สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานปลาดิบ คงจะเคยลองซูชิหน้า Maguro กันใช่ไหมค่ะ คนญี่ปุ่นก็นิยมนำปลา Maguro มากินในรูปแบบปลาดิบมากที่สุด
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานปลาดิบ คงจะเคยลิ้มลองซูชิหน้า Maguro หรือปลาทูน่า กันใช่ไหมค่ะ ด้วยเนื้อสัมผัสที่เกือบจะเป็นเนื้อวัว แต่ให้รสชาติหวานชุ่มฉ่ำในแบบของเนื้อปลา ทำให้คนญี่ปุ่นนิยมนำปลา Maguro มากินในรูปแบบปลาดิบมากที่สุด
และสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานปลาดิบ ก็คงจะรู้จัก ซูชิหน้าโอโทโร่ Otoro(大とろ)ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นราชันย์แห่งซูชิกันแล้ว บางคนอาจจะเคยได้ลิ้มลองแล้ว แต่ไม่บ่อยนัก หรือบางคนอาจจะได้แค่อยากลิ้มลอง เพราะว่าราคาของมันนั้นแพงมาก แต่คุณรู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้ว Otoro นั้นเป็นชิ้นปลาที่ได้มาจากปลา Maguro เช่นเดียวกัน ต่างกันตรงปริมาณของไขมันที่แทรกตัวอยู่ในชิ้นปลาที่ทำให้รสชาติ และราคาของมันนั้นแตกต่างกันอย่างลิบลับ
Maguro ที่เราเห็นและรับประทานโดยส่วนใหญ่นั้นจะเป็นเนื้อแดงส่วนที่เรียกว่า Akami (赤身) ซึ่งเป็นเนื้อส่วนกลางลำตัว มีสีแดง ไม่มีไขมัน เป็นส่วนที่มีจำนวนมากที่สุดและหาได้ง่าย ราคาถูก เมื่อเราสั่งซูชิหน้า Maguro เขาก็จะเสิร์ฟชิ้นปลาในส่วนของ Akami ให้เรานั่นเอง
แต่สำหรับส่วนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเนื้อที่อร่อยที่สุดของทูน่า คือเนื้อส่วนที่เรียกว่า Toro (とろ) แบ่งเป็น 2 ชนิดคือ Chu-Toro (中とろ) และ O-Toro (大とろ)
Chu-Toro(中とろ) คือ เนื้อส่วนที่อยู่ใกล้กับครีบของปลาทั้งด้านบนและท้องส่วนหลัง เนื้อส่วนนี้มีรสสัมผัสที่หวานนุ่มกว่า Akami เพราะมีไขมันคั่นสลับเนื้อปลาอยู่ตลอดทั้งชิ้น
O-Toro (大とろ) คือ เนื้อท้องส่วนหน้าจะเป็นเนื้อที่มีไขมันแทรกซึมอยู่แทบทุกอณูของเนื้อปลา จนกลายเป็นลายหินอ่อนสวยงาม เป็นส่วนที่มีน้อยที่สุดแต่ก็อร่อยที่สุดเช่นกันเพราะมันอุดมไปด้วยเนื้อนุ่ม ๆ และไขมัน ที่ให้ทั้งความหอม นุ่มลิ้นจนแทบละลายเมื่อเข้าไปอยู่ในปาก ทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง O-Toro จึงเป็นชิ้นส่วนที่แพงที่สุดในบรรดาชิ้นเนื้อทั้งหมดของ Maguro ด้วย
ขอบคุณข้อมูล : http://uomaru.co.jp/word/maguro_bui.html