ทันทีที่ภาพนี้เผยแพร่สู่สาธารณะก็เกิดกระแสขึ้นมามากมาย บ้างก็ว่าดี บ้างก็ว่าไม่ดี ทั้งนี้เพราะเธอมีแอนติแฟนอยู่เยอะพอสมควรเลยครับ ผมพอจะสรุปจุดเด่น – จุดด้อยของเธอออกมาได้ดังนี้
วงการมวยปล้ำญี่ปุ่นตอนนี้มีข่าวใหญ่อยู่ เรื่องหนึ่งนั่นก็คือการเซ็นสัญญาของนักมวยปล้ำญี่ปุ่นกับสมาคม WWE ซึ่งถือเป็นสมาคมมวยปล้ำอันดับหนึ่งของโลกครับ
โดยนักมวยปล้ำที่ได้รับโอกาสในครั้งนี้ก็คือ “คานะ” นักมวยปล้ำสาวที่ถือได้ว่าเป็นที่หนึ่งของวงการมวยปล้ำญี่ปุ่น ณ ปัจจุบัน ที่มีความโดดเด่นทั้งหน้าตา และทักษะมวยปล้ำ นี่คือข่าวใหญ่มากๆ ในวงการเลยครับ ทั้งนี้เพราะนักมวยปล้ำญี่ปุ่นที่ไปอเมริกานั้นมีน้อยมากในช่วงหลัง และยิ่งเป็นผู้หญิงยิ่งเป็นสิ่งที่ห่างหายไปนานหลายสิบปีเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นวันนี้ผมคิดว่าน่าจะมาเล่าเรื่องของนักมวยปล้ำหญิงคนนี้ให้ฟังกันครับ
จากภาพนั้นคานะคือคนซ้ายมือนะครับ นี่คือการเปิดตัวครั้งแรกอย่างไม่เป็นทางการของเธอในทีวีของ WWE เป็นการเซอร์ไพรส์โดยไม่ได้มีการประกาศล่วงหน้าใดๆ เลย ทันทีที่ภาพนี้เผยแพร่สู่สาธารณะก็เกิดกระแสขึ้นมามากมาย บ้างก็ว่าดี บ้างก็ว่าไม่ดี ทั้งนี้เพราะเธอมีแอนติแฟนอยู่เยอะพอสมควรเลยครับ ผมพอจะสรุปจุดเด่น – จุดด้อยของเธอออกมาได้ดังนี้
1. “คานะคือคนที่ใช้อินเตอร์เน็ทให้เป็นประโยชน์”
หากมองในความเป็นจริงแล้วญี่ปุ่นเป็นชาติที่ค่อนข้างชาตินิยมพอสมควรและไม่ค่อย จะติดต่อสื่อสารกับสื่อต่างประเทศมากนัก โดยเฉพาะนักมวยปล้ำที่ส่วนใหญ่อาจจะมีปัญหาเรื่องภาษา ก็ยิ่งตัดความสัมพันธ์กับแฟนๆ ต่างประเทศเข้าไปใหญ่ ตรงนี้เองที่เธอมองว่าเป็นโอกาสครับ ทวิตเตอร์ของเธอนั้นขึ้นชื่อเลยว่าถามอะไรไปเธอก็ตอบหมด และพอสนิทกับคนไหน เธอฟอลโลว์กลับและตอบคำถามทาง direct message อยู่เสมอ ตรงนี้ทำให้เธอเป็นกระแสในวงกว้างครับ ถามว่าเธอเก่งอย่างที่เห็นไหม บอกเลยว่าไม่ เธอโดนต่อว่าหลายๆ อย่างในการเป็นนักมวยปล้ำ ถึงขนาดโดนตบหน้าด่าในห้องแถลงข่าวมาแล้ว แต่ด้วยความที่เธอเป็นกระแส มีคลิปของตัวเองลงเน็ทบ่อยๆ ก็กลายเป็นคนมองเห็นแต่ด้านดีๆ (และแน่นอนเธอก็พัฒนาตัวเองอยู่ตลอด) ทำให้ภาพลักษณ์เธอดูส่งเสริมกันจนกระทั่งเธอมีแฟนๆ อยู่ทั่วโลก และถึงขั้นที่ว่าเรียกคนดูได้เต็มสนามในญี่ปุ่นทุกครั้งที่เธอขึ้นปล้ำเลย ล่ะครับ
2. “คานะมีคาร์แรกเตอร์ที่โดดเด่น”
มวยปล้ำนั้นสิ่งสำคัญคือคาร์แรกเตอร์ครับ ตรงนี้เองที่คานะทำได้ดีมากๆ นักมวยปล้ำญี่ปุ่นแน่นอนว่าสนใจในเรื่องของเลือดบูชิโด อะไรก็แล้วแต่ต้องดูจริงจัง เป็นกีฬาที่มีเกียรติยศ (หลังๆ นี้น้อยคนมากๆ ที่จะมีคาแรกเตอร์หลุดโลกไปเลย) แต่คานะนั้นหลังๆ เธอจะเอาสีมาทาหน้าเรื่อยเปื่อย เป็นตัวตลกบ้าง เป็นปิศาจบ้าง ฯลฯ แต่ละครั้งคนก็จะเอาไปแชร์กัน เรียกว่าเป็นวิธีการ viral ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในวงการมวยปล้ำญี่ปุ่นครับ (ส่วนหนึ่งเพราะเธอตัดสินใจออกจากสมาคมที่สังกัดมาเป็นฟรีแลนซ์ ทำให้เธอมีอำนาจตัดสินใจทุกอย่างด้วยตัวเธอเอง)
สองข้อด้านต้นคือ สาเหตุสำคัญที่ผมคิดว่าเธอโดดเด่นกว่าคนอื่น และในที่นี้เรามีบทสัมภาษณ์ของคานะซึ่งทางผมและทีมงานได้สัมภาษณ์เอาไว้ เมื่อประมาณสองปีก่อน อยากให้ลองอ่านกันครับ
อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณอยากเป็นนักมวยปล้ำ? คุณเริ่มมีความรู้สึกนี้ได้ยังไงครับ?
Kana : ฉันเป็นแฟนตัวยงของ เคย์จิ มูโต้ (The Great Muta) ค่ะ จากนั้นฉันก็เริ่มได้เห็นนักมวยปล้ำเก่งๆ อย่าง ซาโตรุ ซายามะ, โยชิอากิ ฟูจิวาระ, อันโตนิโอ อิโนกิ, อากิระ มาเอดะ, โนบูฮิโกะ ทาคาดะ, มาซาคัตสึ ฟูนากิ, โวล์ก ฮานส์ และมิโนรุ ซูซูกิ ที่ฉันอยากจะบอกพวกคุณที่สุดก็คือฉันไม่เคยเป็นแฟนของนักมวยปล้ำหญิงคนไหน เลย จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังคิดเหมือนเดิม ฉันอยากเป็นนักมวยปล้ำเพราะฉันอยากจะเป็นอย่างนักมวยปล้ำผู้ชายมากกว่านะคะ จริงๆ แล้วฉันทำงานเกี่ยวกับกราฟฟิคดีไซน์มาก่อน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินตามความฝันดีกว่า
คุณช่วยเล่าให้เราฟัง เกี่ยวกับบริษัทของคุณอย่าง KANA OFFICE (บริษัทที่เธอตั้งขึ้นมาเอง) หน่อยได้ไหม คุณหวังว่ามันจะประสบความสำเร็จขนาดไหนเหรอ?
Kana : จริงๆ แล้วที่ฉันทำบริษัทนี้ขึ้นมาก็เพราะว่าฉันอยากจะแสดงให้นักมวยปล้ำคนอื่นๆ เห็นนะคะว่าการทำธุรกิจกับการปล้ำมันไปด้วยกันได้ ต้องยอมรับว่าวงการกีฬาสมัยนี้ยังคงวนเวียนอยู่กับรูปแบบของสังคมนิยม มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก คนโกงกันอยู่ตลอด ดังนั้นฉันเลยอยากจะแยกตัวเองออกมาจากวงจรเหล่านั้น ซึ่งวิธีการที่ดีที่สุดก็คือฉันไปเป็นผู้บริหารบริษัทเสียเอง ฉันทำทุกๆ อย่างที่อยากจะทำในฐานะของ CEO บริษัท ซึ่งมันทำให้ฉันพอใจและรู้สึกว่าใช้ชีวิตคุ้มค่ามากเลยล่ะค่ะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าที่ของ CEO ในญี่ปุ่นเปิดโอกาสให้ฉันได้ทำการติดต่อธุรกิจกับหลากหลายบริษัทจากนานา ประเทศ ตอนนี้บริษัทของฉันกำลังก้าวหน้าไปมากเลย ยิ่งตอนนี้เราขยายเครือข่ายไปได้ในหลายๆ ที่ โดยทำธุรกิจหลายๆ ประเภท ไม่ว่าจะเป็นกราฟฟิคดีไซน์, ออกแบบเกมส์ ไปจนถึงร้านทำผมเลยล่ะ (ยิ้ม)
Kana Office มักจะบริจาคเงินให้การกุศลอยู่เสมอ คุณทำแบบนั้นไปทำไมครับ?
Kana : ฉันขอออกตัวก่อนนะว่าฉันไม่ได้เป็นดาราดังอะไรเลย แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันตั้งใจจะทำตลอดมาก็คือการช่วยเหลือคนอื่น ฉันหวังว่าเงินที่ฉันบริจาคไปจะทำให้คนบางคนหลุดพ้นจากความยากลำบาก และถึงแม้ฉันจะไม่สามารถช่วยเหลือผู้คนได้มากเท่ากับพวกคนดังระดับโลกที่มี เงินมากมาย แต่ฉันก็ยินดีที่จะช่วยให้มากที่สุดเท่าที่ฉันสามารถทำได้นะคะ แน่นอนฉันทำให้ทุกคนมีความสุขไม่ได้หรอก แต่มันก็ดีกว่าคนที่ไม่ทำอะไรเลย จริงไหมคะ?
อะไรคือสิ่งที่คุณชอบทำที่สุดเวลาที่ไม่ได้ขึ้นเวทีครับ?
Kana : ฉันขอตอบคำถามนี้เป็นสามส่วนนะคะ อย่างแรกเลยก็คือเกมส์! ฉันทำงานทางด้านเกมส์ก็เพราะว่าฉันชอบมันมากยังไงล่ะ! และไม่ใช่แค่เกมส์ของญี่ปุ่นนะ ฉันยังชอบเกมส์ของค่ายจากต่างประเทศด้วย ไม่ว่าจะเป็น UBI Soft, EPIC, EA และ Microsoft
อย่างที่สองก็คือ ภาพยนตร์ ฉันเป็นแฟนตัวยงของลีโอนาร์โด้ ดิคาปริโอ, คลินท์ อีสวู้ด, อากิระ คุโรซะวะ และอิมมามูระ โชเฮย์ ฉันดูหนังบ่อยมากๆ เลย แต่หลังๆ มานี่ฉันไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่นะที่หลังๆ หนังจากฮอลลีวูด เอาแต่ไปเน้นเรื่องของเอฟเฟค เรื่องของธุรกิจ ไม่ได้สนใจเลยว่าเนื้อหาของหนังมันจะอ่อนลงขนาดไหน แต่หนังของคลินท์ อีสวู้ด เป็นข้อยกเว้นนะ (หัวเราะ) เขาเจ๋งเสมอล่ะ แค่เห็นชื่อก็รับประกันได้เลยว่าหนังดีแน่ๆ (ยิ้ม) และนอกจากรายชื่อที่บอกไปแล้ว ฉันยังชอบอัล ปาชิโน่กับเดล โทโร่ ด้วย
อย่างที่สามก็คือเพลง ฉันชอบเพลงร็อคค่ะ ฉันฟังมันหมดเลยไม่ว่าจะเป็นวงจากอังกฤษหรืออเมริกา ฉันชอบ Guns’n’Roses, Aerosmith, Queen, Bon Jovi, Kansas, Mötley Crue, Van Halen, U2, Kiss, The Police (Sting), Eric Clapton … ยังมีอีกเยอะเลยล่ะค่ะ (หัวเราะ)
ตอนนี้เรากำลังสงสัยว่าคุณเปิดร้านทำผมจริงๆ เหรอ? แล้วไหนยังจะมีงานเขียนลงนิตยสารอีก คุณช่วยอธิบายรายละเอียดให้เราฟังหน่อยสิครับ
Kana : จริงสิคะ ร้านทำผมของฉันอยู่ที่โยโกฮาม่า ชื่อร้านว่า Another Heaven (http://ah-ah.jp) และฉันก็ทำงานเป็นคอลัมนิสต์เขียนบทความลงนิตยสารจริงๆ และตอนนี้ฉันขอบอกไว้เลยนะว่าเครื่องเกม Xbox มันมาแรงจริงๆ ฉันก็ว่ามันคุ้มที่สุดแล้วอะ ตอนนี้เวลาฉันว่างก็มักจะไปเล่น Xbox ซะส่วนใหญ่ ก็ประมาณ 80% ของเวลาทั้งหมดเลยล่ะค่ะ
แต่ฉันไม่ได้เป็น โปรดิวเซอร์ผลิตเกมส์นะคะ ฉันแค่ช่วยออกแบบกราฟฟิคเฉยๆ อย่างเช่นพวกกราฟฟิคเครื่อง Nintendo DS หรือพวกแอพพลิเคชั่นสำหรับโทรศัพท์มือถือ ฉันทำมาแล้วประมาณ 30 เกมส์นะ (ยิ้ม)
คุณลองยกตัวอย่างภาพยนตร์และเกมส์ ที่คุณชอบสักหน่อยได้ไหม?
Kana : ได้สิคะ เอาเรื่องภาพยนตร์ก่อนนะ ฉันเป็นแฟนของคุโรซาวะกับโชเฮย์ พวกเขาเก่งมาก ส่วนเรื่องที่ชอบก็มี Godfather, Gran Torino, Platoon, Dances with Wolves, Akira, Ghost in the Shell: Innocent โหย… อีกเยอะเลยล่ะค่ะ บอกไม่หมดหรอก (หัวเราะ) งั้นไปดูเรื่องเกมส์บ้างล่ะกัน ฉันชอบ Zelda, Donkey Kong, Blast Dozer, Metroid, Castlevania, the Call of Duty ทุกภาค, เกมส์ของค่าย Rockstar, Fallout 3 และก็… เยอะแยะอะ เอาเป็นว่าแนวประมาณนี้ล่ะค่ะ
เครื่องของคุณดูแปลกต่างจากคนอื่นมาก ทั้งชุดปล้ำและชุดสูทลำลอง คุณมีแนวคิดยังไงกับเรื่องเหล่านี้กันแน่?
Kana : มีคนถามฉันเรื่องนี้หลายคนเหมือนกันน่ะค่ะ จริงๆแล้วชุดของฉันเป็นการผสมผสานระหว่างความสวยงามกับลวดลายแบบนักสู้ ญี่ปุ่น (ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิกายเซ็น) ชุดของฉันจะต้องหรูหราที่สุด แต่ไปๆ มาๆ ฉันว่าฉันก็สงสารคนตัดชุดให้ฉันเหมือนกันนะ คือฉันรู้ตัวว่าค่อนข้างจะจู้จี้จุกจิกไง (หัวเราะ) คือแม้แต่เนื้อผ้าฉันยังไปหาซื้อเองเลย
ส่วนชุดสูทลำลองพวกนี้ฉันมี ยี่ห้อประจำก็คือ Ferragamo กับ BURBERRY นะ แต่ถ้าให้ยกตัวอย่างยี่ห้อที่ตรงกับสไตล์ของฉันที่สุดก็คือพวก Tommy Hilfiger, Lacoste ประมาณนี้ล่ะค่ะ
ใครคือคู่ต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของคุณครับ?
Kana : ก็คงจะเป็นประธานสมาคมสักแห่งในโลกนี้ล่ะค่ะ (หัวเราะ) จริงๆ ก็คือฉันยังไม่เจอคนไหนที่พอจะยอมรับได้ว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่ดีที่สุดของฉัน ก็หวังว่าฉันจะเจอสักคนเร็วๆ ในนี้นะ
Serena Deeb (อดีตนักมวยปล้ำของ WWE ชื่อดัง) เรียกคุณว่า “นักมวยปล้ำสมัครเล่น” คุณจะตอบโต้เธอหน่อยมั๊ย?
Kana : หลังจบแมตช์ของเราเธอจะเคารพฉัน ไม่ว่าเธอจะพูดมันออกมาหรือไม่ก็ตาม แต่เธอจะเคารพฉันแน่นอน จริงๆ แล้วฉันมั่นใจว่าเซเรน่าจะได้เรียนรู้อะไรอีกมากมายจากฉันนะคะ ถ้าไม่เชื่อก็รอดูด้วยตัวเองล่ะกัน พวกคุณจะได้เห็นแน่นอน
ช่วงที่ผ่านมาคุณมีแฟนเพิ่มมากขึ้นจากทั่วโลก (#TeamKana) นักมวยปล้ำอเมริกาหลายคนก็เคารพคุณ มันทำให้คุณรู้สึกยังไงบ้างครับ?
Kana : มันทำให้ฉันคิดว่าคงจะถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องไปต่างประเทศ บางทีมันอาจจะเป็นปีนี้หรือปีหน้าก็ได้ค่ะ ฉันคิดว่าคนอเมริกันคงสัมผัสตัวตนของฉันได้ไม่ยากนะ เพราะฉันเองก็ชอบวัฒนธรรมของต่างประเทศอยู่แล้ว (ยิ้ม) ฉันชอบ The Simpson กับ Austin Powers มากเลยล่ะค่ะ ตอนนี้ Box Set เรื่อง The Simpson ยังกองอยู่ที่ออฟฟิศของฉันเลย
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพของคุณคือตอนไหนครับ?
Kana : เป็นคำถามที่ตอบยากนะ มันเหมือนเวลาคุณกินอาหาร ความชอบของคุณมันก็เปลี่ยนไปทุกวันจริงไหมล่ะ
ถ้าอย่างนั้นอะไรคือเป้าหมายของคุณในวงการมวยปล้ำและนอกวงการมวยปล้ำครับ?
Kana : สำหรับฉันแล้วชีวิตประจำวันของฉันมันเกือบจะเป็นหนึ่งเดียวกับมวยปล้ำแล้ว ล่ะค่ะ ฉันไม่สามารถแยกมันออกจากกันได้ ดังนั้นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของฉันก็คือการดำเนินชีวิตโดยปราศจากความ เศร้าและประสบความสำเร็จในทุกสิ่งอย่างมีความสุข
สุดท้ายนี้มีอะไรจากฝากกับแฟนๆของคุณทั่วโลกไหมครับ?
Kana : จับตาดูฉันเอาไว้ให้ดีนะคะ !
ขอบคุณสำหรับการให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้มากนะครับ ขอให้คุณโชคดี
Kana : ขอบคุณเช่นกันค่ะ
หวังว่าบทสัมภาษณ์เหล่านี้จะทำให้แฟนๆมวยปล้ำญี่ปุ่นในไทย (?) รู้จักเธอมากขึ้น และจับตาดูเธอกันด้วยนะครับ ผมติดตามผลงานเธอคนนี้มานาน บอกได้เลยว่าหากเธอทำได้อย่างในญี่ปุ่นล่ะก็ วงการมวยปล้ำอเมริกาอาจจะเปลี่ยนไปเลยก็ได้ครับ !!!
พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ ^^