วงการนี้คือวงการที่ยิ่งกว่ามายา ต้องมีความเป็นมืออาชีพมากๆ และไม่เปิดโอกาสให้ความผิดพลาดเลย อะไรที่ไม่อยู่ในกฏหรือบทบาทที่ตั้งไว้ จะถือเป็นปัญหาที่ห้ามเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาดครับ ดังนั้นเรามาดูกันเลยดีกว่าว่าข้อห้ามในวงการมวยปล้ำญี่ปุ่นมีอะไรบ้าง
หากใครติดตามเรื่องราวของประเทศญี่ปุ่นมาเป็นเวลานานก็คงจะทราบดีนะครับว่าประเทศนี้เต็มไปด้วยกฏเกณฑ์ซึ่งบางครั้งก็ อาจจะดูมากเกินไปและก่อให้เกิดความเครียด อย่างเช่นกฏห้ามมีความรักของไอดอลที่สร้างปัญหาในวงกว้างต่อภาพลักษณ์และอาจรวมถึงมุมมองของคนทั่วไปต่อระบบธุรกิจญี่ปุ่นไปโดยปริยาย
ในวงการมวยปล้ำเองก็เช่นกัน วงการนี้คือวงการที่ยิ่งกว่ามายา คือเราต้องอาศัยความเป็นมืออาชีพมากๆ และไม่เปิดโอกาสให้ความผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย อย่างที่ทราบกันครับว่ามวยปล้ำคือ Sport Entertainment หรือหมายถึงการผสมระหว่างกีฬาและความบันเทิง ดังนั้นอะไรที่ไม่อยู่ในกฏหรือบทบาทที่ตั้งไว้ จะถือเป็นปัญหาที่ห้ามเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาดครับ
ดังนั้นเรามาดูกันเลยดีกว่าว่าข้อห้ามในวงการมวยปล้ำญี่ปุ่นมีอะไรบ้าง
1. ห้ามมีแฟน!
ข้อนี้ถือว่าสำคัญที่สุดครับ เพราะเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแฟนๆ มวยปล้ำส่วนหนึ่ง(และส่วนใหญ่) มีความคิดเชิงชู้สาวกับตัวนักกีฬา คืออย่างน้อยก็ขอให้ได้จิ้น อย่างน้อยขอให้ได้คิดมุ้งมิ้งบ้างก็ยังดี หรือจะพูดง่ายๆ ว่าถึงแม้จะรู้ตัวว่าไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิด แต่รู้ว่าเขายังโสดตลอดไปก็พอแล้ว~ ฟังแล้วก็น่าสนใจดีนะครับ วงการมวยปล้ำเนี่ยพูดกันตรงๆ คือส่วนใหญ่ก็มีคู่กันครับแต่พูดออกมาไม่ได้หรือไปไหนมาไหนด้วยกันไม่ค่อย ได้ ถ้าจะไปก็ต้องแสดงตัวในฐานะอื่นแทน
แต่!!! วงการมวยปล้ำมีข้อยกเว้นครับ คือถ้าคุณเป็นแฟนกัน คุณต้องปิดให้เงียบที่สุด “จนกว่าจะแต่งงาน” นั่นคือถ้าเราไม่คิดอะไรมากแล้วอดทนฟันฝ่า เก็บความลับไว้ได้จนความรักสุกงอมแล้วประกาศแต่งงาน ทุกคนก็พร้อมจะยอมรับครับ ถือเป็นค่านิยมที่น่าสนใจจริงๆ (แต่สำหรับแฟนๆ แล้ว มันจะรู้สึกแบบ ไปคบกันตอนไหนวะ!!? การประกาศแต่งงานแต่ละครั้งมันเลยเป็นแบบสายฟ้าแล่บ สร้างความปวดใจทุกครั้งไป)
2. ห้ามเมา! (ต่อหน้ารุ่นพี่)
ข้อนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องมารยาทเลยนะครับ ในวงการมวยปล้ำนั้นนอกจากช่วงพิธีการหรือมีสปอนเซอร์แล้ว ทุกอย่างจะรีแลกซ์มากโดยเฉพาะในวงเหล้า และไอ้ความสบายๆ เนี่ยแหละที่จะทำให้เหล่ารุ่นพี่แกล้งรุ่นน้อง โดยเฉพาะพวกที่มาฝึกงานหรือพวกที่ยังไม่มีสิทธิ์มีเสียงมาก อย่างเช่นการเอาเหล้าแรงๆ มาผสมให้กินหรือเอาเบียร์ประหลาดๆ มาสอยเราจนร่วง
อนึ่งเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายให้เราเกิดอันตรายนะครับ แต่มันคือการแกล้งเอาฮากัน (ที่อาจจะแรงไปหน่อย) อย่างผมเองเคยเมาตอนเดินทางกลับจากโอซาก้า เท่าที่จำได้คือการนอนหลับไปโดยไม่รู้ตัว พอตื่นมาก็เห็นรุ่นพี่พยายามช่วยเหลือเรา ถามไถ่ว่าเป็นไงบ้าง? ดีขึ้นไหม? พูดตรงๆ ว่าประทับใจครับ
จนกระทั่ง… ค่ำคินนั้นเองที่มวลมหาประชารูปถูกส่งเข้ามาใน LINE ของผม!! เล่นเอาสาบานกับตัวเองเลยว่าจะไม่ยอมให้ตัวเองเมาต่อหน้าคนเหล่านี้อีกต่อไป ครับ
3. ห้ามว่าง!
วงการมวยปล้ำนั้นถ้าเราไม่ได้อยู่ในสมาคมใหญ่ๆ ระดับประเทศหรือนานาชาติเราต้องทำทุกอย่างเองไล่ตั้งแต่การทำความสะอาดสนาม การแลกเวที การประกอบเวที การประกอบฉาก การกำกับวีดีโอ/เสียง เรียกได้ว่ามะรุมมะตุ้มมากทีนี้มันจะมีงานอยู่บางส่วนที่เสร็จก่อนเพื่อน ครับ แต่ปัญหาก็คือเราห้ามแสดงตัวว่าเสร็จ เราต้องหาอะไรทำให้ดูวุ่นวายไปเรื่อยๆ จนคนอื่นค่อยๆ ทยอยกันเสร็จ
ที่สำคัญห้ามนั่งเด็ดขาดเพราะมันแสดงถึงความไม่เอาใจใส่ของคุณครับ อันนี้ละเอียดอ่อนมากเพราะบางคนก็จะมองว่างานตัวเองเสร็จแล้วจะเหลืออะไรให้ ทำอีก (อันนี้หมายรวมถึงทุกสายงานในญี่ปุ่นเลยนะครับ) แต่จริงๆ แล้วมันเป็นวัฒนธรรมที่อยู่กับสังคมประเทศเขานานมากแล้ว ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดของเราคือการปฏิบัติตามครับ
4. ห้ามสายอย่างเด็ดขาด!
อันนี้สำคัญมากเลย เพราะนักมวยปล้ำหลายคนต้องปล้ำมากกว่าหนึ่งแห่งในวันเดียวกัน ดังนั้นเราจะทำตัวเองให้เป็นปัญหาไม่ได้ครับ ในวงการมวยปล้ำเราต้องถึงสถานที่ก่อนเวลาแข่งขันอย่างน้อย 3 ชั่วโมงเพื่อเตรียมตัว
ดังนั้นเมื่อจบการปล้ำแต่ละแห่งแล้วต้องรีบ วิ่งวิ่งและวิ่งทันที บางทีตอนเช้าอยู่โอซาก้า ตอนเย็นอยู่โตเกียว แบบนี้ยิ่งต้องเผื่อเวลามากๆ เผื่อไว้ว่าเครื่องดีเลย์หรือเกิดปัญหา นักมวยปล้ำจะมีแผนสำรองเอาไว้เสมอครับ เพราะหากพลาดหรือไปสายจะส่งผลต่อโชว์ทั้งรายการเลย ต้องระวังเรื่องนี้เสมอ
5. ห้ามเผยตัวจริง
นักมวยปล้ำนั้นจะมีชื่อเฉพาะของตนเอง รวมถึงบางคนก็ใส่หน้ากาก บุคคลเหล่านี้ห้ามเปิดเผยชื่อจริงหรือใบหน้าของตัวเองเลย เพราะเขาถือกันว่าบุคคลบนเวทีกับบุคคลในเวลาปกติเป็นคนละคนอย่างชัดเจน ดังนั้นรัฐบาลญี่ปุ่นจะช่วยเรื่องนี้อย่างเต็มที่ อย่างเช่น นักมวยปล้ำสามารถออกตั๋วต่างๆ ด้วยชื่อปลอมได้นะครับ (เขามีขั้นตอนตรวจสอบอย่างละเอียดจนกว่าจะได้สิทธิ์นี้นะครับ ปลอดภัยต่อผู้โดยสารท่านอื่นแน่นอน) รวมถึงนักมวยปล้ำหน้ากากที่จะต้องใส่ผ้าปิดปากตลอดเวลา ตอนนี้รัฐบาลโอเคกับนักมวยปล้ำที่เป็นนักการเมืองในการสวมหน้ากากเข้าสภา หรือแม้แต่ใส่เข้าสภาก็ทำได้ครับ
ทั้งนี้รัฐบาลญี่ปุ่นมองว่ามนุษย์หน้ากากเหล่านั้นมีคุณค่าขึ้นมาด้วยหน้ากาก เช่นเดียวกับนักมวยปล้ำที่มีคุณค่าขึ้นด้วยชื่อปลอม ดังนั้นเราไม่ควรดึงสิ่งเหล่านั้นออกจากพวกเขา ต้องให้ตัวเขาได้มีคุณค่าตลอดเวลาเช่นเดียวกับคนทั่วๆ ไปครับ
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าหรือทวิตเตอร์ @pumiiiiiiiiii ครับ