เพราะญี่ปุ่นมีอะไรให้ศึกษาเล่าเรียนมากมายแบบที่คาดไม่ถึง โดยเฉพาะการเรียนในสถาบันการศึกษาที่เน้นการเรียนทักษะเฉพาะทาง เรียกว่า เซมมงกักโค 専門学校
มีหลายครั้งที่เจ๊จะได้รับคำถามว่า “เรียนอะไรดีที่ญี่ปุ่น”?
และคำตอบมักจะตอบกลับไปก็คือ “เรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ”
เพราะญี่ปุ่นมีอะไรให้ศึกษาเล่าเรียนมากมายแบบที่คาดไม่ถึง โดยเฉพาะการเรียนในสถาบันการศึกษาที่เน้นการเรียนทักษะเฉพาะทาง เรียกว่า เซมมงกักโค 専門学校
専門 senmon หมายถึงเฉพาะด้าน เฉพาะทาง
学校 gakkou คือโรงเรียน
แปลตรงตัวจึงหมายถึงโรงเรียนที่สอนวิชาเฉพาะทาง เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญแบบมืออาชีพในสาขานั้นๆ โดยเฉพาะ ใครชอบอะไร มีความสนใจด้านไหน ก็เข้าเรียนด้านนั้นๆ แบบเจาะลึกกันไปเลย
เซมมงกักโค เรียกว่าเป็นการศึกษาในระดับอุดมศึกษา คือนักเรียนที่จะเข้าเรียนได้จะต้องจบชั้นม.ปลายแล้ว เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา คนญี่ปุ่นไม่ได้ซีเรียสกับการที่จะต้องเรียนจบมหาวิทยาลัยได้ปริญญาบัตร หลังจบม.ปลายแล้ว นักเรียนบางส่วนเข้าสู่การทำงานเลย ในขณะนี้ นักเรียนจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะเข้าเรียนต่อในเซมมงกักโค เพื่อฝึกทักษะอาชีพก่อนที่จะจบออกไปทำงาน
ในปัจจุบัน ที่ญี่ปุ่นมีเซมมงกักโคประมาณเกือบ 3 พันแห่งทั่วประเทศ มีนักเรียนเรียนอยู่ประมาณ 5 แสนกว่าคน ในส่วนของนักเรียนไทยที่ไปเรียนต่อญี่ปุ่น มีจำนวนไม่น้อยที่เข้าเรียนต่อเซมมงกักโคในสาขาที่ตัวเองชอบ เช่น เกม อนิเมชั่น รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ออกแบบผลิตภัณฑ์ อาหาร เบเกอรี่ ธุรกิจนำเข้าส่งออก เป็นต้น
ตามสไตล์พี่ญี่ปุ่นแล้ว การจะเป็นผู้เชี่ยวชาญได้จะต้องมีความละเอียดอ่อน ละเอียดยิบ รู้ลึกรู้จริง ฉะนั้น เซมมงกักโค จึงเป็นการเรียนแบบเน้นๆ ยกตัวอย่างเช่น การเรียนเบเกอรี่ ยังไม่ต้องพูดถึงสูตรขนม แต่จะเริ่มต้นจากการเรียนด้านโภชนาการอาหาร ตารางธาตุ สารอาหารต่างๆ อย่างละเอียด ทำความรู้จักอุปกรณ์ภาชนะ เครื่องช่างตวงวัด ไปจนถึงวิธีการทำความสะอาดที่ถูกวิธี กว่าจะมาถึงส่วนผสมแต่ละอย่าง ต้องรู้ว่าความแตกต่างของวัตถุดิบจากแหล่งต่างๆ ที่ทำให้รสชาติขนมเปลี่ยนไป ต้องลองชิมวัตถุดิบจากภูมิภาคต่างๆ ทั้งในประเทศและนอกประเทศ เช่น เกลือ น้ำตาล นม เนย ฯลฯ
เอิ่มมม… ชิมกันให้ลิ้นเปื่อยกันไปข้างล่ะค่ะ เพื่อให้รู้ว่าเกลือจากฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของจังหวัดมิยากิ เกลือจากฝั่งทะเลญี่ปุ่นของจังหวัดอิชิกาวะ เกลือจากน้ำแร่ของจังหวัดนากาโนะ และเกลือจากสมุทรสาคร รสชาติต่างกันยังไง
ยกตัวอย่างอีกสาขาวิชายอดฮิต ด้านอนิเมชั่น การออกแบบคาแรกเตอร์ ใช่ว่าเปิดเรียนมาแล้วจะได้จินตนาการสร้างคาแรกเตอร์อย่างเมามัน แต่จะต้องเริ่มจากการเรียนกายวิภาค เพื่อให้เข้าใจสรีระของคน ตั้งแต่โครงสร้างของกระดูกแต่ละส่วน แต่ละข้อ กล้ามเนื้อมัดต่างๆ ไปจนถึงเส้นเลือด! ลองขยับมือดูค่ะว่า กระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเลือด มีการเปลี่ยนแปลง ขยับเขยื้อนอย่างไร เคยสังเกตกันไหมคะ
และเนื่องจากเป้าหมายของเซมมงกักโคคือ เพื่อผลิตบุคลากรที่สามารถออกไปทำงานในสาขาอาชีพนั้นได้ทันที ฉะนั้น ในทุกสาขาวิชา จะสอดแทรกการเรียนทางด้านธุรกิจไปด้วย อาจารย์ผู้สอนส่วนใหญ่จะเป็นคนทำงานมืออาชีพในวงการนั้นๆ จึงสามารถที่จะถ่ายทอดทักษะความรู้ที่จำเป็น เน้นการสร้างผลงานที่ต้องคำนึงถึงตลาดผู้บริโภคในยุคปัจจุบันลงไปด้วย
สาขาวิชาที่เปิดสอนในเซมมงกักโค แบ่งเป็น 8 แขนงหลักๆ คือ วิศวกรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ การรักษาพยาบาล สุขศึกษา การศึกษาและสังคมสงเคราะห์ พาณิชยศาสตร์ การออกแบบเสื้อผ้า ศิลปศาสตร์และวัฒนธรรม ในแปดสาขาวิชานี้ แบ่งย่อยอีกมากมาย เรียกว่าอยากเรียนอะไร สามารถหาได้
มาดูตัวอย่างสาขาวิชาแปลกๆ กันค่ะ
จะว่าไปก็ไม่ได้แปลกเท่าไหร่หรอกค่ะ ในต่างประเทศอื่นๆ เค้ามีสอนกัน เพียงแต่ที่เมืองไทยเราไม่ได้คิดว่าจะเรียนกันแบบจริงจังถึงขนาด 2 – 4 ปีจบ
โรงเรียนสอนด้านการวัดสายตา
เป็นการเรียนด้านที่เกี่ยวข้องกับสายตา ปัญหาเกี่ยวกับสายตา โรคตา เลนส์ การทำแว่นตา คอนแท็กเลนส์ สำหรับคนทั่วไปที่มีปัญหาทางสายตา หรือจะเจาะลึกไปถึงเรื่องสายตาของคนเฉพาะกลุ่ม เช่น นักกีฬาประเภทต่างๆ
โรงเรียนสอนด้านกิจกรรมเอาท์ดอร์
ร.ร.แบบนี้เหมาะกับคนรักธรรมชาติและกิจกรรมกลางแจ้ง สาขาวิชาที่สอนจะออกแนวแอดเวนเจอร์ เช่น การทำกิจกรรมเอาท์ดอร์ทุกชนิด การเอาตัวรอดท่ามกลางธรรมชาติ การเป็นไกด์ในป่าเขา นักปีนเขามืออาชีพ กีฬากลางแจ้ง กีฬาผาดโผนสารพัดประเภท ที่สำคัญคือการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งคนญี่ปุ่นปลูกจิตสำนึกในเรื่องนี้ค่อนข้างมาก
โรงเรียนสอนด้านการดูแลสัตว์
สำหรับคนรักสัตว์ ไม่ว่าจะสัตว์เลี้ยงธรรมดาน้องหมา น้องแมว การทำธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ไปจนถึงการดูแลสัตว์ป่าในสวนสัตว์ หรือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ใครอยากฝึกปลาโลมา ฝึกแมวน้ำต้องลงเรียนในโรงเรียนแบบนี้ล่ะค่ะ
ปิดท้ายกับโรงเรียนสอนออกแบบ ซึ่งหนึ่งในทีมงานเจ๊เอ๊ด กำลังจะไปเข้าเรียนในปีหน้า ไม่ได้เป็นการออกแบบธรรมดาค่ะ แต่เป็นคอร์สเรียนด้านการออกแบบและทำฟิกเกอร์ค่ะ!
นี่เป็นแค่บางตัวอย่างค่ะ เซมมงกักโคมีสาขาให้เรียนมากมายหลายหลาก แม้จะเพิ่งเรียนจบม.ปลาย และไม่เคยมีพื้นฐานด้านนั้นมาก่อนเลยก็สามารถเรียนได้ เพียงแต่ว่า การเรียนจะเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด ฉะนั้น ในการที่นักเรียนต่างชาติอย่างคนไทยเรา จะหาคอร์สเรียนตามที่ตนเองสนใจให้เจอและสอบผ่านเข้าไปเรียนได้นั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือทักษะความรู้ “ภาษาญี่ปุ่น” ค่ะ นักเรียนไทยส่วนใหญ่จึงจำเป็นต้องไปเรียนภาษาในโรงเรียนสอนภาษาที่ญี่ปุ่นก่อน อย่างน้อย 1 ปีถึง 1 ปีครึ่ง ในระหว่างนั้นก็ไปเข้าร่วมงาน open campus ต่างๆ ของเซมมงกักโคที่มีสอนสาขาวิชาที่สนใจ เพื่อเลือกสถาบันและสาขาให้ได้ตรงกับเป้าหมายจริงๆ
ถ้าเรียนจบหลักสูตร 2 ปี ด้วยชั่วโมงเรียนมากกว่า 1,700 ชั่วโมงขึ้นไปจะได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพ สามารถสอบเทียบโอนหน่วยกิตเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีในชั้นปีที่ 3 ได้ และถ้าเรียนจบหลักสูตร 4 ปี ด้วยชั่วโมงเรียนมากกว่า 3,400 ชั่วโมงขึ้นไป จะได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง มีวุฒิเทียบเท่ากับผู้ที่จบปริญญาตรีในมหาวิทยาลัย และสามารถเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทได้
หลังจากจบการศึกษา เซมมงกักโคจะมีจุดเด่นอีกอย่างคือ ในระหว่างที่เรียนแต่ละหลักสูตร จะต้องผ่านการสอบเพื่อให้ได้ใบอนุญาตประกอบอาชีพ หรือประกาศนียบัตรที่จำเป็นต่อการทำงานอาชีพนั้นๆ และมีศูนย์ที่ช่วยสนับสนุนนักเรียนในการหางานทำ นักเรียนต่างชาติก็สามารถหางานทำที่ญี่ปุ่นได้ค่ะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคน และบางสาขาวิชาที่เป็นอาชีพอิสระหรือทักษะสงวนจะไม่สามารถขอวีซ่าทำงานได้ เช่น นักแสดง นักเขียน นักวาดการ์ตูน ไกด์ พ่อครัว เป็นต้น
หมายเหตุ : เซมมงกักโคบางแห่งที่ไม่รับนักเรียนต่างชาติ จะสมัครเข้าเรียนไม่ได้ เนื่องจากไม่รองรับการขอวีซ่าให้นักเรียนต่างชาติ
พบปะ “เจ๊เอ๊ด” และ #ทีมเจ๊เอ๊ด ได้ที่ >>> www.facebook.com/jeducationfan
ข้อมูลเรียนต่อญี่ปุ่น-เรียนภาษาญี่ปุ่น >>> www.jeducation.com
เรื่องแนะนำ :
– เกาะกระแสกีฬาสีญี่ปุ่น สามัคคีชุมนุม
– บริจาคเลือดที่ญี่ปุ่น
– 5 ข้อแนะนำ ก่อนไปงานแนะแนวญี่ปุ่น
– เพื่อนบอกไปเรียนต่อญี่ปุ่น ไหงเฟสบุ้คมีแต่รูปเที่ยว
– ในวันที่ก๊งเหล้ากับพระ….ญี่ปุ่น
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://www.neec.ac.jp/
http://www.woc.ac.jp/
http://www.i-nac.ac.jp/
http://www.osaka-eco.ac.jp/
http://www.senmon-gakkou.jp
http://www.jikei.asia/