ขบวนการห้าสี ยอมรับเลยว่าหรูอี้เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะความชอบส่วนตัวล้วนๆ เลย เพราะตั้งแต่เด็กก็ชอบดูการ์ตูน ก็เหมือนเด็กยุค 90 ทั่วไป ยุคที่การ์ตูนญี่ปุ่นมีการพัฒนาจากยุคเก่ามาสู่ความทันสมัย
ยอมรับเลยว่าหรูอี้เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะความชอบส่วนตัวล้วนๆ เลย เพราะตั้งแต่เด็กก็ชอบดูการ์ตูน ก็เหมือนเด็กยุค 90 ทั่วไป ยุคที่การ์ตูนญี่ปุ่นมีการพัฒนาจากยุคเก่ามาสู่ความทันสมัย ยุคที่อนิเมะเริ่มเข้ามามีบทบาทพอกับมังงะแน่นอนว่าขบวนการห้าสีคือหนึ่งในการ์ตูนยุคเก่าที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับความทันสมัยในสมัยนั้น
โทรทัศน์จึงเป็นสื่อหลักที่นำเสนอการ์ตูนเหล่านี้ ยิ่งในยุค 90 ซึ่งแทบทุกครัวเรือนที่มีโทรทัศน์ย่อมต้องเป็นโทรทัศน์สีแล้ว ความสดใสของการ์ตูนก็ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านทางจอโทรทัศน์นั้นด้วยอย่างปฏิเสธไม่ได้
“สี” เป็นสิ่งที่ส่งอิทธิพลต่ออารมณ์ ความรู้สึก ความคิดของผู้ที่มองเห็น โทรทัศน์สีที่ฉายการ์ตูนจึงมีอิทธิพลมากมายต่อเด็กๆ ที่ได้รับชม ขบวนการห้าสีจึงเป็นที่สะดุดทุกครั้งที่ปรากฏตัว แต่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย การ์ตูนญี่ปุ่นก็ยังคงให้ตัวสีแดงเป็นพระเอกของเรื่องมาโดยตลอด
การเลือกสีแดงมาเป็นพระเอกของเรื่อง ไม่ใช่เพียงเพราะว่าสีแดงเป็นแม่สีหรือว่าง่ายต่อการสร้างผลงานออกมาเป็นหนังสือหรือการ์ตูนที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ เพราะตามหลักการทางศิลปะแล้ว สีแดงเป็นสีโทนร้อน ให้ความรู้สึกหึกเหิม ปลุกใจ สนุกสนาน ที่สำคัญสีแดงยังเป็นสีที่ใครเห็นก็สะดุดตา เด็กๆ ที่เห็นก็จำได้ง่าย เมื่อเห็นสีแดงก็รู้ทันทีว่าพระเอกมาแล้ว
เหล่าพระเอกในชุดสีแดงของขบวนการห้าสีนับแต่อดีตจนปัจจุบัน
นอกจากสีแดงที่เป็นพระเอกแล้ว ยังมีสีเหลืองและสีน้ำเงินที่เป็นผู้ช่วยตามมาด้วย สามสีหลัก แดง เหลือง น้ำเงิน จึงมักถูกจับมาตั้งเป็นทีมของการ์ตูนหลายเรื่อง และจากสามคนก็พัฒนาเป็นห้าคนหรือเจ็ดคนก็มีไม่น้อย ทำให้เกิดสีสันมากขึ้น และตัวละครก็มักจะมีอารมณ์และพฤติกรรมที่สอดคล้องกับสีนั้นๆ ด้วย
จำนวนสมาชิกสามคนดูเหมือนจะน้อยไปสำหรับการจะเล่าเรื่องราวของการ์ตูนสมัยก่อน ที่มักจะเล่ายาวถึงสี่สิบห้าสิบตอน ส่วนจำนวนสมาชิกเจ็ดคนก็ดูจะมากเกินไปและยากต่อการจดจำของคนดู จำนวนห้าคนจึงดูจะพอเหมาะพอดีสำหรับผู้ส่งสาร (นักเขียน) และผู้รับสาร (ผู้ชม)
Choujuu Sentai Liveman ขบวนการที่เริ่มต้นด้วยสามสี แดง เหลือง น้ำเงิน และในช่วงท้ายมีการเพิ่มสีเขียวและสีดำลงไป ทำให้ครบแบบฉบับขบวนการห้าสี
ขบวนการห้าสีของญี่ปุ่นจึงถือกำเนิดขึ้นและเป็นที่นิยม เนื่องจากผ่านการคิดวิเคราะห์และเปรียบเทียบกับตัวอย่างที่ผ่านๆ มา แต่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ขบวนการ ตัวสีแดงก็ยังคงเป็นพระเอกอยู่ร่ำไป กลายเป็นสัญลักษณ์ของขบวนการห้าสีไปโดยปริยาย
นอกจากความหมายของสีในทางศิลปะแล้ว ยังมีการวิเคราะห์กันด้วยว่า ที่นักเขียนชาวญี่ปุ่นเลือกใช้สีแดงให้กับตัวพระเอก เพราะนำมาจากสีแดงตรงกึ่งกลางธงชาติที่เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ ซึ่งชาวญี่ปุ่นเองก็เชื่อว่าพวกตนสืบเชื้อสายมาจากดวงอาทิตย์เช่นกัน
แนวคิดนี้เห็นได้ชัดจากพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิองค์ล่าสุด ที่จะต้องไปทำพิธีสักการะเทพีอามาเทราสึหรือเทพีแห่งดวงอาทิตย์ที่เชื่อว่าเป็นบรรพบุรุษของราชวงศ์
Battle Fever J ขบวนการที่ตั้งขึ้นโดยใช้สีของธงชาติแต่ละชาติ มีประเทศญี่ปุ่นเป็นพระเอก
ความเป็นทายาทแห่งดวงอาทิตย์ จึงถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวญี่ปุ่น การใช้สีแดงกับตัวพระเอก ก็เหมือนการที่ชาวญี่ปุ่นได้เป็นผู้นำในขบวนการต่างๆ ในบางเรื่องเราอาจจะเห็นได้ว่า ตัวละครในทีมมาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกแต่ตัวพระเอกสีแดงจะต้องเป็นคนญี่ปุ่นเท่านั้น
ขบวนการห้าสีในการ์ตูนญี่ปุ่นจึงเป็นเสมือนโลกสมมติที่ชาวญี่ปุ่นต้องการสร้างขึ้นเพื่อให้ชาวโลกได้มองเห็นความสำคัญของประเทศญี่ปุ่น ที่พร้อมจะเป็นผู้นำนำพาโลกไปสู่ความเจริญทั้งทางวัตถุและจิตวิญญาณ โดยใช้สีอื่นๆ เป็นตัวแทนจากที่ต่างๆ และแทนประเทศญี่ปุ่นด้วยตัวพระเอกสีแดงนั่นเอง
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– โออิรัน โสเภณีแบบญี่ปุ่น
– เค็มและดี
– หมากล้อมหมากรบ
– วันเด็กผู้หญิง
– เหมยโรยรา ซากุระเบ่งบาน
ขอบคุณภาพประกอบจาก:
– https://www.pinterest.com/pin/541628292660687819/
– https://www.metalbridges.com/wp-content/uploads/2016/04/sentai-15.jpg
– https://www.metalbridges.com/wp-content/uploads/2016/04/sentai-8.jpg
#ขบวนการห้าสี