วิธีใส่ชุดยูกาตะผู้ชาย ค่อนข้างง่ายเมื่อเทียบกับของผู้หญิง แถมยังมีอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมนิดเดียวเท่านั้นเอง นอกจากชุดยูกาตะและผ้าคาดเอวแล้วก็ต้องเตรียมแค่ผ้ารัดเอว เชือกผ้า 2 เส้น และผ้าขนหนูเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
การสวมชุดยูกาตะไปเที่ยวงานเทศกาลดอกไม้ไฟประจำฤดูร้อนของญี่ปุ่นกับคนรักนับเป็นความฝันของสาวๆ เลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้น หนุ่มๆ ก็ควรใส่ชุดยูกาตะให้เป็นเหมือนกันนะจ๊ะ!
ในครั้งนี้เราจะมาสอนวิธีการใส่ชุดยูกาตะอย่างมืออาชีพที่มือใหม่ก็สามารถทำตามได้อย่างง่ายดายกันค่ะ! เอาล่ะ ได้เวลาใส่ชุดยูกาตะและจูงมือสาวๆ ไปเที่ยวงานเทศกาลดอกไม้ไฟแล้วล่ะสิ…
อุปกรณ์ชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ช่วยในการใส่ชุดยูกาตะ
วิธีใส่ชุดยูกาตะผู้ชายค่อนข้างง่ายเมื่อเทียบกับของผู้หญิง แถมยังมีอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมนิดเดียวเท่านั้นเอง นอกจากชุดยูกาตะและผ้าคาดเอวแล้วก็ต้องเตรียมแค่ผ้ารัดเอว เชือกผ้า 2 เส้น และผ้าขนหนูเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เดี๋ยวเรามาอธิบายวิธีการใส่ชุดยูกาตะไปทีละขั้นตอนกันเลยดีกว่าเนอะ
และร้านที่ให้ความร่วมมือในการถ่ายภาพขั้นตอนการแต่งชุดยูกาตะกันในครั้งนี้ก็คือ อาซากุสะไอวะฟุคุ ที่นี่เป็นร้านยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวไต้หวัน เฉพาะในย่านอาซากุสะก็ปาไป 3 สาขาแล้ว
โดยในครั้งนี้เราได้แวะไปเยือนร้านที่ 1 กันซึ่งเป็นร้านที่เปิดเร็วที่สุด เย้~ ถึงเวลามาแต่งชุดยูกาตะของจริงกันแล้ว
ขั้นตอนการแต่งชุดยูกาตะ
1. เปลี่ยนเป็นเสื้อกล้ามหรือชุดชั้นในและพันท้องด้วยผ้าขนหนู
โดยพื้นฐานแล้วตอนที่ผู้ชายญี่ปุ่นใส่ชุดยูกาตะจะไม่ใส่ชุดชั้นในกัน แต่สำหรับใครที่ไม่มั่นใจก็ขอแนะนำให้สวมเสื้อกล้ามหรือเสื้อแขนกุดเอาไว้ข้างในจะดีกว่า
ในกรณีที่เป็นผู้หญิงใส่ชุดยูกาตะนั้น ภาพของชุดยูกาตะที่ราบเรียบไม่มีรอยโค้งเว้าจะดูดีที่สุด แต่สำหรับผู้ชายแล้วจำเป็นต้องมีเนื้อหนังตรงช่วงท้องบ้าง รูปร่างที่เหมือนมีหน้าท้องยื่นออกมาเล็กน้อยจึงสามารถใส่ชุดยูกาตะออกมาได้สวยงามกว่า
ดังนั้นผู้ชายที่มีรูปร่างผอมบางจึงควรใช้ผ้าขนหนูพันท้องให้หนาขึ้นเล็กน้อยและใช้เชือกผ้าเส้นที่ 1 รัดเอาไว้ให้มั่นคงเพื่อเป็นการสร้างหน้าท้องปลอมขึ้นมานั่นเอง
2. สวมชุดยูกาตะและปรับระดับความยาว
ความยาวที่เหมาะสมของชุดยูกาตะผู้ชาย เมื่อปล่อยให้ชุดยูกาตะห้อยลงมาตามธรรมชาติแล้วชายเสื้อจะอยู่ประมาณระดับเดียวกับข้อเท้า ดังนั้น ตอนที่สวมชุดยูกาตะจึงควรปรับความยาวให้ชายเสื้อตรงกับระดับข้อเท้าจะดูดีที่สุด
ในขั้นตอนนี้มีข้อควรระวังอยู่ด้วยล่ะค่ะ ขอให้เพื่อนๆ จำเอาไว้เลยว่าชายเสื้อด้านซ้ายจะอยู่ด้านบนเสมอนะจ๊ะ… ถ้าเกิดใส่ผิดด้านเป็นเอาชายเสื้อด้านขวาทับซ้ายจะกลายเป็นการใส่ชุดให้คนตายแทน จึงควรระวังเอาไว้ให้ดีด้วยเนอะ
3. จัดคอเสื้อและล็อคความยาวให้มั่นคง
เมื่อปรับระดับความยาวชายเสื้อเรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมจัดคอเสื้อให้ดีด้วย คอเสื้อของผู้ชายไม่ควรเปิดกว้างจนเกินไป ถ้าไม่อย่างนั้นเมื่อเวลาผ่านไป เสื้อผ้าก็จะย้อยและคอก็จะเปิดซึ่งทำให้ดูไม่เรียบร้อยเอามากๆ เมื่อจัดระเบียบทั้งหมดเสร็จแล้วก็ใช้เชือกผ้าเส้นที่ 2 มัดล็อคด้านบนกระดูกบั้นเอวเอาไว้ได้เลย
ต่อมาก็ใช้ผ้ารัดเอวพันทับลงบนเชือกผ้าเส้นที่ 2 เพื่อล็อคตำแหน่งของชุดยูกาตะให้มั่นคง
4. พันผ้าคาดเอว
วิธีการพันผ้าคาดเอวของผู้ชายไม่ได้มีเยอะเท่าของผู้หญิง โดยส่วนใหญ่แล้วจะเลือกวิธีการพันแบบ “ไคโนะคุจิ (ปากหอย)”
ผ้าคาดเอวของผู้ชายจะมีขนาดบางกว่าของผู้หญิง ก่อนอื่นให้พับผ้าคาดเอวเป็น 2 ส่วนแบบนี้และปรับระดับความยาวของผ้าคาดเอวให้ด้านขวาสั้น ด้านซ้ายยาว
เมื่อจับรอยพับของผ้าคาดเอวมาห้อยในระดับเอว ความยาวของผ้าฝั่งขวาจะอยู่ที่ประมาณหัวเข่า ต่อมาก็พับผ้าคาดเอวด้านขวาขึ้นไปครึ่งหนึ่งในแนวตั้ง
หลังจากนั้นให้นำรอยพับของผ้าคาดเอวมาทาบตรงกลางท้องและพันผ้าฝั่งซ้ายที่ยาวกว่าวนทวนเข็มนาฬิกา 2 รอบ โดยพันให้ซ้อนอยู่ด้านบนผ้าฝั่งที่สั้นกว่าแบบนี้
5. หมุนเงื่อนไปอยู่ด้านหลัง
ใช้มือทั้งสองข้างจับตรงกลางเงื่อนและผ้าคาดเอวหมุนไปด้านหลัง โดยให้เงื่อนอยู่ด้านข้างเล็กน้อย ไม่ใช่ตรงกลางพอดีเป๊ะ โดยสามารถจัดให้อยู่ด้านไหนก็ได้ตามความชอบ (ซ้าย-ขวา)
ตำแหน่งผ้าคาดเอวที่ถูกต้องของผู้ชายไม่ได้อยู่ตรงกลางเอว แต่จะอยู่ต่ำลงมานิดหน่อย หลังจากหมุนผ้าคาดเอวไปด้านหลังแล้วก็ใช้นิ้วโป้งของมือทั้งสองข้างสอดลงไปในช่องระหว่างผ้าคาดเอวและชุดยูกาตะ แล้วกดลงไปด้านล่าง แค่นี้ก็เสร็จแล้วล่ะค่ะ!
หนุ่มๆ คนไหนสามารถใส่ชุดยูกาตะเองได้ รับรองว่าเดทชุดยูกาตะจะต้องสนุกขึ้นอย่างแน่นอน
และรูปภาพทั้งหมดก็เป็นห้องเรียนใส่ชุดยูกาตะสำหรับผู้ชายในวันนี้นั่นเอง ถ้าเกิดใครลองใส่ชุดยูกาตะเองได้สำเร็จ รับรองว่าจะต้องรู้สึกว่าบรรลุเป้าหมายอะไรสักอย่างในชีวิตกันอย่างแน่นอน เนื่องจากการใส่ชุดยูกาตะเองด้วยตัวคนเดียวเป็นเรื่องยากพอสมควร ดังนั้น ใครที่ไม่มั่นใจก็สามารถเช่าชุดจากร้านเช่าชุดญี่ปุ่นหรือพกชุดยูกาตะตามสไตล์ที่ตัวเองชอบไปให้คุณครูใส่ให้ก็ได้นะจ๊ะ… ขอให้เพื่อนๆ สนุกกับการเดทกับสาวในงานเทศกาลดอกไม้ไฟประจำฤดูร้อนอันแสนคึกคักกันนะคะ! ^^
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : MATCHA http://mcha-th.com
เรื่องแนะนำ :
– Kyutaisha สถานีรถไฟที่ถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ก็ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวได้
– 6 เทศกาลหิมะยอดนิยมในญี่ปุ่น
– 5 ลานสกีญี่ปุ่นแบบไปกลับจากโตเกียวและเดินทางสะดวก
– เที่ยวฟุกุโอกะตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวยันวิธีเที่ยวร้านแผงลอยให้คุ้ม
– 5 ลานสกีสุดเจ๋งบนเกาะฮอกไกโด