ดอกไม้สีม่วงเข้มที่ชื่อว่า ลาเวนเดอร์ (Lavender) ถ้าจะชมดอกไม้ชนิดนี้ที่ญี่ปุ่นกันงามๆ ก็ต้องมาในช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม แต่เดือนกรกฏาคมดอกลาเวนเดอร์ฮอกไกโดจะงามที่สุด
ชาวญี่ปุ่นมีความละเมียดละไมในการใช้ชีวิต ช่วงหน้าร้อนก็ยังสรรหาสถานที่ไปชื่นชมความงามของธรรมชาติกันได้ไม่รู้เบื่อ ชาวญี่ปุ่นหลายคนหนีอากาศร้อนๆ และความวุ่นวายในเมืองหลวงขึ้นเหนือไปเก็บภาพทุ่งดอกไม้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตากันถึงเกาะฮอกไกโด โดยเฉพาะเพื่อชมดอกไม้สีม่วงเข้มที่ชื่อว่า ลาเวนเดอร์ (Lavender) ซึ่งถ้าจะชมดอกไม้ชนิดนี้กัน ก็ต้องมาในช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม แต่เดือนกรกฏาคมดอกลาเวนเดอร์ฮอกไกโดจะงามที่สุด
บริเวณที่นักท่องเที่ยวมักจะไปชมดอกลาเวนเดอร์กัน อยู่ในละแวกเมืองอาซาฮิกาว่า (Asahikawa) เป็นส่วนใหญ่ อย่างเช่นที่ฟุราโน่ (Furano) และ บิเอะ (Biei) แต่ก็ไม่ได้มีแต่ทุ่งดอกลาเวนเดอร์เท่านั้นนะ ตลอดทั้งปียังมีดอกไม้หลากชนิดสลับกันออกดอก (ไปช่วงไหน จะได้เห็นดอกไม้อะไรก็ต้องเช็คกันก่อน) แถมยังมีไร่องุ่น (Furano Winery) ที่แบ่งปันผลผลิตมาให้นักท่องเที่ยวได้ชิมกัน และโรงงานชีส (Furano Cheese Factory) ที่เป็นเสมือนธีมปาร์คในนักท่องเที่ยวได้เที่ยวชม
ฟุราโน่นั้นหน้าร้อนจะดังเรื่องชมทุ่งดอกไม้ ส่วนหน้าหนาวจะดังเรื่องเล่นสกี ส่วนบิเอะนั้นนอกจากจะมีทุ่งดอกไม้แล้ว ก็ยังมีแหล่งอาบน้ำแร่ขึ้นชื่อหลายแห่ง เช่น Shirogane Onsen และถ้าได้มาถึงเมืองอาซาฮิกาว่า ก็ไม่ได้มีแค่ฟุราโน่และบิเอะอย่างแน่นอนที่น่าเที่ยว
มาเข้าเรื่องชมดอกไม้หน้าร้อนที่ฮอกไกโดกันดีกว่า….
สวนและฟาร์มดอกไม้ดังๆ ที่นี่มีกระจายอยู่ทั่วไป ใครจะไปละแวกไหนก็เลือกดูเลือกชมให้เหมาะสมกับเส้นทางที่ตัวเองจะไปได้ ส่วนใหญ่ก็จะเข้าถึงง่าย เดินทางสะดวกด้วยรถไฟ แต่บางแห่งก็คงต้องแปลงร่างเป็นเจ้าถิ่นเสาะหาวิธีการเดินทางกันหนักหน่อย
มาดูดีกว่าว่ามีที่ไหนกันบ้าง
Biei Town
Hill of Zerubu & Hill of Atoms
Hill of Shikisai
Kami Furano Town
Farm Kanno
Hinode Park & Kamifurano Hinode Park Auto Camp Site สวนแห่งแรกที่เริ่มปลูกลาเวนเดอร์ในญี่ปุ่น
Flower Land Kamifurano
Miyama Pass
Naka Furano Town
Farm Tomita เป็นฟาร์มยอดนิยมที่คนนักท่องเที่ยวชาวไทยรู้จักกันดี เปิดให้เข้าฟรีได้ด้วยในเดือนมิ.ย. – ส.ค.
Choei Lavender Farm and Naka-Furano Flower Park
Hitsuji-no-Oka, Lavender Garden
Saika no Sato
Furano City
Highland Furano’s Lavender Fields
Furano Winery & Furano Wine House
Rokugo Observatory Deck in Furano Jam Garden (มี Anpanman Shop ด้วย)
Yamabe Nature Park “Taiyo-no-Sato”
Minami Furano Town
Lake Kanayama
ทุกสถานที่ข้างบนนี้ล้วนปลูกลาเวนเดอร์ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว แต่เกือบทุกแห่งก็มีดอกไม้สลับสับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล
จากไร่ลาเวนเดอร์ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นไร่ทานตะวันบ้าง ไร่กุหลาบบ้าง ไร่คอสมอสบ้าง ไร่แมรี่โกล์ดบ้าง โอ๊ะ โอ๊ะ..ไร่ป๊อปปี้บ้าง ซึ่งแต่ละฟาร์มในฤดูเดียวกันก็อาจจะปลูกดอกไม้คนละชนิดกันก็ได้นะจ้ะ
การเดินทางสู่ฟุราโน่ (หัวเมืองสำหรับชมลาเวนเดอร์ก็ว่าได้)
จาก Sapporo นั่ง JR Furano Lavender Express ที่จะเปิดเฉพาะเดือนมิ.ย. – ส.ค. เมื่อถึง Furano ก็ใช้รถไฟสาย JR Furano Line ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ได้สะดวก หรือจะใช้บริการ Lavender Go Bus ที่ให้บริการตามเส้นทางสำคัญๆ อย่างสนามบินอาซาฮีกาว่า สถานีรถไฟหลัก โรงแรม และแหล่งท่องเที่ยวแถบฟุราโน่เป็นต้น สนนราคาก็พอรับได้ เริ่มต้นที่ 160 เยน แพงสุดก็ 1,000 เยน (จาก New Furano Prince Hotel ไปสถานี Asahikawa)
นอกจากนี้ยังมีรถไฟสายท่องเที่ยว Furano-Biei Norokko Train (Scenic Train) ที่จะเปิดให้บริการในช่วงหน้าร้อนด้วย โดยปี 2011 จะเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 11 – 30 มิ.ย. เท่านั้น
คราวนี้แผนที่อาจจะหลายแผ่นหน่อย เพราะไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย อาจจะกล้าๆ กลัวๆ ที่จะเที่ยวเอง
ฟุราโน่นี่หลายคนก็อาจจะว่าอารมณ์คล้ายๆไปเที่ยวเขาใหญ่โดยไม่ต้องขับรถไปเอง ให้ใช้รถสาธารณะที่มีอยู่ดาษดื่นของเขาให้ถูกจังหวะก็พอ แล้วถ้ากลับมานอนในตัวเมืองอาซาฮิกาว่าก็จะได้อารมณ์กิน ดื่ม ช้อป แถมมาด้วย น่าสนุกออก แต่สรุปว่ายังไงก็เที่ยวให้สนุกกันถ้วนหน้าก็แล้วกันนะจ้ะ ^^
เรื่องที่เกี่ยวข้อง >>
– Fuji Five Lakes: ทะเลสาบทั้ง 5 ของภูเขาไฟฟูจิ
– เที่ยวโอซาก้า : ปราสาทโอซาก้า
– เที่ยวโตเกียว : Tokyo Tower [東京タワー]
– เที่ยวโตเกียวด้วยรถไฟ
– เที่ยวเกียวโต : Aoi Matsuri (葵祭)
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ:
http://www.furano-kankou.com/english/home.htm
http://www.furano.ne.jp/furabi/english/index.htm
http://www.asahikawa-daisetsu.jp/e/index.html
http://www.farm-tomita.co.jp/en/index.html
#ลาเวนเดอร์ฮอกไกโด