นกในภาษาญี่ปุ่น โดยทั่วๆ ไปจะเรียกกันว่า โทริ (Tori とり) แต่ถ้าเป็นเจ้านกฮูก ที่ชอบนอนกลางวัน ตื่นกลางคืนเพื่อออกหากินนั้น คนญี่ปุ่นเค้าเรียกกันว่า ฟุคุโร (Fukurou ふくろう, 梟) ซึ่งเจ้านกฮูกญี่ปุ่นนี่ผูกพันกับความเชื่อของคนญี่ปุ่นมาช้านานแล้ว…
นกในภาษาญี่ปุ่น โดยทั่วๆ ไปจะเรียกกันว่า โทริ (Tori とり) แต่ถ้าเป็นเจ้านกฮูก ที่ชอบนอนกลางวัน ตื่นกลางคืนเพื่อออกหากินนั้น คนญี่ปุ่นเค้าเรียกกันว่า ฟุคุโร (Fukurou ふくろう, 梟) ซึ่งเจ้านกฮูกญี่ปุ่นนี่ผูกพันกับความเชื่อของคนญี่ปุ่นมาช้านานแล้ว…
เชื่อกันว่าคำว่าฟุคุโร 梟 นั้นมาจากคำว่า Fuku 福 ที่แปลว่า “โชค” ส่วนคำว่า rou 郎 ที่มาต่อท้ายนั้น คนญี่ปุ่นมักใช้ไว้ต่อท้ายชื่อของเด็กผู้ชาย บ้างก็เชื่อว่ามาจากคำว่า fu 不 ที่แปลว่า “ไม่” และคำว่า kurou 苦労 ที่แปลว่า “ยากลำบาก ทุกข์ทรมาน” ทำให้คำว่า Fukurou มีความหมายว่า “ไม่ลำบาก” ก็ได้
จึงไม่แปลกเลยที่จะทำให้เจ้านกฮูกญี่ปุ่น กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์แห่งความโชคดี (Engimono 縁起物) หรือ Lucky Charm ของชาวญี่ปุ่นไปโดยปริยาย บางคนก็เชื่อว่าสี ขนาด และรูปร่างของเจ้านกฮูกนำโชคนี้จะให้คุณ (หรือส่งผล) ในด้านที่แตกต่างกันไป
นอกจากจะนำโชคดีแล้วความเชื่อเกี่ยวกับนกฮูกในญี่ปุ่นก็แตกต่างกันไปตามภูมิภาคด้วย บางพื้นที่เชื่อว่านกฮูกเป็นนกผู้ไข สามารถช่วยทำนายสภาพอากาศได้ บางพื้นที่ก็ผูกพันกับนกชนิดนี้มาก อย่างชาวไอนุบนเกาะฮอกไกโดซึ่งมีวิถีชีวิตผูกพันกับสัตว์สองชนิดนั่นคือหมีและนกฮูก โดยพวกเขาเรียกนกฮูกชนิดหนึ่งว่า “Kotan Kor Kamuy” ที่แปลว่า “เทพเจ้าแห่งหมู่บ้าน” และมีตำนาน เรื่องเล่าเกี่ยวกับนกฮูกอยู่หลายเรื่องเลยทีเดียว หรืออย่างที่เมือง Tsukuba จังหวัดอิบารากิ (Ibaraki Prefecture) นกฮูกถือเป็นสัตว์สัญลักษณ์อย่างเป็นทางการของเมืองเลยทีเดียว ทั่วทั้งเมืองจะพบรูปวาด รูปถ่าย หรือรูปปั้นของเจ้านกฮูกนี้อยู่เต็มไปหมด แถมกรุงโตเกียวเองก็ยังมีการประดับครอบครัวนกฮูกไว้ที่หน้าสถานีชื่อดังและพลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นด้วย ที่นั่นก็คือสถานีรถไฟอิเคะบุคุโระ (เพราะคำว่า Ike+Fukuro ไงล่ะ)
จากเหนือจรดใต้ของญี่ปุ่น คุณจะได้เห็นเรื่องราวและร้านขายของเกี่ยวกับนกฮูกหลายแห่ง ทั้งที่Maruyama Zoo บนเกาะฮอกไกโด หมู่บ้านไอนุ (Ainu Kotan Village) ที่ทะเลสาบอะคัง บนเกาะฮอกไกโด หรือที่แหลมอิซุ (Izu Peninsula) บนเกาะฮอนชู
ในช่วงหลังการปฏิรูปเมจิ (Meiji Restoration) ราวปี 1868 ซึ่งญี่ปุ่นเริ่มเปิดประเทศ ต้อนรับชาติตะวันตกมากขึ้น ภาพลักษณ์ของนกฮูกในสายตาคนญี่ปุ่นก็ถูกนำเสนอให้คนต่างชาติได้รู้จักในแง่มุมที่ต่างออกไปด้วย นกฮูกได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความเฉลียวฉลาดและการศึกษาหาความรู้ ขณะที่ความเชื่อที่ว่านกฮูกเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีและปกป้องผู้คนจากเรื่องร้ายๆ ก็ค่อยๆ จางหายไป
คนญี่ปุ่นเชื่อว่าโอมะโมะริ (Omamori) หรือเครื่องรางนั้นจะสามารถปกป้องคุ้มครองจากสิ่งไม่ดีทั้งหลายได้ นอกจากนี้ยังมีไว้เพื่อเสริมสร้างความสุข ความสมหวังในชีวิตด้านต่างๆ อีกด้วย คนญี่ปุ่นจึงนิยมนำสัญลักษณ์รูปสัตว์นำโชคต่างๆ มาทำเป็นเครื่องราง ไม่ว่าจะเป็นแมว กระต่าย หรือแม้กระทั่งนกฮูก แน่นอนว่าเครื่องรางที่มีรูปนกฮูกนั้น เชื่อว่าจะเรียกโชคดีเข้ามา ทำให้ครอบครัวมีความสุข แต่ที่เชื่อกันอย่างสุดๆ ก็คือจะทำให้คนที่พกเครื่องรางมีสติปัญญาดี เรียนเก่ง สอบผ่านได้อย่างง่ายๆ จึงเป็นที่นิยมในหมู่นักเรียน นักศึกษา ส่วนพวกผู้ใหญ่ก็มักจะเสาะหามาให้บุตรหลาน หรือเป็นของฝาก ของที่ระลึกสำหรับเด็กๆ (ก็ที่ญี่ปุ่น เรื่องการเรียนนี่ เขาแข่งขันกันชนิดตายกันไปข้างหนึ่งเลยทีเดียว ต้องเรียนพิเศษกันเป็นอาชีพ ถ้าหากอยากจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้นะ)
แม้จะเป็นความเชื่อ.. แต่คนญี่ปุ่นสมัยใหม่ ก็ยังพกพาเครื่องรางนกฮูกกันทั่วไป ก็แหม.. ดีไซน์นกฮูกสมัยนี้ออกจะเก๋ไก๋ ดูน่ารัก มีมากมายหลายแบบเต็มท้องตลาดขนาดนี้ หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป มีทั้งแบบทำด้วยพลาสติก ไม้ หรือโลหะ ทำเป็นเครื่องรางบ้าง ที่ห้อยโทรศัพท์บ้าง เคสโทรศัพท์ หรือไม่ก็สติกเกอร์บ้าง ทำเป็นรูปปั้น รูปแกะสลักก็เยอะแยะมากมาย แล้วเจ้าของพวกนี้คงจะไม่หมดไปจากสังคมชาวญี่ปุ่นอย่างง่ายๆ แน่นอน
แต่อันที่จริงแล้วคนญี่ปุ่นบางกลุ่มก็มองนกฮูกในสองลักษณะ มีทั้งในแง่ดีและในแง่ร้าย อย่างนกฮูกที่เรียกว่านกฮูกยุ้งหรือนกแสกจะถือว่านำสิ่งชั่วร้ายมาให้ เชื่อว่าเป็นนกปีศาจ คล้ายๆ กับบ้านเราเหมือนกันนะ ในสมัยก่อนถ้ามาเกาะหลังคาบ้านละก็ คงขนหัวลุกกันเป็นแถว เพราะคนไทยเชื่อว่าจะเป็นลางร้าย ถึงขนาดอาจจะมีคนในบ้านเสียชีวิตเลยก็ได้ ส่วนนกฮูกเหยี่ยวจะมีแต่คนชอบ เพราะเชื่อว่าเป็นผู้นำสารจากเทพเจ้า จึงนำมาแต่สิ่งดีๆ (มีการแบ่งแยกสายพันธุ์กันด้วยแฮะ ว่าเจ้าตัวไหนนำโชคดี เจ้าตัวไหนนำโชคร้าย – – )
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์การมีชีวิตอยู่ของนกฮูกในญี่ปุ่นกลับเริ่มล่อแหลม เพราะแม้นกฮูกจะมีประโยชน์ในการกำจัดหนูตามธรรมชาติ อย่างเช่นในไร่นาแล้ว การอยู่ร่วมกันของมนุษย์กับนกฮูกก็เริ่มลำบากขึ้น เพราะอุปสรรคบางอย่าง อาทิ ตาข่ายกั้นพื้นที่ระหว่างไร่นาหรือบ้านเรือน ก็สามารถเป็นกับดักคร่าชีวิตพวกมันได้แล้ว จนกระทั่งตอนนี้ในญี่ปุ่นมีคนริเริ่มที่จะสร้าง Fukuro no mori (ป่าแห่งนกฮูก)ขึ้นมา โดยสร้างกล่องไม้ให้เป็นรังของนกฮูกในป่า เพื่อที่ว่ามันจะได้คิดว่ากล่องเหล่านี้เป็นบ้านของมัน มันก็จะอยู่ในพื้นที่ที่เราจัดให้ และสามารถอยู่ร่วมกันกับคนที่คิดว่านกฮูกเป็นสัตว์ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์จริงๆ ได้โดยไม่เบียดเบียนกันในที่สุดนั่นเอง
ข้อมูลเพิ่มเติม :
นกฮูก (Owl) นั่นมีความเกี่ยวพันกับความเชื่อ ความศรัทธาของคนแต่ละท้องถิ่นแตกต่างกันออกไป บางประเทศก็เชื่อไปในทางลบ มองว่าน่ากลัว แต่บางประเทศก็เชื่อว่าเจ้านกตาโต สายตาแหลมคมมองเห็นได้ชัดแม้ในยามค่ำคืนนี้ มีความน่าสนใจ น่าจะกลายเป็นตัวแทนแห่งความเฉลียวฉลาด และถือให้มันเป็นตัวแทนของนักปราชญ์
ในสมัยก่อน ชาวอินเดียนแดงเชื่อว่านกฮูกเป็นนกของปีศาจ ใครที่พกพาขนนกฮูก จะถือว่าเป็นพวกพ่อมดหมอผี แต่ชาวอินเดียนพื้นราบในอเมริกาบางพวกกลับเชื่อว่าขนนกฮูกจะช่วยปกป้องพวกเขาจากปีศาจร้าย บางพวกก็ว่านกฮูกเป็นสัตว์ผู้พิทักษ์ ขณะที่ชาวมายาและชาวแอสแทก ก็เชื่อว่านกฮูกเป็นสัตว์ที่มีความเกี่ยวพันกับเทพเจ้าแห่งความตาย จึงถือเป็นสัญลักษณ์ของการทำลายล้างและความตาย ส่วนชาวยุโรปเชื่อว่านกฮูกเป็นนกแห่งเทพกรีก เทพีเอเธน่า (Athena Goddess) เทพีแห่งศิลปะ ผู้เชี่ยวชาญกลศึก และการเกษตร สุขุมลุ่มลึก และชอบแปลงร่างเป็นนกฮูก มหาวิทยาลัยในยุโรปหลายแห่งจึงนิยมใช้นกฮูกเป็นสัญลักษณ์ของสถาบัน แต่ชาวโรมันกลับไม่ค่อยปลื้มนกฮูกเท่าไรนัก เพราะมันเป็นนกที่หากินกลางคืน มีความลึกลับ รังของมันอยู่ที่ไหนก็หาได้ยาก ชาวโรมันจึงเชื่อว่าการเจอนกฮูกในตอนกลางวันถือเป็นลางร้าย และถือว่านกฮูกเป็นนกแห่งงานศพด้วย ในอินเดียจะถือว่านกฮูกสีขาวเป็นสัตว์ของเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง จะนำความเจริญรุ่งเรืองมาให้ แต่.. เวลาพูดถึงนกฮูกทั่วๆ ไป กลับจะมักจะเป็นการพูดเพื่อแสดงถึงความโง่ซะงั้น ถือว่าเป็นสัตว์ผู้นำโรคร้ายมาให้ และเป็นสัตว์ของเทพเจ้าแห่งความตายด้วย เป็นไงล่ะ แต่ละที่ก็เชื่อต่างๆ กันไป อย่างไรซะดูเหมือนความเชื่อเกี่ยวกับนกฮูกในหลายๆ ประเทศ จะออกไปทางร้ายมากกว่าดี …และหลายๆ ที่ก็เชื่อกันในสองแง่มุม มีทั้งดีและร้าย เช่นเดียวกับที่ญี่ปุ่น
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://www.pbs.org/wgbh/nova/hokkaido/legowl.html
http://forestbear.hubpages.com/hub/owls-in-Japanese-culture
http://blog.alientimes.org
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=203778
http://www.bloggang.com
http://educationinjapan.wordpress.com
http://dailyglimpsesofjapan.blogspot.com
http://item.rakuten.co.jp/sakurado/1106007/
http://store.shopping.yahoo.co.jp/shoindo/2391.html
http://www.amazon.co.jp
http://shop2.genesis-ec.com/search/item.asp?shopcd=17256&item=pa620
http://www.shugale.com/shopdetail/030006000617/
http://sainanin.com/shop/item/itemgenre/keyring/odaishi/57
http://www.alibaba.com