ผมเคยมาที่สวน “บังปะคุโคเอน” เฝ้าดูซากุระที่ผลิบาน ท้องฟ้าสีฟ้า แสงอาทิตย์ส่องจ้า บวกอากาศที่กำลังเย็นสบายที่ 20 กว่าองศา ทำให้วันนั้นเป็นวันที่เหมาะแก่การชมซากุระเลยทีเดียว ผู้คนต่างพากันมาปูเสื่อ แน่นอนว่าเขาไม่ได้มารอเผือก พวกเขามาชมซากุระกันทั้งนั้น
เล่าโดย : วสุ มารุมุระ
สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำสถานที่ชมซากุระแห่งหนึ่งในโอซาก้า
สถานที่นี้คือ สวน Expo ครับ ชื่อเต็มๆ มีชื่อว่า สวน “บังปะคุคิเนนโคเอน” หรือสวน “บังปะคุโคเอน” (万博記念公園 : Expo Commemoration Park) ซึ่งสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่จัดงาน Expo นานาชาติในปีค.ศ. 1970 หลังจากที่งาน Expo สิ้นสุดลง สิ่งก่อสร้างต่างๆ ก็ถูกรื้อถอน ก่อให้เกิดพื้นที่ว่างจนมีการปลูกต้นซากุระลงไปทดแทน
ปัจจุบันนี้ สวน “บังปะคุโคเอน” ถูกรับเลือกเป็น 1 ใน 100 สถานที่ชมซากุระของญี่ปุ่น
สวนแห่งนี้สามารถเดินทางไปได้โดยนั่งรถไฟ Hankyu จากสถานี Umeda (梅田) ไปลงที่สถานี Hotarugaike (蛍池) แล้วต่อรถโมโนเรลไปลง สถานี Banpaku kinenkouen eki (万博記念公園駅)
คุณสามารถชมซากุระบานได้ที่สวนนี้ก็ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนครับ
+++++
ผมเคยมาที่สวน “บังปะคุโคเอน” เฝ้าดูซากุระที่ผลิบาน ท้องฟ้าสีฟ้า แสงอาทิตย์ส่องจ้า บวกอากาศที่กำลังเย็นสบายที่ 20 กว่าองศา ทำให้วันนั้นเป็นวันที่เหมาะแก่การชมซากุระเลยทีเดียว
ผู้คนต่างพากันมาปูเสื่อ แน่นอนว่าเขาไม่ได้มารอเผือก พวกเขามาชมซากุระกันทั้งนั้น
หลายๆ คนมาจองที่แต่เช้า
ถ้าเป็นกลุ่มชมรมจากมหาวิทยาลัย คนเป็นรุ่นน้องเด็กสุดก็ต้องมาจองก่อน ถ้ามาจากบริษัท คนที่เป็นเด็กใหม่เพิ่งเข้าก็จะต้องมาจองก่อน สำหรับเพื่อนนักเรียนคนไทยที่มาศึกษาต่อที่ญี่ปุ่นนั้น คนที่มาจองที่ก่อนก็คือคนที่เสียสละมาเร็ว จะเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นน้องก็ไม่เกี่ยง
เมื่อเพื่อนร่วมวงชมซากุระมากันครบ อาหารเหล้ายาปลาปิ้งมีพร้อมก็ถึงเวลาสนุกกันแล้ว
บ้างก็นอนบนเสื่อ มองท้องฟ้า ชื่นชมกับความสวยงามของซากุระ
บ้างก็สนุกสนานครื้นเครงกับบทสนทนาและวงไพ่ โดยเอาซากุระเป็นฉากหลัง
บ้างก็อาจจะสนุกสนานกับสุราและอาหาร โดยเอาซากุระเป็นเรื่องรอง
สำหรับพวกผมแล้วที่เป็นนักเรียนไทย ต่างสนุกสนานกับการถ่ายรูปกับซากุระ สมัยนั้นยังไม่มีสมาร์ทโฟน ไม่มีการเซลฟี่ ยังมีแต่กล้องฟิล์มที่ทุกคนต่างผลัดกันถ่ายรูปให้กันเพื่อจะเอาฟิล์มไปล้าง แล้วส่งรูปเรากับซากุระไปให้คนที่เมืองไทยได้ชื่นชมกัน
หลายๆ คนก็เอร็ดอร่อยกับเบนโตะไก่ทอดคาราเกะของดังในกลุ่มเด็กนักเรียนไทยแถวฮันได ซุยตะแคมปัส ย่านโอะโนะฮาร่า ที่กล่องหนึ่งแค่ 500 เยน แต่ให้ไก่เยอะมาก จนแทบกินกันไม่หมด
ซากุระที่เห็นเป็นการเริ่มต้นใหม่ของพวกเรานักเรียนไทยที่เพิ่งไปศึกษาต่อที่ญี่ปุ่น สำหรับรุ่นพี่คนไทยที่อยู่มาก่อนแล้ว พวกเขาก็จะรู้สึกว่าเขาใช้ชีวิตในญี่ปุ่นผ่านมาอีก 1 ปีแล้ว และได้เห็นรุ่นน้องคนใหม่มาอยู่ที่ญี่ปุ่น
+++
สวนบังปะคุคิเนนโคเอนนั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจัดงาน Expo ในปี 1970 ซึ่งธีมของงาน Expo ในปีนั้นคือ
Progress and Harmony for Mankind
“ความก้าวหน้าและความสามัคคีของมวลมนุษย์”
ธีมในงาน Expo ครั้งนั้นต้องการจะสื่อว่าแม้มนุษย์เคยแตกแยกกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่พวกเราจะหันมาจับมือกันและจะพัฒนาสังคมมนุษย์ให้มีความก้าวหน้า สร้างอารยธรรมที่รุ่งเรืองให้คนรุ่นหลังต่อๆ ไป
ผ่านมา 40 กว่าปีแล้วเป็นไงบ้างครับ ซากุระที่สวนบังปะคุคิเนนโคเอนยังคงผลิบานทุกปี คนทุกรุ่นไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่พากันมาชมซากุระ รับพลังเพื่อการเริ่มต้นใหม่ในแต่ล่ะปี
หากใครไปเที่ยวโอซาก้าในช่วงซากุระบาน หาโอกาสไปแวะสวน “บังปะคุคิเนนโคเอน” ดูนะครับ แล้วคุณจะรู้สึกถึงบรรยากาศรื่นเริงที่สวน Expo เหมือนว่าเวลาได้หยุดอยู่ตรงนั้นมาแล้ว 40 ปี
เล่าโดย : วสุ มารุมุระ
ทักทายพูดคุยกับ Wasu ได้ที่ >>> Facebook Wasu’s thought on Japan
เรื่องแนะนำ :
– สยามเมืองยิ้ม : [โฮะโฮะเอะมิโนะคุนิ] 微笑みの国
– คนญี่ปุ่นแอบคิดลึกๆ ว่า คำว่าการ์ตูน “มังงะ” นั้นไม่ดี
– สำเนียงคันไซตอนที่ 3 ไมโดะ [毎度]
– สำเนียงคันไซ ตอนที่ 2 : อาโฮ่ (โปรดอ่านก่อนใช้)
– สำเนียงคันไซ ตอนที่ 1
– พฤติกรรมการเสพดนตรีสากลของชาวญี่ปุ่น
ขอบคุณภาพจาก : http://blogs.yahoo.co.jp/pomme3939/28582337.html