การ์ตูนญี่ปุ่นตอนเด็กๆ ที่ผมอ่านโดราเอมอนเห็นฉากโนบิตะ ต้องไปแข่งเบสบอลกับไจแอ้นและซูเนโอะ แม้ผมจะไม่รู้กติกาเบสบอล แต่จากการอ่านการ์ตูนก็พอเดาได้ว่าเล่นกันอย่างไร คือเราได้รู้จักกีฬาเบสบอลจากการ์ตูนก่อนจะเห็นของจริงซะอีก
กีฬาเบสบอลเป็นกีฬาหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในญี่ปุ่น ได้รับความนิยมถึงขั้นว่าสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเบสบอลได้แพร่หลายไปในหลายๆ ที่ของสังคมญี่ปุ่น
อย่างเช่นในการ์ตูนญี่ปุ่นตอนเด็กๆ ผมอ่านโดราเอมอนเห็นฉากที่โนบิตะ ต้องไปแข่งเบสบอลกับไจแอ้นและซูเนโอะ แม้ผมจะไม่รู้กติกาเบสบอล แต่จากการอ่านการ์ตูนก็พอเดาได้ว่า คนตีลูกบอลต้องตีให้โดน และหากตีแรงๆ จนโฮมรันได้ก็จะได้แต้ม เราได้รู้จักกีฬาเบสบอลจากการ์ตูนก่อนจะเห็นของจริงซะอีก
ต่อมาก็มีการ์ตูนเกี่ยวกับเบสบอลเรื่อง Touch การ์ตูนเรื่องนี้ที่ดังได้เป็นเพราะว่ามุขตลกหน้าตายของเหล่าตัวละครใน เรื่องซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของอาจารย์ มิซึรุ อะดะจิ คนวาดการ์ตูน ในประเทศไทยเราก็น่าจะมีคนที่อ่านการ์ตูนเรื่องนี้กันไม่น้อย และพลอยทำให้คนไทยเราหลายๆ คนได้เข้าใจกติกาเบสบอลกันบ้าง
– กติกาเบสบอลอย่างย่อๆ
กีฬาเบสบอลจะแบ่งเป็นฝ่ายรุกและฝ่ายรับ
ฝ่ายรับจะขว้างลูกให้ฝ่ายรุกตี
ฝ่ายรุกถ้าตีลูก “ดี” จนได้แต้ม แต้มก็จะเพิ่มไปเรื่อยๆ ฝ่ายรับต้องหาทางป้องกัน ทำให้ฝ่ายรุก “พลาด”ให้ได้
ตรงนี้ผมไม่เจาะรายละเอียดนะครับว่า “ดี” และ “พลาด” คืออะไรเพราะซับซ้อนเกินไปกว่าจะอธิบายให้หมดในคอลัมน์นี้ครับ
ฝ่ายรุกถ้า “พลาด”ไปสามหนก็จะสลับเกมรับและรุกกับอีกฝ่าย
เกมเบสบอลจะผลัดกันรับและรุกทั้งหมด 9 ครั้ง และหาว่าทีมไหนได้แต้มมากที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะไป
– แคชบอลและวัฒนธรรม
ในการซ้อมเบสบอล มีการซ้อมเกมรับและเกมรุก
การซ้อมเกมรุก คือการซ้อมตีลูกเบสบอล
การซ้อมเกมรับคือ การซ้อมขว้างและรับลูกเบสบอล
ผู้เขียนก็มีประสบการณ์ในการซ้อมขว้างลูกเบสบอลครับ อย่างแรกท่าขว้างเราต้องทำให้ถูกโดยก้าวขาเผื่อถ่ายเทแรง และตามด้วยไหล่ แขนท่อนบน แขนท่อนล่าง และข้อมือ แล้วก็ปล่อยลูกเบสบอล
เราจะฝึกขว้างลูกเบสบอลด้วยน้ำหนักที่พอดีเพื่อให้เพื่อนเราอีกคนรับได้ง่ายๆ แล้วอีกฝ่ายก็จะขว้างบอลกลับมาหาเรา การซ้อมในลักษณะนี้ จะมีศัพท์เฉพาะว่า “แคชบอล” Catch ball
แคชบอลก็เป็นส่วนหนึ่งทีแทรกซึมในวัฒนธรรมการ ทำงานของคนญี่ปุ่นครับ อย่างเช่นในการทำงาน หากเราทำงานของเราเสร็จและได้ส่งงานให้อีกฝ่ายไปจัดการต่อแล้ว ก็จะใช้คำพูดว่า “บอลอยู่ฝั่งโน้นแล้ว” ซึ่งมาจากวัฒนธรรมการแคชบอลว่า เราขว้างบอล(หรืองาน)ไปให้ฝั่งโน้นเรียบร้อยแล้ว
หรือหากว่าเรายังสะสางงานไม่เสร็จ อีกฝ่ายเขากำลังรอรับงานจากเรา เราจะใช้คำว่า “บอลยังอยู่ฝั่งนี้” ซึ่งก็มาจากการแคชบอลว่า เขาขว้างบอล (งาน) มาหาเราแล้ว เป็นหน้าที่เราต้องสะสางงานให้เสร็จและขว้างบอล (งาน) กลับไป
– ลีกเบสบอลอาชีพ
ในทีวีที่ญี่ปุ่น เราก็จะได้เห็นรายถ่ายทอดสดกีฬาเบสบอล และภาพข่าวกีฬาเบสบอล อยู่บ่อยๆ ช่วงที่มีการแข่งขันลีกเบสบอลอาชีพ จะถ่ายทอดสดทางทีวีกันตั้งแต่ราวๆ 6โมงเย็น ถึง 3 ทุ่มครึ่ง ซึ่งกินเวลาของรายการละครไป ทำเอาสาวๆ หรือคนไม่สนใจเบสบอลมีหงุดหงิดกันบ้างครับ
เบสบอลอาชีพเป็นอาชีพใน ฝันของเด็กญี่ปุ่นหลายๆ คนนะครับ เด็กที่เล่นเบสบอลเก่งๆ ก็จะได้รับการว่าจ้าง ตั้งแต่เรียนจบ ม ปลาย ตอนอายุ 18 ปี โดยเฉลี่ยแล้วรายได้ต่อปีของนักกีฬาเบสบอลอาชีพในญี่ปุ่นอยู่ที่ 38 ล้านเยนต่อปี ในขณะที่ซาลารี่แมนทั่วไปได้กันอยู่ที่ 6.5 ล้านเยนต่อปี
ดัง นั้นนักกีฬาเบสบอลอาชีพจึงมีรายได้ที่ดีมากๆ ครับ แต่หากเล่นได้ไม่ดี ก็อาจจะโดนเลิกว่าจ้างจึงเป็นโลกที่มีการแข่งขันกันสูง ส่วนใหญ่แล้วอายุประมาณกลางๆ 30 ก็จะเลิกเล่นกัน แล้วไปหางานอย่างอื่นทำ อาชีพที่ทำก็จะเป็นนักข่าว โค้ชทีมเบสบอล หรือผู้จัดการทีม
นักกีฬาเบสบอลที่เล่นเก่งๆ อาจจะย้ายไปเล่นที่เมเจอร์ลีกในอเมริกาซึ่งได้ชื่อว่า มีนักกีฬาเก่งๆ กันเยอะมาก รายได้ก็จะก้าวกระโดดไปเป็นขั้นต่ำที่ 100 ล้านเยนต่อปี คนที่เก่งมากๆ ก็ได้ถึง 2600 ล้านเยนต่อปี
เบสบอลอาชีพก็ถือว่าเป็นวงการกีฬาที่มีเม็ดเงินไหลสะพัดมากๆเช่นกัน
– สาเหตุที่กีฬาเบสบอลได้รับความนิยม
กีฬาเบสบอลถูกนำเข้ามาในญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยปี 1871 โดยคนอเมริกา กีฬาเบสบอลได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในญี่ปุ่นจนมาถึงปัจจุบัน มีลีกอาชีพและเนื้อหาของเบสบอลก็แทรกซึมไปในสังคมญี่ปุ่นอย่างที่ยกตัวอย่าง ไว้ในข้างต้น
น่าสงสัยว่าทำไมกีฬาเบสบอลถึงได้รับความนิยมในญี่ปุ่นถึงขนาดนี้ ซึ่งเราสามารถต้ังข้อสังเกตได้ดังนี้ครับ
1. กีฬาเบสบอลแฝงวัฒนธรรมการต่อสู้แบบตัวต่อตัว :
ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นแล้ว “กีฬา” แบบทีมจะไม่มี ส่วนใหญ่จะเป็นอะไรที่สู้กันแบบ “ตัวต่อตัว” อย่าง ซูโม่ เคนโด ยูโด
กีฬาเบสบอล “ดูเหมือน” เล่นกันหลายคน แต่เวลารุกนั้นผู้ตีลูกจะยืน “คนเดียว” รอฝ่ายรับขว้างลูกมาหา ซึ่งจะให้ความรู้สึกถึงการต่อสู้แบบ “ตัวต่อตัว” ซึ่งการต่อสู้แบบตัวต่อตัวนี้ เป็นโอกาสที่คนแต่ละคนได้แสดงความเป็น “ตัวตนของตนเอง” ครับ
2. เหมือนดูการต่อสู้แบบตัวต่อตัวหลายคู่ติดๆ กัน :
หากผู้ตี “พลาด” ก็ยังมีโอกาสให้ผู้เล่นคนอื่นเข้ามาตีได้อีก ซึ่งเหมือนว่าเราสามารถดูการต่อสู้แบบ “ตัวต่อตัว” ติดๆ กันได้หลายคู่ในระยะเวลาสั้นๆ ราวๆกับดูคู่ซูโม่หลายๆ คู่ติดกัน
3. ลักษณะเกมกีฬาที่มีพักเบรกเป็นช่วงๆให้คนญี่ปุ่นได้คุยสังสรรค์กัน :
กีฬาเบสบอลมีช่วงเบรกเป็นระยะ เช่นช่วงเวลาที่เปลี่ยนตัวผู้ตี หรือช่วงเวลาที่สองฝ่ายเตรียมตัวผลัดกันรุกและรับ การที่มีช่วงเบรกตรงนี้นี้ทำให้คนที่ดูได้พักกินข้าว หรือว่าจะได้คุยกับเพื่อนวิจารณ์เนื้อหาของเกมเบสบอล
ด้วยเหตุผล 3 ข้อข้างบนนี้ทำให้เบสบอลเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นครับ
โดยทั่วไปแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะทำงานอะไรเป็นทีม แต่ ณ วินาทีของ “การต่อสู้แบบตัวต่อตัว” ในเบสบอลก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้คนญี่ปุ่นหลงใหลครับ
ทักทายพูดคุยกับ Wasu ได้ที่ >>> Facebook Wasu’s thought on Japan