นิตยสาร TIME ได้จัดอันดับสถานที่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดประจำปี 2019 หรือ World’s Greatest Places 2019 ซึ่งแน่นอนว่าประเทศญี่ปุ่นก็มีสถานที่ที่ติดอันดับด้วยกันถึง 4 แห่งทีเดียว
เมื่อไม่นานมานี้นิตยสาร TIME ได้จัดอันดับสถานที่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดประจำปี 2019 หรือ World’s Greatest Places 2019 โดยคัดเลือก 100 จุดหมายที่ต้องไปสัมผัสให้ได้สักครั้งจากทั่วโลก ซึ่งได้รับการเลือกสรรจากบรรณาธิการ นักข่าวทั่วโลก และผู้เชี่ยวชาญในวงการอุตสาหกรรม ครอบคลุมทั้งสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก และอาหารการกิน ซึ่งแน่นอนว่าประเทศญี่ปุ่นก็มีสถานที่ที่ติดอันดับด้วยกันถึง 4 แห่งทีเดียวค่ะ
1. Mori Building Digital Art Museum | Tokyo
Forest of Resonating Lamps – One Stroke, Metropolis
สำหรับสถานที่แรก จัดอยู่ในหมวดสถานที่ที่ต้องไปเยือน ก็คือ Mori Building Digital Art Museum หรือพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลแห่งแรกของโลกที่กำลังเป็นกระแสฮือฮา ดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้มาเยือน ฮิตแค่ไหนดูได้จากจำนวนผู้เข้าชมที่มีมากถึง 1 ล้านคนภายในเวลาแค่ห้าเดือนหลังจากเปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2018 ด้วยความทันสมัย น่าตื่นตาตื่นใจแตกต่างจากพิพิธภัณฑ์ที่เราเคยเห็นทั่วไป โดยมีการควบคุมการจัดแสดงชิ้นงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ผ่านโปรเจกเตอร์และเซนเซอร์จับความเคลื่อนไหวรวมไปถึงเทคนิคต่างๆ ก่อให้เกิดงานศิลปะที่งดงาม และโดดเด่น สร้างประสบการณ์แบบใหม่และความสนุกสนานให้กับผู้เยี่ยมชมที่สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ความสวยงามให้เกิดขึ้นภายในชิ้นงานที่จัดแสดงได้
Born From the Darkness a Loving, and Beautiful World
Inverted Globe, Giant Connecting Block Town
Graffiti Nature – High Mountains and Deep Valleys
Grid Spaces
ด้วยพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร งานศิลปะกว่า 50 ชิ้นถูกจัดสรรออกเป็น 5 โซนด้วยกัน ได้แก่ Borderless World , Athletics Forest , Future Park, Forest of Lamps และ EN TEA HOUSE ที่จะทำให้เราหลงใหลอยู่ในความสวยงามของศิลปะได้หลายชั่วโมงเลยทีเดียว
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ https://borderless.teamlab.art/
2. Guntû | Seto Inland Sea
เรือ Guntû
ลองจินตนาการถึงเรียวกังที่หรูหราและเงียบสงบบนเรือสำราญที่ล่องพาคุณไปชมความงามของทะเลดูสิ แค่นึกก็ฟินแล้ว แต่ถ้ามีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์พิเศษแบบนี้จะยิ่งฟินแค่ไหนกัน
เรือ Guntû เป็นมากกว่าแค่เรือสำราญธรรมดา เพราะที่นี่เป็นโรงแรมลอยน้ำสุดหรูจากฝีมือการออกแบบของสถาปนิกมือรางวัล Yasushi ¬ Horibe มีห้องพักเพียง 19 ห้อง ตกแต่งสไตล์มินิมอล ใช้ไม้เป็นองค์ประกอบหลัก สร้างความอบอุ่นและทำให้นึกถึงบรรยากาศเรียวกังญี่ปุ่นโบราณได้เป็นอย่างดี แถมห้องพักแต่ละห้องยังมีระเบียงให้ได้ออกไปชื่นชมวิวทะเลได้อย่างเต็มตา
บรรยากาศในห้องพัก
บรรยากาศในห้องพัก
บ่อแช่น้ำร้อน
ระเบียง
นอกจากห้องพักที่หรูหราแล้ว บนเรือยังเต็มไปด้วยบริการที่สะท้อนวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่นเลิศรสที่ปรุงด้วยเชฟชื่อดัง บ่อแช่น้ำร้อน สปา ห้องดื่มชา เป็นต้น
เคาน์เตอร์ซูชิ
นอกจากการออกแบบและความหรูหราแล้ว ความพิเศษของเรือลำนี้ก็คือการได้ล่องไปในทะเลเซโตะ ผ่านเกาะน้อยใหญ่กว่า 700 ร้อยเกาะ สถานที่สำคัญๆ รวมไปถึงบ้านเรือนระหว่างทาง โดยเส้นทางการล่องเรือจะเริ่มต้นและสิ้นสุดที่ท่าเรือ Bella Vista Marina ในเมือง Onomichi จังหวัด Hiroshima
สำหรับแพ็คเกจในการล่องเรือจะเริ่มต้นที่ 400,000 เยน (ประมาณ117,000 บาท) โดยรวมอาหารทุกมื้อและบริการทุกอย่างบนเรือ
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://guntu.jp/
3. Muji Hotel | Ginza, Tokyo
ต้องยอมรับว่ากระแสมินิมอลมาแรงและหยุดไม่อยู่จริงๆ ยิ่งเมื่อแบรนด์ชื่อดังอย่างมูจิที่มีคอนเซปต์โดดเด่นเรื่องความเรียบง่ายและคุ้มค่า ได้เปิดตัวโรงแรม Muji Hotel Ginza ขึ้น ภายใต้แนวคิด “anti-gorgeous, anti-cheap” ซึ่งเชื่อได้ว่าสาวกมูจิอย่างเราต้องร้องกรี๊ดด้วยความถูกใจแน่นอน เพราะอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆภายในห้องพักล้วนเป็นสินค้าของมูจิทั้งสิ้น และการตกแต่งยังให้ความสำคัญกับการใช้ไม้ ผ้าและดินเป็นหลัก เพื่อให้เกิดบรรยากาศความอบอุ่น เป็นธรรมชาติและผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้านตัวเอง
จุดเด่นอีกอย่างของโรงแรมนี้ก็คือ ค่าห้องพัก เท่ากันตลอดทั้งปี! ไม่ต้องกลัวว่าราคาจะแพงช่วง high season แน่นอน (แต่ต้องกลัวว่าจะเต็มก่อนมากกว่า) ห้องพักแบ่งออกเป็นหลายแบบตั้งแต่ A ถึง I และเริ่มต้นที่ราคา 14,900 เยนค่ะ
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://hotel.muji.com/ginza/en/
4. Haneda Excel Hotel Tokyu | Tokyo
ขอบคุณรูปภาพจาก www.traveldailymedia.com/haneda-excel-hotel-tokyu-flight-simulator/
ใครอยากเป็นนักบิน ลองขับเครื่องบินบ้าง ขอบอกว่าฝันของคุณเป็นจริงแล้วค่ะ!
ที่ Haneda Excel Hotel Tokyu นอกจากจะเป็นโรงแรมที่เปิดภายในสนามบินฮาเนดะ สะดวกสบายง่ายต่อการใช้บริการ สามารถเช็กอินได้ที่ล็อบบี้ซึ่งอยู่ในสนามบิน แถมยังสามารถมองเห็นรันเวย์ ได้จากหน้าต่างห้องแล้ว เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Haneda Excel Hotel Tokyu ยังได้เปิดห้องพักรูปแบบใหม่ที่ชื่อว่า the Superior Cockpit Room ซึ่งเป็นห้องที่มีเครื่องจำลองการบินของเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากห้องนักบิน โดยราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 25,300 เยนต่อคืน (มีการกั้นส่วนของห้องพักและห้องจำลองจากกันด้วยแผ่นอะคริลิกใส) แต่หากใครอยากได้ประสบการณ์ที่พิเศษยิ่งกว่าการไปนอนพัก ก็สามารถจองคลาสเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการควบคุมการบินในห้องจำลองนักบินด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเอาเครื่องขึ้น บังคับทิศทางการบิน หรือการเอาเครื่องลงจอด และก็ไม่ต้องกังวลว่าจะทำผิดทำถูก เพราะมีผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมืออาชีพคอยสอนเราอยู่ข้างๆแบบใกล้ชิด ซึ่งราคาจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 เยนต่อคลาส 90 นาทีค่ะ
ขอบคุณรูปภาพจาก www.traveldailymedia.com/haneda-excel-hotel-tokyu-flight-simulator/
เป็นอย่างไรบ้างคะกับ 4 สถานที่ที่ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสาร TIME ใครชอบที่ไหนบ้าง?
เอาเป็นว่าไปเที่ยวญี่ปุ่นคราวหน้า อย่าลืมเพิ่มลิสต์สถานที่เหล่านี้ไว้ในแพลน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่กันด้วยนะคะ
เรื่องแนะนำ :
– 9 ศิลปินนักวาดภาพประกอบญี่ปุ่น ลายเส้นเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์
– [ดราม่าฤดูฝน] สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ซาลารี่แมน
– [ทดความคิด] ธนาคารนอกคอก – เพราะเราเป็นได้มากกว่าที่เป็น
– [ทดความคิด] ซูริ กะคุ 数理学 กับโป้ง ก้อย อิ่ม
– [ทดความคิด] เมื่อคุณต้องเลือก… ตามกฎหรือแหกมันซะ?
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
https://time.com/5658157/2019-worlds-greatest-places-choice/
https://borderless.teamlab.art/
https://guntu.jp/
https://hotel.muji.com/ginza/en/
https://www.traveldailymedia.com/haneda-excel-hotel-tokyu-flight-simulator/
#World’s Greatest Places 2019 #เที่ยวญี่ปุ่น