วิธีการจัดการดูแลเครื่องราง (Omamori) .. วันนี้จะได้การตอบคำถามข้อสงสัยและวิธีการจัดการ ดูแลเครื่องรางและวิธีการทำลายเครื่องรางที่ไม่ใช้แล้วกันสักเล็กน้อย เพื่อนๆ จะได้เข้าใจกันนะคะ (^^)
ใครที่เคยมาญี่ปุ่นและเคยไปเที่ยวตามวัดหรือศาลเจ้า คิดว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก โอะมาโมริ (Omamori) หรือเครื่องรางของญี่ปุ่น เรามารู้จักเครื่องรางกันให้มาขึ้นกันเถอะ
เครื่องราง (โอะมาโมริ) ชนิดต่างๆ ทั้งเครื่องรางที่ช่วยปกป้องให้รอดพ้นจากภัยพิบัติต่างๆ เครื่องรางที่ช่วยคุ้มครองชีวิต ที่แต่ละวัดก็จะมีเครื่องรางแบบต่างๆ แตกต่างกันไป โดยจะมีข้อควรระวังในการบูชาเล่าเครื่องรางของขลังที่เชื่อกันว่าเป็นที่สิ่งสถิตของเทพเจ้าหรือของที่ประดับไว้เพื่อความเป็นสิริมงคลมีพลังงานสิงสถิตอยู่ ซึ่งในวันนี้จะได้การตอบคำถามข้อสงสัยต่างๆ และวิธีการจัดการ ดูแลเครื่องรางและวิธีการทำลายเครื่องรางที่ไม่ใช้แล้ว มาให้เพื่อนๆ ได้ทำความเข้าใจกันค่ะ
ข้อสงสัยที่ ① การที่พกเครื่องรางหลายๆอย่างพร้อมกัน จะดีเหรอ?
ผลของการพกเครื่องรางนั้นขึ้นอยู่กับจิตใจของคนที่พกว่าจะมีความเชื่อมากน้อยแค่ไหน ซึ่งว่ากันว่า ถึงแม้จะพกเครื่องรางที่มาจากต่างศาลเจ้าหรือต่างวัดก็ไม่ได้ส่งผลร้ายแก่ตัวผู้ที่พกแต่อย่างใด เนื่องจากเทพเจ้าที่มีระดับจิตใจที่สูงส่งจะไม่ทำการขัดขวางการคุ้มครองในส่วนของกันและกัน เพราะฉะนั้น สบายใจได้แล้วนะคะสำหรับใครที่ชอบพกเครื่องรางชนิดต่างๆหลากหลายชนิดและหลากหลายที่มา ว่าไม่มีปัญหาใดๆค่ะ
แต่ทว่า ก็จะมีบางนิกายในศาสนาพุทธที่ไม่สามารถที่จะใช้ของร่วมกันนิกายอื่นๆได้ เพราะฉะนั้นเวลาที่จะบูชาเครื่องรางที่วัดนั้น ควรที่จะถามจากผู้รู้ของทางวัดก่อนว่า เครื่องรางชนิดนี้สามารถพกร่วมกันเครื่องรางที่จากศาลเจ้าได้หรือไม่ ซึ่งในจุดนี้ควรที่จะตรวจสอบกันก่อนจะดีที่สุดค่ะ
ข้อสงสัยที่ ② การทำลายเครื่องรางที่ไม่ใช้แล้วนั้น ควรจะทำอย่างไร?
คิดว่ามีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับว่า หากเครื่องรางที่ได้บูชามานาน และเก่ามากแล้ว เกิดอยากที่ทำลายหรือเลิกใช้เครื่องรางนั้น จะต้องทำอย่างไร? ซึ่งหากที่ใครกำลังมีความคิดแบบนั้นอยู่ แนะนำให้นำไปที่วัดหรือศาลเจ้าใกล้ๆบ้านจะดีกว่าการพยายามทำลายด้วยที่บ้าน ที่วัดอาซากุสะนี้จะมีสถานที่สำหรับสะกดป้ายเครื่องราง ซึ่งชื่อที่ใช้เรียกสถานที่ที่รวบรวมป้ายเครื่องรางที่ไม่ใช้แล้ว ซึ่งทางด้านศาลเจ้าก็ได้มีกิจกรรมแบบเดียวกันคือมีการรับลงทะเบียนรับฝากเครื่องรางของขลังที่ทำกันตลอดทั้งปี หากในกรณีที่เป็นชาวต่างชาติ ก็สามารถที่จะส่งเครื่องรางหรือป้ายเครื่องรางที่เก่า ไม่ได้ใช้แล้วมาที่วัดหรือที่ศาลเจ้าได้ทางไปรษณีย์ค่ะ
แต่ว่า มีข้อควรระวังอยู่ข้อหนึ่ง นั้นก็คือ เครื่องรางที่บูชามาจากศาลเจ้าให้นำกลับไปที่ศาลเจ้า และหากบูชาเครื่องรางมาจากวัด ก็ให้นำเอากลับไปให้ที่วัดเป็นผู้จัดการให้ เครื่องรางนั้นจะพูดได้อีกอย่างนั้นก็คือเป็นตัวแทนของเทพเจ้า เพราะฉะนั้นเวลาจะทำการใดๆ ควรที่จะกระทำด้วยจิตใจที่สำรวมและรำลึกถึงพระคุณของเทพเจ้าด้วยค่ะ
ข้อสงสัยที่ ③ วิธีการนับเครื่องรางที่ถูกต้องหล่ะ?
ก่อนที่จะมาถึงตรงนี้ เราได้เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับวิธีการดูแลเครื่องรางกันแล้ว มาถึงตรงนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่อง วิธีการนับ เครื่องรางที่มีความพิเศษอยู่ ซึ่งเครื่องรางที่เราเก็บรักษากันอยู่นี้เรามีความเชื่อกันว่าเป็นส่วนหนึ่งของเทพเจ้า เพราะฉะนั้นจะไม่ใช่สรรพนามในการเรียกว่า Hitutsu, Futatsu (1 อัน 2 อัน) แต่จะใช้การนับแบบเดียวกับการนับพระพุทธรูป คือ Ittai,Nitai (1 องค์ 2 องค์)ค่ะ ซึ่งเวลาจะไปเช่า บูชาเครื่องรางที่บริเวณที่ขายเครื่องรางนั้น ให้บอกแต่ผู้ขายว่า ขอซึ้อเครื่องราง ○○องค์ หน่อยค่ะ
แต่สำหรับประเทศที่ไม่ได้มีวัฒนธรรมการนับที่ซับซ้อนเหมือนอย่างประเทศญี่ปุ่นนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องระวังเรื่องของการนับจำนวนมากก็ได้ค่ะ
ข้อสงสัยที่ ④ เราสามารถเปิดดูด้านในของเครื่องรางได้หรือไม่?
เครื่องรางนั้น มักจะใช้พกติดตัวไปไหนมาไหนด้วยเพื่อปกป้องภัยอันตราย เพราะฉะนั้น ถุงด้านนอกมักจะทำมาจากผ้าแพร่ ที่ด้านในจะใส่ กระดาษ แผ่นไม้ ผ้า หรือโลหะ ที่เป็นเครื่องรางเอาไว้ (บ้างก็จะเป็นตัวแทนเทพเจ้า บทสวด หรือว่า กระดาษขาว)อยู่ด้านใน และจะปิดบริเวณด้านบนถุงด้วยเชือก
เกร็ดความรู้นำมาจาก:โอะมาโมริ เน็ต
ถึงแม้เครื่องรางนี้จะใส่อยู่ในถุงคล้ายถุงใส่เหรียญเล็กๆ ชวนให้อยากที่จะทราบว่าข้างในมีอะไรอยู่ แต่ทว่า การเปิดดูเพื่อสำรวจว่าด้านในเครื่องรางมีอะไรอยู่นั้น เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าคนๆนั้นไม่มีความเชื่อในตัวเทพเจ้า ทำให้ การเปิดดูด้านในนั้นเป็นข้อห้ามที่ห้ามทำเด็ดขาด เนื่องจากความเชื่อในเรื่องราวของสิ่งที่มองไม่เห็นนั้น ผู้ที่ศรัทธาจะต้องมีจิตใจที่มีความศรัทธาอย่างลึกซึ้งนั้นเองค่ะ
เพื่อนๆ พอจะสามารถคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับเครื่องรางได้บ้างหรือยังคะ ? ที่ผ่านมามีข้อควรระวังต่างๆ เกี่ยวกับเครื่องรางต่างๆมากมาย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของการมีเครื่องรางนั้นก็คือการพกเครื่องรางให้เป็นกิจวัตรนิสัย นั่นเอง ซึ่งการพกเครื่องรางไม่ให้ห่างจากตัวนั้น จะทำให้เชื่อมั่นว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามเทพเจ้าก็จะช่วยคุ้มครอง ปกปักษ์รักษาเราให้แคล้วคลาดปลอดภัย และช่วยอุดหนุนชีวิตให้ดียิ่งขึ้นไปค่ะ
วัดอาซากุสะ (Sensoji) สถานที่สำหรับสะกดป้ายเครื่องราง
ที่อยู่ :Toukyoto taitouku asakusa 2-3-1
การเดินทาง :สามารถเดินจาก สถานี อาซากุสะ สายโทบุ สกายทรีไลน์ ประมาณ 5 นาที / โตเกียวเมโทร สายกินซ่า สถานีอาซากุสะ เดินต่อประมาณ 5 นาที / สึคุบะ เอ็กเพรส สถานีอาซากุสะ เดินต่อประมาณ 5 นาที / รถไฟใต้ดิน โทเออิ สายอาซากุสะ สถานีอาซากุสะ เดินออกประตูทางออกหมายเลข A4 เดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
เว็บไซต์ : http://www.senso-ji.jp/
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : MATCHA http://mcha-th.com
เรื่องแนะนำ :
– 7 สิ่งที่ควรทำเมื่อมาอุเอโนะ (Ueno)
– 10 แหล่งท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจากโตเกียว
– สัมผัสชีวิตชนบทแบบเกษตรกรและชาวประมงในโทคุชิมะ
– แนะนำตั๋วโดยสารสำหรับเที่ยวโตเกียวใน 1 วัน!
– เที่ยวชิโกกุและจูโกกุด้วยรถไฟตู้นอน Sunrise Seto และ Sunrise Izumo