับ วันละ 1 รอบ
เส้นทางเดินรถ : สถานีคุชิโระ (Kushiro) – ชิเบชะ (Shibecha)
เวลาเดินรถ : ออกจากสถานีคุชิโระ (Kushiro) 11.05 น. ถึงสถานีชิเบชะ (Shibecha) 12.35 น. ออกจากสถานีชิเบชะ (Shibecha) 14.00 น. ถึงสถานีคุชิโระ (Kushiro) 15.40 น.
ค่าบริการ : ตั๋วโดยสาร 1,290 เยน ตั๋วระบุที่นั่ง 840 เยน (ทุกขบวนเป็นแบบระบุที่นั่ง)
วิธีการซื้อตั๋ว : สามารถซื้อตั๋วแบบระบุที่นั่งได้ที่สถานีรถไฟ JR สาขาหลักทั่วประเทศ (Midori-no-Madoguchi) หรือที่ Twinkle Plaza (Travel Service Center)
รถไฟหัวจักรไอน้ำขบวนนี้ จะแล่นเร็วเต็มกำลังพร้อมพ่นควันสีขาวพวยพุ่งผ่านไปตามพื้นที่ชุ่มน้ำคุชิโระ (Kushiro Marsh) ท่ามกลางหิมะขาวโพลน จากหน้าต่างรถไฟ เราจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพงดงามของสองข้างทางได้อย่างไม่มีเบื่อ
ถ้าโชคดี อาจจะมีโอกาสพบเห็นสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ อาทิ นกกระเรียน กวางเอโซะฮอกไกโด (Hokkaido Ezo Deer) ได้อีกด้วย งานนี้ต้องไม่ลืมพกกล้องถ่ายรูปกันมาให้พร้อมด้วยนะ
บนรถไฟจะมีเตาโบราณลักษณะคล้าย “ดารุมะ (Daruma)” ซึ่งเป็นตุ๊กตานำโชคของญี่ปุ่นวางตั้งไว้ ผู้โดยสารสามารถซื้อปลาหมึกแห้งที่มีจำหน่ายบนรถไฟมาปิ้งทานกันได้ บอกเลยว่ากลิ่นหอมของปลาหมึกนี่หอมตลบอวบอวลจนเกินห้ามใจจริงๆ
นอกจากนี้ ภายในขบวนรถไฟก็ยังมีคาเฟ่ที่จำหน่ายของที่ระลึก รวมถึงข้าวกล่องรถไฟหรือเอะคิเบ็น (Ekiben) ให้ทานกันอย่างเอร็ดอร่อยในขณะที่เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์งดงามนอกหน้าต่างไปพร้อมๆ กันได้ แอบบอกเลยว่าข้าวกล่องบนรถไฟ SL ฟุยุ โนะ ชิทสึเก็น (SL Fuyu-no-Shitsugen Train) นี่อร่อยจริงๆ
ไม่ควรพลาด! สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ นอกจากบริเวณทางรถไฟ
พายเรือแคนูในแม่น้ำคุชิโระ (Kushiro) ในช่วงฤดูหนาว
ชมดอกไม้จากผลึกน้ำแข็ง (Frost Flower) ของทะเลสาบอะคัง (Akan Lake)
ถ่ายรูปชิคๆ สำหรับอัพลงโซเชียลที่เส้นขอบฟ้าเบ็ตสึไค (Betsukai Ice Horizon)
*ดูข้อมูลการเดินทางและรายละเอียดเพิ่มเติมของเส้นขอบฟ้าเบ็ตสึไคได้ที่เว็บไซต์ http://betsukai-kanko.jp/index_th/
แนะนำเส้นทางท่องเที่ยว
ชมความงดงามของเมืองโอบิฮิโระ (Obihiro) ทะเลสาบอะคัง (Akan Lake) และโทมามุ (Tomamu) ไปกับรถไฟ SL ฟุยุ โนะ ชิทสึเก็น (SL Fuyu-no-Shitsugen Train)
*ตารางการเดินรถเป็นข้อมูลของเดือนธันวาคม 2562 โปรดตรวจสอบข้อมูลอัพเดตล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ของ JR Hokkaido
สรุป
ถ้าไม่ใช้พาส จะต้องจ่ายค่ารถไฟของ JR ทั้งหมด 5 วัน รวมทั้งสิ้น 32,180 เยน
แต่ถ้าใช้ฮอกไกโดเรลพาส (Hokkaido Rail Pass) ค่าเดินทาง 5 วันจะเหลือเพียง ผู้ใหญ่ 23,480 เยน (เด็กอายุ 6-11 ปี 11,740 เยน)
สามารถประหยัดไปได้ถึง 8,700 เยน!
รถไฟริวเฮียวโมโนกาตาริ (Ryuhyo Monogatari Train)
รถไฟริวเฮียวโมโนกาตาริ (Ryuhyo Monogatari Train) เป็นรถไฟท่องเที่ยวที่เปิดให้บริการเฉพาะช่วงฤดูหนาวของทุกปี โดยจะวิ่งให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม ระหว่างสถานีอะบาชิริ (Abashiri) ถึงสถานีชิเรโทโกะชาริ (Shiretoko Shari)
รถไฟขบวนนี้จะวิ่งเลียบทะเลโอคอตสค์ (Okhotsk) นักท่องเที่ยวจึงสามารถชมวิวสองข้างทางที่เป็นธารน้ำแข็ง หรือในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “ริวเฮียว (Ryuhyo)” จากหน้าต่างรถไฟได้อย่างชัดเจน
กำหนดการเดินรถ : วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2563 *รถไฟวิ่งไป-กลับ วันละ 2 รอบ
เส้นทางเดินรถ : รถไฟหมายเลข 1 และ 3 สถานีอะบาชิริ (Abashiri) – ชิเรโทโกะชาริ (Shiretoko Shari) รถไฟหมายเลข 2 และ 4 สถานีชิเรโทโกะชาริ (Shiretoko Shari) – อะบาชิริ (Abashiri)
เวลาเดินรถ : ออกจากสถานีอะบาชิริ (Abashiri) 09.45 และ 12.45 น. ออกจากสถานีชิเรโทโกะชาริ (Shiretoko Shari) 11.30 และ 13.48 น.
รถไฟหมายเลข 1 : ออกจากสถานีอะบาชิริ (Abashiri) 09.45 น. ถึงสถานีชิเรโทโกะชาริ (Shiretoko Shari) 10.40 น. , รถไฟหมายเลข 3 ออกจากสถานีอะบาชิริ (Abashiri) 12.45 น. ถึงสถานีชิเรโทโกะชาริ (Shiretoko Shari) 13.35 น.
รถไฟหมายเลข 2 : ออกจากสถานีชิเรโทโกะชาริ (Shiretoko Shari) 11.30 น. ถึงสถานีอะบาชิริ (Abashiri) 12.30 น., รถไฟหมายเลข 4 ออกจากสถานีชิเรโทโกะชาริ (Shiretoko Shari) 13.48 น. ถึงสถานีอะบาชิริ (Abashiri) 14.46 น.
ค่าบริการ : ตั๋วโดยสาร 970 เยน ตั๋วระบุที่นั่ง – (มีเฉพาะที่นั่งแบบไม่ระบุที่นั่ง)
วิธีการซื้อตั๋ว : สามารถซื้อตั๋วได้ที่สถานีรถไฟ JR สาขาหลักทั่วประเทศ (Midori-no-Madoguchi)
ด้านซ้ายมือของรถไฟในภาพที่เราเห็นอยู่ตอนนี้ คือทะเลที่กลายเป็นน้ำแข็งกว้างไกลจนสุดลูกหูลูกตาเลย!
ดีไซน์ของขบวนรถไฟริวเฮียวโมโนกาตาริ (Ryuhyo Monogatari Train) มี 2 แบบ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก “สีฟ้าสดใส” ของท้องฟ้าและทะเลโอคอตสค์ (Okhotsk) และ “สีขาว” ของธารน้ำแข็ง
ขบวนสีฟ้านั้นมีลวดลายของเทือกเขาชิเรโทโกะ (Shiretoko) และดอกลิลลี่ ส่วนสีขาวนั้นจะมีลวดลายของธารน้ำแข็ง และสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่านางฟ้าทะเล
ลวดลายสีฟ้าและขาวที่ตัดกันของรถไฟ สดใส เหมาะกับการถ่ายรูปลงโซเชียลเพื่ออวดเพื่อนๆ เป็นอย่างมาก
ระหว่างทางเราก็จะแวะพักที่สถานีคิตาฮามะ (Kitahama) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่ใกล้ทะเลโอคอตสค์ (Okhotsk) มากที่สุด เราสามารถชื่นชมกับทิวทัศน์ทะเลโอคอตสค์ (Okhotsk) จากจุดชมวิวได้ด้วย
ขากลับเรามาแวะกันที่สถานีฮามะโคะชิมิสุ (Hama Koshimizu) ประมาณ 20 นาที สามารถสนุกกับการช้อปปิ้งของฝากที่จุดพักรถฮานายากะโคะชิมิสุ (Hanayaka Koshimizu) ซึ่งอยู่ติดกับสถานีฮามะโคะชิมิสุ (Hama Koshimizu) เรียกได้ว่าเป็นรถไฟท่องเที่ยวที่สุดยอดมากๆ
ดีต่อใจ! บริเวณสถานีอะบาชิริ (Abashiri) สามารถชมวิวของธารน้ำแข็ง และเรือตัดน้ำแข็งออโรร่า (Aurora) ได้อย่างใกล้ชิด
ไม่ควรพลาด! สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ นอกจากบริเวณทางรถไฟ
ตกปลาวะคะซะงิ (Wakasagi) จากหลุมน้ำแข็ง
เที่ยวชมงานเทศฤดูหนาวชิเรโทโกะริวโฮ (Shiretoko Ryuho Festival)
ลิ้มรส “โมโยโระนาเบะ (Moyoro Nabe) เมนูขึ้นชื่อของเมืองอะบาชิริ (Abashiri)
*โมโยโระนาเบะ (Moyoro Nabe) เป็นอาหารท้องถิ่นของคนที่อาศัยบริเวณทะเลโอคอตสค์ (Okhotsk) ซึ่งปรุงในหม้อดินเผาที่ทำขึ้นมาพิเศษ โดยใช้วัตถุดิบต่างๆ เช่น ปลาแซลมอน อาหารทะเล ลูกชิ้นสูตรพิเศษของทะเลโอคอตสค์ (Okhotsk)
แนะนำเส้นทางท่องเที่ยว
สัมผัสเสน่ห์ของเมืองอาซาฮิคาวะ (Asahikawa) อะบาชิริ (Abashiri) ชิเระโทโกะ (Shiretoko) และอะคัง (Akan)ไปกับ รถไฟริวเฮียวโมโนกาตาริ (Ryuhyo Monogatari Train)
*ตารางการเดินรถเป็นข้อมูลของเดือนธันวาคม 2562 โปรดตรวจสอบข้อมูลอัพเดตล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ของ JR Hokkaido
สรุป
ถ้าไม่ใช้พาสจะต้องจ่ายค่ารถไฟของ JR ทั้งหมด 5 วัน รวมทั้งสิ้น 29,610 เยน
แต่ถ้าใช้ฮอกไกโดเรลพาส (Hokkaido Rail Pass) ค่าเดินทาง 5 วัน จะเหลือเพียง ผู้ใหญ่ 23,480 เยน (เด็กอายุ 6-11 ปี 11,740 เยน)
สามารถประหยัดไปได้ถึง 6,130 เยน!
คนที่อยากเพลิดเพลินกับรถไฟท่องเที่ยวในฤดูหนาวอย่างเต็มที่ต้องไม่พลาด!
แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวด้วย รถไฟ SL ฟุยุ โนะ ชิทสึเก็น (SL Fuyu-no-Shitsugen Train)และ รถไฟริวเฮียวโมโนกาตาริ (Ryuhyo Monogatari Train)
*ตารางการเดินรถเป็นข้อมูลของเดือนธันวาคม 2562 โปรดตรวจสอบข้อมูลอัพเดตล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ของ JR Hokkaido
สรุป
ถ้าไม่ใช้พาสจะต้องจ่ายค่ารถไฟของ JR ทั้งหมด 5 วัน รวมทั้งสิ้น 30,120 เยน
แต่ถ้าใช้ฮอกไกโดเรลพาส (Hokkaido Rail Pass) ค่าเดินทาง 5 วันจะเหลือเพียง ผู้ใหญ่ 23,480 เยน (เด็กอายุ 6-11 ปี 11,740 เยน)
สามารถประหยัดไปได้ถึง 6,640 เยน!
ถ้าอยากเที่ยวฮอกไกโดแบบฟินๆ และคุ้มค่าอย่างนี้ สามารถหาซื้อฮอกไกโดเรลพาส (Hokkaido Rail Pass) ได้ที่ JTB สาขา EmQuartier
ที่ตั้ง : ชั้น 4 ห้องเลขที่ 4A13 ห้างสรรพสินค้า EmQuartier (Helix Zone)
เวลาทำการ : ทุกวัน 10.30-20.00 น. โทร. 02-344-4688
พิเศษ! โปรโมชั่นเฉพาะตอนนี้เท่านั้น!!
แถมฟรี! ขนมคาราเมล “JR Hokkaido Ekimeihyo Caramel”
สำหรับลูกค้าที่ซื้อฮอกไกโดเรลพาส (Hokkaido Rail Pass)
*ขนมมีจำนวนจำกัด
ถ้าอยากได้ทั้งพาสคุ้มค่าๆ ทั้งขนมอร่อยๆ กลับไปทานก็ต้องรีบกันหน่อยแล้ว!!
สำหรับใครที่มีแพลนเดินทางไปเที่ยวยังฮอกไกโด และอยากตามรอยการเดินทางสุดพิเศษด้วยรถไฟ สามารถติดตามอ่านต่อได้ที่ บทความตอนที่ 3 “ตื่นตาตื่นใจกับธรรมชาติในฤดูร้อนของฮอกไกโดด้วยรถไฟท่องเที่ยวและพาสสุดคุ้ม!”
เรื่องแนะนำ :
– ตะลุยฮอกไกโดด้วยรถไฟแบบไม่จำกัดกับ HOKKAIDO RAIL PASS
– เพลิดเพลินสุดๆ กับธรรมชาติในฤดูร้อนของฮอกไกโดด้วยรถไฟท่องเที่ยวและพาสสุดคุ้ม!
– เจแปน จุด จุด จุด : Hokkaido Sweet Road ตะลุยกินในฮอกไกโด ตอนที่ 1
– เที่ยว North Hokkaido เหนือสุดดินแดนอาทิตย์อุทัย : Asahikawa
– เที่ยว North Hokkaido เหนือสุดดินแดนอาทิตย์อุทัย : Wakkanai
#ฮอกไกโด #ฤดูหนาวของฮอกไกโด #เส้นทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟ