คนญี่ปุ่นบ่นคิดถึงอาหารรถเข็นไทย…แผงลอยไม่ใช่ร้านค้าในชีวิตประจำวันของญี่ปุ่นเหมือนที่ไทยและราคาขายก็ไม่ได้ถูก คนญี่ปุ่นที่ต้องการตั้งแผงลอยต้องขออนุญาตประกอบกิจการที่เกี่ยวกับอาหารถูกสุขลักษณะ และต้องขออนุญาตใช้สถานที่สาธารณะ ไม่เหมือนรถเข็นที่ไทยคือจะเข็นไปจอดและขายที่ไหนก็ได้ ตราบใดที่ขยันก็ไม่มีวันอดตายค่ะ
ในช่วงที่ละแวกออฟฟิศดิฉันยังถูกล้อมรอบไปด้วยร้านรถเข็นแผงลอยมากมาย เดินออกมาเลี้ยวขวาก็จะพบรถเข็นขายน้ำ ตามด้วยร้านก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก ลูกชิ้นปิ้ง ผลไม้ เครปญี่ปุ่น ขนมจีนน้ำยา กล้วยแขก น้ำส้ม น้ำมะพร้าว ข้าวโพดนึ่ง ฯลฯ หากเดินเลี้ยวทางซ้ายก็จะพบรถเข็นผลไม้ เต้าฮวย เฉาก๊วยโบราณ อาหารตามสั่ง ผลไม้ดอง กล้วยปิ้ง ฯลฯ ทั้งนี้ไม่รวมรถเข็นขายกาแฟและน้ำชงๆ ที่นับได้ 5 ร้านในรัศมีสองร้อยเมตร เดินลงมาช่วงเวลาใดก็ไม่มีอดค่ะ
ตั้งแต่รัฐบาลจัดระเบียบรถเข็นแผงลอยขายของเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความสะอาดของทางเท้า เพราะบางแผงลอยวางเกะกะทางเดิน ทิ้งขยะเกลื่อนทำให้ท่อน้ำอุดตัน สร้างปัญหาน้ำขังตอนฝนตก ทั้งยังทำให้เกิดยุงและหนูชุกชุม ร้านรถเข็นต่างๆ ก็หายไปทำให้คนญี่ปุ่นหลายคนในออฟฟิศบ่นคิดถึง
1) รถเข็นขายของในญี่ปุ่นมีจำกัดเฉพาะที่ แผงลอยหรือรถเข็นที่ญี่ปุ่นหาได้ยากกว่าบ้านเรามาก ที่มีเยอะๆ ก็ที่เหมืองฟุกุโอกะ ซึ่งอาหารรถเข็นเป็นเอกลักษณ์ประจำเมืองเรียกว่า 屋台-Yatai บางเมืองรถเข็นจะมีให้เห็นเพียงตามงานเทศกาลต่างๆ เช่น งานขึ้นปีใหม่ที่จัดตามศาลเจ้าหรือสวนสาธารณะ ร้านแผงลอยที่ดิฉันชื่นชอบได้แก่ กล้วยเคลือบช็อคโกแลต น้ำแข็งใส ทาโกะยากิ ยากิโซบะ ดังโงะ โดรายากิ ไทยากิ ยากิโทริ ฯลฯ พูดแล้วเริ่มหิวค่ะ
กล่าวง่ายๆ คือแผงลอยไม่ใช่ร้านค้าในชีวิตประจำวันของญี่ปุ่นเหมือนที่ไทยและราคาขายก็ไม่ได้ถูก คนญี่ปุ่นที่ต้องการตั้งแผงลอยต้องขออนุญาตประกอบกิจการที่เกี่ยวกับอาหารถูกสุขลักษณะ และต้องขออนุญาตใช้สถานที่สาธารณะ ไม่เหมือนรถเข็นที่ไทยคือจะเข็นไปจอดและขายที่ไหนก็ได้ ตราบใดที่ขยันก็ไม่มีวันอดตายค่ะ
2) อาหารรถเข็นหาได้ง่ายและมีทุกที่ทุกเวลา ที่ญี่ปุ่นหากหิวพนักงานก็จะเดินลงมาร้านสะดวกซื้อเพื่อหยิบข้าวปั้นโอนิกิริสักอัน ขนมปังสักชิ้น หรือคุ้กกิ้สักห่อจากร้านสะดวกซื้อเพื่อรองท้องแบบจุ๋มจิ๋มน่ารัก ต่างจากพนักงานออฟฟิศไทยที่จะลงมาซื้อของกินตามรถเข็นแบบกินเล่นๆ แต่จริงจัง รถเข็นมีทั้งขาประจำคือตั้งอยู่เป็นประจำตามช่วงเวลาที่แน่นอน ขาจรคืออาจเข็นผ่านมาเป็นบางวันหรือบางช่วงเวลา หรือขาชั่วคราวเช่น ไอศกรีมไผ่ทองที่เข็นผ่านมาเป็นครั้งคราว เป็นต้น
3) อาหารรถเข็น ปรุงสด อุปกรณ์ครบ อาหารแช่เย็นหรือแช่แข็งในตู้เย็น ไก่ปิ้งวางนิ่งอยู่ในตู้โชว์ โอเด้งนอนสลบในหม้อร้อนในร้านสะดวกซื้อหรือจะสู้ ก๋วยเตี๋ยวที่ลวกสลัดน้ำออกจากเส้นให้เห็นกันจะๆ ผลไม้ที่หยิบมาเฉาะกันให้เห็นสดๆ ผัดไทยที่ผัดควันขโมงโฉงเฉงจนกลิ่นติดหัวลูกค้าที่ยืนรอ น้ำส้มที่หยิบมาคั้นให้เห็นน้ำหยดติ๋งๆ ตรงหน้า แน่นอนว่าการประกอบอาหารรถเข็นแลดูสดใหม่น่าตื่นตาตื่นใจกว่า แต่วัตถุดิบที่นำมาปรุงจะสดใหม่หรือไม่เป็นอีกเรื่องนะคะ ฮ่าๆๆ
บางร้านขายอาหารตามสั่งคือสั่งเมนูอะไรก็ทำได้หมด สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ชาวญี่ปุ่นยิ่งนัก อุปกรณ์และวัตถุดิบการปรุงครบครันจนแอบสงสัยว่าสามารถยัดทุกอย่างอยู่ในรถเข็นคันเล็กๆ ได้อย่างไร
4) รถเข็นเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทย รถเข็นเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของไทยเลยทีเดียว เพราะร้านอาหารไทยที่ญี่ปุ่นบางแห่งถึงขนาดสั่งรถเข็นไปตั้งเป็นพร็อพ มีร้านอาหารไทยร้านนึงในโตเกียวที่นอกจากจะมีรถเข็นแล้วยังมีการใช้ถาดหลุมเป็นภาชนะใส่อาหารให้ลูกค้า กิ๊บเก๋มากเลยใช่ไหมคะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สามารถติดตามอ่าน Japan Success ธุรกิจสำเร็จได้ด้วยใจรัก ตามแผงหนังสือชั้นนำ และ สามารถพูดคุยสื่อสารกับพิชชารัศมิ์ได้ที่ FB: Life Inspired by พิชชารัศมิ์
เรื่องแนะนำ :
– มารยาทการเข้าร้านอาหารญี่ปุ่น
– เทคนิคการคิดสิ่งใดให้สมปรารถนา ตามแนวดร. อินะโมะริ
– ทัศนคติต่อการทำงานของนักศึกษาญี่ปุ่นที่ต่างจากไทย และอาชีพที่ได้เงินเดือนดี
– คุณจะได้อะไรจากการอ่านหนังสือ Japan Success ธุรกิจสำเร็จได้ด้วยใจรัก
– การบริการลูกค้าแบบญี่ปุ่นคือ คือต้องรู้จักพูด “คำขอโทษ” ไม่ใช่ “คำแก้ตัว”
– เด็กญี่ปุ่นและไทย โตขึ้นอยากเป็นอะไรกันนะ