ตุ๊กตาขออย่าให้ฝนตกลงมากวนใจ คนไทยเรียกว่า ตุ๊กตาไล่ฝน และคนญี่ปุ่นเรียกว่า Teru teru bouzu 「てるてるぼうず」 แขวนเจ้านี่จะไว้ไล่ฝนได้ คนญี่ปุ่นเค้าว่ากันอย่างนั้นนะ…
ช่วงที่ฝนตกบ่อยๆ ถ้าวันไหนมีนัดสำคัญๆ คงจะต้องคอยภาวนาขอให้อากาศดี จะได้ไม่ต้องเปียกฝนจนเสียลุ๊ค แล้วก็ไม่ต้องเจอกับการเดินทางแสนลำบากกัน ที่นี้ก็เลยทำให้นึกถึงเรื่องเครื่องรางอย่างหนึ่งของชาวญี่ปุ่นเค้าขึ้นมา อันที่เอาไว้ขอให้อากาศดีทั้งวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งขออย่าให้ฝนตกลงมากวนใจ ที่พี่ไทยเรียกว่า ตุ๊กตาไล่ฝน และที่ญี่ปุ่นเรียกว่า Teru teru bouzu 「てるてるぼうず」 แขวนเจ้านี่จะไว้ไล่ฝนได้ คนญี่ปุ่นเค้าว่ากันอย่างนั้นนะ…
Teru teru bouzu มีความหมายแยกกันเป็นสองคำดังนี้ Teru 「照る」 หมายถึง แสงแดดหรืออากาศแจ่มใส และ Bouzu 「坊主」 แปลว่าคนหัวโล้น ซึ่งก็คือนักบวชที่ต้องโกนผมนั่นแหละ คล้ายกับว่าเป็นมินิตุ๊กตานักบวชที่ทำขึ้นสำหรับขอพรนั่นเอง และเป็นความเชื่อที่ยาวนานมาก ญี่ปุ่นได้รับธรรมเนียมนี้มาจากประเทศจีน เมื่อราวสมัยเฮอัน (ค.ศ. 794 – ค.ศ. 1185) โดยเริ่มจากที่ประเทศจีนนั้นมีตุ๊กตาขอพรที่เป็นตุ๊กตาเด็กผู้หญิงถือไม้กวาดอยู่ เรียกว่า So chin nyan [掃晴娘] เชื่อกันว่าไม้กวาดสามารถขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไปได้ และผู้หญิงก็เป็นเพศที่มีความเชื่อในเรื่องของการขอพรหนักแน่นกว่าผู้ชาย ดังนั้นถ้าแขวนเจ้าตุ๊กตาเด็กผู้หญิงถือไม้กวาดไว้แล้วขอพรให้พรุ่งนี้อากาศแจ่มใส ก็น่าจะช่วยปัดกวาดเมฆฝนออกไปได้ด้วย
คนไทยส่วนใหญ่จะรู้จักตุ๊กตาไล่ฝนมาจากการ์ตูนเรื่อง เณรน้อยเจ้าปัญญา..อิคคิวซัง เพราะเป็นของดูต่างหน้าจากท่านแม่ของท่านอิคคิว ที่แขวนไว้กับต้นไม้ตรงทางเดินในวัดอังโคะคุจิ สิ่งนี้มีความหมายกับท่านอิคคิวมาก และมีหลายครั้งที่เณรน้อยอธิษฐานขอพรอื่นๆ จากตุ๊กตาไล่ฝนด้วยเช่นกัน
ที่จริงตุ๊กตาไล่ฝน เพิ่งจะมาเริ่มเป็นที่นิยมกันในช่วงเอโดะนี่เอง (ค.ศ. 1603 – ค.ศ. 1868) แม้ว่าในสมัยก่อนบางพื้นที่ ตุ๊กตาไล่ฝนจะยังคงถูกเรียกว่า Teri teri bouzu ซึ่ง Teri 「照り」 ซึ่งก็มีความหมายว่า แสงแดดหรืออากาศอบอุ่นเหมือนกัน เริ่มมาจากการที่ชาวนาชาวไร่แขวนตุ๊กตาไล่ฝนไว้นอกบ้าน เพื่อขอให้อากาศดีจะได้ออกไปทำมาหากินได้สะดวก และมาสมัยนี้ที่เด็กๆ จะตื่นเต้นกับการไปทัศนศึกษา วันงานกีฬาสี และการไปเที่ยวงานเทศกาลต่าง ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับพวกเขามาก พวกเขาจึงมักจะรีบแขวนตุ๊กตาไล่ฝนไว้ที่นอกหน้าต่าง หรือนอกประตูบ้าน เพื่อขอให้วันรุ่งขึ้นอากาศแจ่มใส เพราะไม่มีใครอยากจะพลาดวันพิเศษเหล่านั้น เมื่อคำอธิษฐานเป็นจริง ก็จะต้องแขวนกระดิ่งหรือเทสาเกให้กับตุ๊กตาไล่ฝน เพื่อเป็นการขอบคุณด้วยนะ และถ้าหากวันไหนอยากให้ฝนเทลงมาล่ะก็ให้แขวนตุ๊กตาไล่ฝนกลับหัวซะ ที่นี้ล่ะก็..ฝนได้ตกลงทั้งวันแน่นอน (มั้ง อิ อิ)
บางวัดหรือศาลเจ้าบางแห่งที่ต้องทำพิธีในวันสำคัญๆ เขาก็นิยมแขวนตุ๊กตาไล่ฝนไว้ด้วยเหมือนกัน เพื่อเรียกสิริมงคล ขอให้สามารถทำพิธีไปได้อย่างราบรื่นไม่มีอะไรติดขัด ฝนก็ไม่ตก อากาศก็แจ่มใสไปจนกว่าจะจบพีธี และการพกตุ๊กตาไล่ฝนไว้กับตัวเองเป็นเสมือนเครื่องรางประจำกาย บางคนก็เชื่อว่าจะนำสิ่งดีๆ และความสดใสสดชื่นมาให้กับตัวเองได้ด้วย
คราวนี้มาดูวิธีการทำตุ๊กตาไล่ฝน แบบแฮนด์เมดกันดีกว่า อุปกรณ์ก็หาได้ไม่ยากเย็นอะไรนัก จะใช้ผ้าหรือกระดาษก็ได้ ตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยม หาเชือกมาสักเส้นเลือกเอาตามแต่ใจชอบ และปากกาสำหรับเอาไว้วาดหน้าให้ตุ๊กตา แล้วก็ลงมือทำตามกันได้เลย…
แล้วยังมีบทเพลงสำหรับตุ๊กตาไล่ฝนมาฝากด้วยนะ เป็นเพลงสำหรับเด็กๆ ที่ฟังดูสดใสร่าเริงดี ชื่อเพลงว่า Teru teru bouzu เขียนเนื้อเพลงโดย Asahara Kyoson และใส่ทำนองโดย Nakayama Shinpei แต่งไว้เมื่อปี 1921 เป็นเพลงที่สดใส มีเนื้อหาเพื่อที่จะขอพรให้อากาศแจ่มใสและทิ้งท้ายด้วยการกล่าวถึงการให้รางวัลตอบแทน เพราะเพลงนี้จึงทำให้ผู้คนเรียก ตุ๊กตาไล่ฝน ว่า Teru teru bouzu มาจนถึงปัจจุบัน และทำให้ Teri teri bouzu กลายเป็นชื่อในตำนานไป แต่ไม่ว่าจะเรียกยังไงความหมายก็ดีเหมือนกัน มาฟังเพลงกันดีกว่า…
ขอให้วันพรุ่งนี้เป็นวันที่แดดออกท้องฟ้าแจ่มใส
ให้เหมือนกับท้องฟ้าในบางเวลาของความฝัน
ถ้ามีแสงแดดจริงฉันจะให้กระดิ่งทองคำแด่เธอเทรุเทรุโบซึ เทรุโบซึ
ขอให้วันพรุ่งนี้เป็นวันที่แดดออกท้องฟ้าแจ่มใส
ถ้าคำขอของฉันเป็นจริง
ฉันจะให้สาเกหวานแด่เธอเทรุเทรุโบซึ เทรุโบซึ
ขอให้วันพรุ่งนี้เป็นวันที่แดดออกท้องฟ้าแจ่มใส
แต่ถ้าหากเมฆเกิดร้องไห้ และมีฝนตกลงมา
ฉันจะตัดหัวของเธอออกด้วยขากรรไกร
เป็นเพลงที่จะสนุกสนานดีมั้ยล่ะเนี่ย ตอนแรกก็ชวนฝันอยู่หรอก แต่พอถึงตอนจบนี่สิ..น่ากลัวไม่ใช่เล่น
ที่ญี่ปุ่นนั้นเรื่องราวเกี่ยวกับฝนฟ้าอากาศยังมีอีกมากมาย…ได้รู้จักธรรมเนียมน่ารักๆ ในช่วงหน้าฝนของญี่ปุ่นกันแบบนี้แล้ว หากว่าพรุ่งนี้เป็นวันสำคัญ แล้วคุณกลัวฝนจะเทลงมา ก็ลองแฮนด์เมด แล้วแขวนตุ๊กตาไล่ฝนอธิษฐานกันดูก็ได้นะ คุณอาจจะได้เพื่อนใหม่เป็นตุ๊กตาไล่ฝนที่น่ารักๆ เหมือนอย่างเณรน้อยอิคคิวซังก็เป็นได้…
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://en.wikipedia.org/wiki/Teru_teru_bozu
http://teruterukun.cocolog-nifty.com/blog/2007/09/post_2096.html
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=Bdpl3ti70UU#