สัปดาห์นี้จะพูดเรื่องการทัวร์ญี่ปุ่นเป็นครั้งสุดท้าย จึงขอปิดกันที่โตเกียว ในสังเวียนใหญ่ที่จุคนได้กว่า 500 คน และที่น่าภูมิใจก็คือทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอที่จะพบกับนักมวยปล้ำชาวไทย
จริงๆ แล้วตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้สี่ตอน แต่คิดว่ามันอาจจะนานเกินไปสำหรับเรื่องมวยปล้ำ อย่างไรก็ตามก็อยากจะบันทึกตรงส่วนนี้ไว้ครับ อย่างน้อยหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ เราได้มีนักมวยปล้ำไทยเป็นของตนเอง และประเทศที่เปิดโอกาสให้กับเราก็คือแดนอาทิตย์อุทัยที่เรารัก การเริ่มต้นตรงนี้อาจจะเป็นความเติบใหญ่ในภายภาคหน้าก็ได้ ดังนั้นพื้นที่ของ marumura จึงเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สำคัญที่คอยสนับสนุนการเติบโตตรงนี้เสมอมา ต้องขอขอบคุณมากๆ นะครับ
สัปดาห์นี้จะพูดเรื่องการทัวร์ญี่ปุ่นเป็นครั้งสุดท้าย จึงขอปิดกันที่โตเกียว ในสังเวียนใหญ่ที่จุคนได้กว่า 500 คน และที่น่าภูมิใจก็คือทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอที่จะพบกับนักมวยปล้ำชาวไทย

การปล้ำในวันนี้จัดขึ้นที่สนาม Kitazawa Town Hall ซึ่งสามารถเดินทางมาได้โดยรถไฟครับ มาลงที่สถานี Shimo – Kitazawa แล้วเดินมาอีกนิดหน่อยเท่านั้น อากาศอยู่ที่ประมาณ 10 องศาเท่านั้น และช่วงคืนก่อนงานมีฝนตกซะด้วย เรียกว่าอากาศไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ครับ ตอนแรกก็กังวลเหมือนกันว่าจะมีแฟนๆมากันอย่างที่ซื้อบัตรไว้รึเปล่า (คือก็กังวลไปเรื่อยแหละ จริงๆเค้าจ่ายเงินแล้วคงไม่ทิ้งบัตรไปฟรีๆ บัตรราคาสูงครับ มวยปล้ำราคาอยู่ประมาณ 4000 เยนเลย)
สิ่งหนึ่งที่ต้องพูดเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นก็คือ พวกเขาจะเคารพเวลาส่วนตัวของนักกีฬามากๆ ครับ อย่างเช่นมวยปล้ำเริ่มเวลา 13:00 พวกเขาจะมาอย่างเร็วก็ตอน 12:30 ถึงแม้เขาจะรู้ว่าถ้ามาก่อนเวลานั้นจะได้เจอกับนักมวยปล้ำแบบใกล้ชิดก็ตาม แต่คนญี่ปุ่นกลับคิดว่ามันไม่ใช่เวลาที่ควรจะเจอ นอกจากนี้คนญี่ปุ่นจะไม่ขอลายเซ็นนักมวยปล้ำนอกเวลางานอย่างเด็ดขาด แต่จะไปต่อคิวกันจ่ายเงินเพื่อแลกกับการถ่ายภาพคู่ ถือว่าเป็นแฟนคลับมืออาชีพจริงๆ ครับ อย่างไรก็ตามในช่วงเวลา 30 นาทีก่อนเริ่มงานจะเป็นช่วงเวลาที่ฉุกละหุกมากๆ เพราะคุณจะไม่มีทางรู้เลยว่าแฟนๆ แต่ละคนโผล่มาทางไหน ทีมงานต้องสมบูรณ์แบบจริงๆ ครับถึงจะจัดการกับคนจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับมวยปล้ำในวันนี้คือวันสรุปครับ คู่เอกก็คือนักมวยปล้ำไทยทั้ง 5 คนต้องปะทะกับทีมของอาจารย์ทั้ง 5 คนแบบแพ้คัดออกจนอีกทีมไม่เหลือนักมวยปล้ำ ฝ่ายที่อยู่รอดก็จะชนะไป นักมวยปล้ำไทยในงานนี้ก็ได้แก่ EK BAKI, BLUE LOTUS, PEPPERMINT, P-NUTZ, GOLEM THAI และฝั่งญี่ปุ่นก็จะมี MASA TAKANASHI, MADOKA, DJ NIRA, KAORI YONEYAMA, EMI SAKURA
[ad id=”61″]ผมมีโอกาสได้เจอกับนักมวยปล้ำตั้งแต่เดินทางมาถึง ทุกคนดูผ่อนคลายแต่ก็แสดงออกถึงความตื่นเต้นอย่างสุดๆ เพราะวันนี้เป็นเหมือนบทสรุปที่พวกเขาฝึกซ้อมกันมาอย่างหนักครับ ทุกคนอยากจะทำผลงานให้ดีที่สุดและที่สำคัญคือการเอาชนะทีมของอาจารย์ ซึ่งนอกจากจะเป็นนักมวยปล้ำชื่อดังของญี่ปุ่นแล้ว ยังเป็นคนที่สร้างมวยปล้ำอาชีพให้เกิดขึ้นในเมืองไทยอีกด้วย


การปล้ำในวันนี้ต้องบอกว่าแฟนๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก รวมถึงสื่อโทรทัศน์ชื่อดังของญี่ปุ่นอย่าง Samurai TV ! ช่องกีฬาต่อสู้อันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ก็ลงทุนเดินทางมาติดตามผลงานของนักมวยปล้ำจากประเทศไทยอย่างใกล้ชิดถึงขอบ เวที ทุกคนสามารถดูภาพได้จากด้านล่างนี้ครับ




การปล้ำในครั้งนี้ถือว่าคนไทยทำผลงานได้ดีกว่ามาตรฐานที่คิดไว้จริงๆ ครับ สามารถขึ้นปล้ำได้นานถึง 19.40 นาที เอาตัวรอดจากนักมวยปล้ำอาชีพที่แข็งแกร่งได้อย่างงดงาม และที่เหนือไปกว่านั้นคือพวกเขาสามารถเอาชนะนักมวยปล้ำญี่ปุ่นได้ด้วย ผลของแมตช์นี้คือคนไทยแพ้ไป 5 ต่อ 4 คนที่เหลือเป็นคนสุดท้ายคือ Emi Sakura ที่สามารถจับกด Blue Lotus นักมวยปล้ำหญิงคนแรกของไทยไปได้อย่างสนุก จนแฟนๆ ถึงกับลุกขึ้นปรบมือให้ทั้งสนามเลยทีเดียว สำหรับผลการปล้ำผมสรุปให้อ่านได้ง่ายๆ ดังนี้ครับ
Sakura Japan vs. Thailand Allstars – Elimination Match:
Emi Sakura, Kaori Yoneyama, Masa Takanashi, Madoka & DJ Nira
เอาชนะ
Blue Lotus, Peppermint, E.K. Buggy, P-Nutz & Thai Golem (19:40) สกอร์รวม [5:4]
รายละเอียดการแข่งขัน
– P-Nutz ชนะ Madoka (10:03) หลังจากใช้ท่า Axe Bomber
– DJ Nira ชนะ Golem Thai (11:06) หลังจากดึงโกเล็มตกเวที
– DJ NIRA ลื่นตกเวที ออกจากการแข็งขัน
– Masa Takanashi ชนะ Peppermint (12:50) หลังจากหลบท่าเตะและรวบกด
– Kaori Yoneyama ชนะ P-Nutz (14:18) หลังจากเล่นงานด้วยการกระโดดจากเชือกเส้นบนสุด
– E.K. Buggy ชนะ e Kaori Yoneyama (15:05) ด้วยท่าไม้ตาย Falling Sanchuari
– Masa Takanashi ชนะ E.K. Buggy (15:36) ด้วยท่าไม้ตาย Taka Tonic
– Blue Lotus ชนะ Masa Takanashi (17:18) ด้วยท่า Drop Kick
– Emi Sakura ชนะ Blue Lotus (19:40) ด้วยท่า La Magistral กดนับสาม

ผมขอปิดท้ายด้วยคลิปการปล้ำของนักมวยปล้ำชาวไทย ซึ่งเดินตามความฝันของตนเอง จากสิ่งที่ลมๆ แล้งๆ จนไปขึ้นปล้ำเป็น “นักมวยปล้ำอาชีพ” ที่ญี่ปุ่น บางคนเป็นนักเรียน บางคนเป็นนักศึกษา บางคนทำงานประจำ ฯลฯ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพราะความฝัน ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพราะพวกเขารักในสิ่งเดียวกัน ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ให้โอกาสทุกคนเสมอ ขอแค่เรารักในสิ่งที่จะทำ และเดินไปตามครรลองที่ถูกที่ควรครับ
ติดต่อผมได้โดยตรงทางทวิตเตอร์ @pumiiiiiiiiii ครับ พบกันใหม่สัปดาห์หน้าทาง marumura แห่งนี้ครับ ^^