บริการดีๆ เมื่อช้อปปิ้งที่ญี่ปุ่น…ด้วยความที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่จิตวิญญาณการบริการสูงมาก ร้านค้าญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีบริการดี ๆ ละเอียดลออเป็นอย่างยิ่ง คงเป็นเรื่องน่าเสียดาย ถ้าพวกเราชาวไทยไม่ทราบ เพราะฉะนั้น Japan Gossip ฉบับนี้ เกตุวดีขอนำบริการดี ๆ (ฟรี ๆ) ของญี่ปุ่นมาเล่าให้ทุกท่านฟังค่ะ
หลายท่านชอบไปญี่ปุ่นบ่อยๆ เพราะสนุกสนานกับการช้อปปิ้งเหลือเกิน ด้วยความที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่จิตวิญญาณการบริการสูงมาก ร้านค้าญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีบริการดี ๆ ละเอียดลออเป็นอย่างยิ่ง
คงเป็นเรื่องน่าเสียดาย ถ้าพวกเราชาวไทยไม่ทราบ เพราะฉะนั้น Japan Gossip ฉบับนี้ เกตุวดีขอนำบริการดี ๆ (ฟรี ๆ) ของญี่ปุ่นมาเล่าให้ทุกท่านฟังค่ะ
1. เมื่อซื้อขนม
ไม่ต้องห่วงว่า คุณจะซื้อขนมโมจิชิ้นเล็ก ๆ หรือผลไม้เพียงลูกเดียว พนักงานญี่ปุ่นจะไม่ด่าว่าหรือชักสีหน้าใส่คุณแม้แต่น้อยในทางกลับกัน พวกเธอจะยิ้มแย้มแจ่มใส แถมยังโค้งคำนับขอบคุณเราซ้ำแล้วซ้ำอีก (จนเรารู้สึกผิดไปเอง… 555)
ดิฉันเคยซื้อขนมโมจิ แม้เพียงชิ้นเดียว น้องพนักงานก็บรรจงใส่ถุงกระดาษ ปิดด้วยสติกเกอร์ให้เรียบร้อย ถ้าท่านไม่ต้องการบริการเช่นนี้หรือเกรงใจ ก็บอกว่าจะทานเลยก็ได้ค่ะ
ถ้าเป็นกรณีซื้อขนมเค้ก ไม่ว่าจะซื้อชิ้นเดียวหรือหลายชิ้น ทางร้านขนมจะให้น้ำแข็งแห้งฟรีด้วย หน้าตาน้ำแข็งแห้งญี่ปุ่นจะอยู่ในซองพลาสติกเล็ก ๆ เท่าครึ่งฝ่ามือ ข้างในเหมือนเป็นเจล ตอนซื้อเค้กพนักงานจะถามว่า “ใช้เวลาเดินทางเท่าไร” ถ้าน้อยกว่า 1 ชั่วโมง เขาอาจให้น้ำแข็งแห้ง 1 ถุงเล็ก แต่ถ้าบอกเกิน 1 ชั่วโมง เขาจะให้ 2 ถุงค่ะ (ส่วนหน้าร้อนจะให้ประมาณ 2 ถุงอยู่แล้ว)
บ้านดิฉันจะชอบเก็บถุงน้ำแข็งแห้งเหล่านี้มาก ๆ พอใช้เสร็จ เราก็เก็บใส่กล่อง หรือมีติดช่องฟรีซไว้ เวลาไปที่ไหนและต้องแช่ของเย็น เช่น ไปต่างจังหวัดแล้วจะซื้อกับข้าวหรือผลไม้กลับบ้าน เราก็จะเทน้ำแข็งแห้งเหล่านี้เตรียมไว้ในกล่องโฟม สะดวดกดีค่ะ
อีกกรณีที่ดิฉันจะใช้ถุงฟรีซเหล่านี้ คือ ใช้แทนที่ประคบเย็น เวลาเดินชนโต๊ะตู้เตียงแล้วแผลจะช้ำ ดิฉันก็จะรีบเปิดช่องฟรีซเอาน้ำแข็งแห้งเหล่านี้มาประคบค่ะ
2. เมื่อซื้อของจุกจิก
คนญี่ปุ่นจะมีบริการห่อแบบอลังการฟรี ๆ ไม่ว่าจะซื้อของอะไรก็ตาม เช่น ตุ้มหู สร้อยคอ ตุ๊กตา หนังสือผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว พนักงานญี่ปุ่นจะถามว่าใช้เองหรือเปล่า หรือจะให้ห่อของขวัญ ถ้าเรารักษ์โลกซื้อใช้เอง เขาก็จะนำสินค้าใส่ถุงกระดาษหรือถุงพลาสติกของร้านธรรมดา แต่ถ้าบอกให้ห่อของขวัญ เขาจะมีถุงพิเศษเตรียมให้ หรืออย่างน้อยสุด คือ มีริบบิ้นน่ารัก ๆ แปะให้ ก่อนใส่ซองกระดาษสวย ๆ ให้เรา
ท่านใดจะซื้อของที่ญี่ปุ่นเป็นของฝากหรือของขวัญ สามารถสอบถามทางพนักงานได้นะคะ (จริง ๆ เวลาซื้อของทุกครั้ง เขาจะถามเราอยู่แล้ว แต่เราอาจฟังไม่ออกกัน) เวลาบอกก็บอกว่า “พุ-เระ-เซน-โตะ (Present) โอเนงายชิมัส” พนักงานน่าจะเข้าใจ และรีบเอาสีกระดาษกับริบบิ้นมาให้เราเลือกค่ะ ^^
3. เมื่อซื้อรองเท้า
บริการหน่ึงที่เราจะได้รับ คือ ถุงเท้าฟรีค่ะ ถ้าท่านไปซื้อรองเท้าช่วงอากาศเย็นๆ ที่เราต้องใส่ถุงเท้าอยู่แล้ว ก็ไม่เป็นปัญหา แต่อย่างช่วงหน้าร้อนที่พวกเราชินกับการสวมรองเท้าแตะหรือไม่ใส่ถุงเท้า พอจะไปซื้อรองเท้า บางทีเราไม่รู้ว่าเราควรซื้อรองเท้าที่ขนาดเล็กหรือใหญ่กว่านี้ เพื่อใส่ตอนเวลาปกติที่เราใส่ถุงเท้า
ทางร้านรองเท้าญี่ปุ่น (บางร้าน) จะบริการดีมาก มีถุงเท้าที่คล้าย ๆ ถุงน่องบา งๆ ให้เราสวมก่อน เพื่อดูว่ารองเท้าใส่แล้วเสียดสีไหม เวลาปกติเราใส่ถุงเท้าอย่างไร รองเท้าจะหลวมหรือคับไปหรือเปล่า เมื่อลองเสร็จไม่ว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อรองเท้าที่ร้าน เขาก็จะให้เจ้าถุงน่องสั้น ๆ คู่นี้มาเลยค่ะ
4. เมื่อซื้อของฝาก
เราสามารถขอถุงใส่สินค้าเพิ่มได้ เช่น ถ้าซื้อขนมที่สนามบิน 4 กล่อง ก็ขอถุงเขา 4 ใบได้ ส่วนใหญ่ร้านค้าจะเต็มใจให้ค่ะ แทบไม่ปฏิเสธเลย แถมโดยมากจะใส่ให้อยู่แล้วโดยที่เราไม่ต้องเอ่ยปากขอด้วย ท่านใดอยากได้ถุงเพิ่มเพื่อนำไปใส่ของแจกเพื่อน ๆ ได้อย่างพอดี สามารถขอถุงทางร้านได้เลยค่ะ
5. เมื่อคืน VAT
อันนี้เป็นขั้นตอนที่ดิฉันรักที่สุดในญี่ปุ่น รู้สึกว่าญี่ปุ่นทำบริการตรงนี้ได้ดีกว่าประเทศอื่นมาก ๆ
ปกติเวลาไปต่างประเทศแล้วซื้อสินค้ามากในระดับหนึ่ง เราต้องนำใบขอคืน VAT ไปที่สนามบิน พร้อมแบกของพะรุงพะรังไปเผื่อฝ่ายศุลกากรเรียกดู แต่ที่ญี่ปุ่นจากประสบการณ์ ถ้าไม่ได้ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมอะไรมากมายก่ายกอง เขาแทบไม่ตรวจเลย เพราะด่านที่ต้องยื่นใบคืน VAT นี้ จะอยู่หลังกองตรวจคนเข้าเมือง พูดง่าย ๆ คือ ไม่เช็คสินค้าอะไรหรอก กระเป๋าใบใหญ่ก็โหลดไปแล้ว
ที่สำคัญ คือเราไม่ต้องไปต่อคิวยาว ๆ เพื่อรับ VAT คืน ร้านค้าแต่ละร้านจะหักจากราคาสินค้าให้เลย สิ่งที่เราต้องทำก็มีแค่ยื่นพาสปอร์ตเก๋ ๆ ไปเท่านั้น ร้านค้าญี่ปุ่นใหญ่ ๆ ส่วนมากมักมีบริการคืน VAT เช่นนี้อยู่แล้ว อย่างร้าน MUJI Uniqlo Daiso ร้านขายยาและเครื่องสำอางค์ทั้งหลายทั้งปวง ถ้าเป็นห้างสรรพสินค้า ที่เราอาจช้อปเสื้อผ้า ขนม อาหาร เขาก็ตั้งเคาน์เตอร์ VAT Refund ไว้เลยในห้าง เราสามารถรวมยอดใบเสร็จทั้งหมด ไปทำเรื่องคืน VAT ที่เคาน์เตอร์ได้
ตราบใดเท่าที่เราซื้อของบริโภค เช่น ขนม ยา เครื่องสำอาง ฯลฯ เกิน 5,000 เยน และซื้อของอุปโภค เช่น เสื้อผ้า เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า เกิน 10.000 เยน ก็ลดไปเลย VAT 8% จ้า
ซื้อง่าย คืน VAT ง่าย จ่ายคล่องจริงๆ
ท่านใดค้นพบสุดยอดบริการดีๆ อีก อย่าลืมมาแบ่งปันกันนะคะ
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> เกตุวดี Marumura
อ่าน Japan Gossip ทั้งหมด CLICK HERE
เรื่องแนะนำ :
– นิสัยดี ๆ ที่ได้จากการไปอยู่ญี่ปุ่น
– ร้าน 100 เยนญี่ปุ่นแต่ละเจ้า ต่างกันอย่างไร
– ใส่ยูกาตะในโรงแรมอย่างไรให้ดูญี่ปุ๊นญี่ปุ่น
– วินาทีที่ “ฉันเป็นคนไทย” by คนญี่ปุ่น
– มารยาทน่ารัก ๆ ของคนญี่ปุ่น (ที่อยากให้สังเกต)