ในสมัยโบราณนั้นเขามีการวัดความคมของดาบญี่ปุ่นโดยใช้ “ศพ” ของคนมาวางซ้อนกันแล้วใช้ดาบฟันดู ถ้าฟันตรงที่อกแล้วหั่นได้หนึ่งอกของศพก็เรียกว่า “1 อก” หั่นได้สองอกก็เรียกว่า “2 อก”
ภาพของซามุไรที่ถือดาบเป็นอาวุธ เป็นภาพที่ติดตาของคนทั้งโลก ด้วยความน่าเกรงขามของซามุไร ความจงรักภักดีต่อเจ้านาย บวกกับเกียรติยศและศักดิ์ศรีของพวกเขาที่ไม่ให้ใครมาหยามไม่ได้ ได้ยกภาพให้อาวุธคู่กายของเหล่าซามุไรดูมีเสน่ห์
แม้ในหมู่คนญี่ปุ่นเองก็ตาม ในช่วงปีที่ผ่านมาคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ให้ความสนใจกับดาบญี่ปุ่น โดยเฉพาะสาว ๆ คนเหล่านี้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เพื่อชมดูดาบ ราวกับว่าชมงานศิลปะ ซึ่งกระแสความนิยมนั้นเกิดจากเกมที่ฮิตเกมออนไลน์หนึ่งในญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Toukenranbu (刀剣乱舞) ซึ่งตัวละครในเกมมีการใช้ดาบต่าง ๆ ทำให้คนที่เล่นเกมมีความสนใจในดาบมากขึ้น
ดาบญี่ปุ่นเหล่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไร เราจะมาว่ากันครับ
ดาบญี่ปุ่นเป็น “สิ่งประดิษฐ์” ที่มีมาตั้งแต่ 900 ปีที่แล้วตั้งแต่สมัยยุคเฮอัน (平安) โดยเป็นการพัฒนาการมาจากดาบตรง
ลักษณะเด่นของดาบญี่ปุ่นมีอยู่หลายจุด แต่หากสรุปภาพใหญ่ ๆ ก็คือ
1. ดาบจะโค้ง เพราะถูกปรับปรุงให้เหมาะสมกับการ “ฟัน” ( ดาบตรงจะเหมาะกับการ “แทง” )
2. ดาบญี่ปุ่นทำจากเหล็กสองชั้น เหล็กชั้นนอกมีความแข็งแกร่ง ส่วนเหล็กชั้นในจะมีความ “อ่อนนุ่มกว่า” ทำให้ดาบมีความคมที่จะฟันวัตถุขาดและมีเหล็กชั้นในจะรองรับแรงกระแทกทำให้ดาบหักยากขึ้น
3. ดาบญี่ปุ่นมีลวดลายที่สวยงาม ซึ่งลวดลายเหล่านี้ถือเป็นจุดหนึ่งที่แสดงถึงความเป็น “ศิลปะ” ในตัวดาบ เป็นจุดที่ควรสังเกตเวลาชมดูดาบ
4. ดาบญี่ปุ่นคมเพียงใด พวกเราอาจจะวาดภาพว่าดาบญี่ปุ่นสามารถฟันร่างกายคนขาดเป็นสองท่อนอย่างง่ายดาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ดาบญี่ปุ่นคมแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับดาบแต่ละเล่ม ซึ่งในสมัยโบราณนั้นเขามีการวัดความคมของดาบโดยใช้ “ศพ” ของคนมาวางซ้อนกันแล้วใช้ดาบฟันดู ถ้าฟันตรงที่อกแล้วหั่นได้หนึ่งอกของศพก็เรียกว่า “1 อก” หั่นได้สองอกก็เรียกว่า “2 อก” และส่วนต่าง ๆ ในร่างกายก็มีจำนวนกระดูกไม่เท่ากัน ซึ่งหน่วยวัดเหล่านี้เลยต้องระบุเป็น “อวัยวะ” ของร่างกายเพื่อความเที่ยงตรงในการวัด “จำนวน” ของ “ชิ้นส่วนไหนของร่างกาย” ที่หั่นได้
จาก 4 จุดข้างบนเป็นตัวอย่างที่ยกมา ซึ่งทำให้เราสามารถวิเคราะห์ลักษณะของความเป็นญี่ปุ่นได้ดังนี้
ข้อ 1,2 ดาบพัฒนาให้เหมาะกับการฟันและไม่หักง่าย ๆ ซึ่งตรงตามลักษณะนิสัยของคนญี่ปุ่นที่พัฒนาไม่หยุดยั้ง
ข้อ 3 คนญี่ปุ่นมีความสนใจใน “ศิลปะ” ในธรรมชาติ รวมทั้งลวดลายบนดาบ
ข้อ 4 คนญี่ปุ่นก็ “ญี่ปุ่น” จริง ๆ ต้องมีมาตรฐานในการวัดความคมของดาบ
หากใครสนใจจะไปชมดูดาบญี่ปุ่น ก็แนะนำที่พิพิธภัณฑ์เหล่านี้ครับ ในโตเกียว อย่างเช่นสองที่นี้
Tokyo National museum >> http://www.tnm.jp/?lang=en
Japan sword museum >> http://www.touken.or.jp/english/
สุดท้ายนี้ ดาบที่เป็นอาวุธ คนตีดาบพยายามพัฒนาหาวิธีทำดาบให้ดีที่สุด ผู้คนยุคปัจจุบันก็เฝ้าใฝ่หาศิลปะจากดาบก็ด้วยจากอิทธิพลของเกม “สิ่งประดิษฐ์”ที่มีอายุยาวนานกว่า 900 ปีก็ยังมีอยู่ต่อไปมองดูแล้ว “เกม” ก็มีส่วนช่วยรณรงค์ วัฒนธรรมให้คงอยู่ต่อไป
ถ้าคุณมีโอกาส ลองหาโอกาสไปชมดาบญี่ปุ่นที่พิพิธภัณฑ์ดูนะครับ
ทักทายพูดคุยกับ Wasu ได้ที่ >>> Facebook Wasu’s thought on Japan
เรื่องแนะนำ :
– หัวใจบริการของญี่ปุ่น หรือว่า?
– สวนหินของวัดเรียวอันจิ
– ความเข้าใจที่ไม่มีใครเอ่ยปาก : 暗黙の了解 [อันโมะคุ โนะ เรียวไค]
– ตั๋วราคาก็พอกัน แต่คนญี่ปุ่นเลือกใช้รถไฟชินคันเซน แทนที่จะเป็นเครื่องบินเพราะอะไร
– สนามบินฮาเนดะและสนามบินนาริตะ นั่งเครื่องบินไปลงไหนดีกว่า