จากมังงะยอดฮิต ที่มียอดจำหน่ายสูงถึง 14 ล้านเล่ม ตอนนี้ Peach Girl ได้ถูกดัดแปลงมาเป็นเวอร์ชั่นภาพยนตร์แล้ว และยังได้นำเข้ามาฉายในไทยด้วยค่ะ ซึ่งเราเองได้มีโอกาสไปดูเรื่องนี้ในรอบสื่อมา เลยอยากจะมาเม้าท์มอยให้ฟังกันว่า Peach Girl ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์จะเป็นอย่างไร
จากมังงะยอดฮิต ที่มียอดจำหน่ายสูงถึง 14 ล้านเล่ม ตอนนี้ Peach Girl ได้ถูกดัดแปลงมาเป็นเวอร์ชั่นภาพยนตร์แล้ว และยังได้นำเข้ามาฉายในไทยด้วยค่ะ ซึ่งเราเองได้มีโอกาสไปดูเรื่องนี้ในรอบสื่อมา เลยอยากจะมาเม้าท์มอยให้ฟังกันว่า Peach Girl ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์จะเป็นอย่างไร
ก่อนอื่นมารู้เรื่องย่อกันก่อน
Peach Girl เป็นเรื่องราวของอาดาจิ โมโมะ (รับบทโดย มิซูกิ ยามาโมโต้) หญิงสาวผิวแทน สุดแสบประจำโรงเรียน สาเหตุที่เธอมีผิวแทนเพราะว่าเคยเป็นนักกีฬาว่ายน้ำมาก่อน และตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอก็แอบรักเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่ชื่อว่า “โทจิ” (รับบทโดย แมคเคนยู) แต่เธอกลับไปรู้ว่ามาว่า สาวในสเป็คของเขาเป็นผู้หญิงผิวขาว โมโมะเลยพยายามดูแลผิวตัวเองอย่างดี ทาครีมกันแดด มือติดร่มตลอดเวลา เพื่อให้ผิวขาวขึ้นตามสเป็คของโทจิ แต่ใครจะรู้ล่ะว่า จริงๆ แล้วโทจิเองก็แอบชอบโมโมะมาตั้งนานแล้ว
และในขณะนั้นเองความรักของเธอยิ่งอลวนเข้าไปใหญ่ เมื่อ “ไคริ” (รับบทโดย อิโนโอะ เคย์) หนุ่มฮอตของโรงเรียนก็กำลังแอบตามจีบโมโมะอยู่ หลังจากเกิดความประทับใจที่โมโมะได้ช่วยชีวิตด้วยการผายปอดตอนที่เขาจมน้ำ ด้วยเหตุนี้เลยทำให้โมโมะถูกสาวแฟนคลับไคริรุมกลั่นแกล้ง และเหม็นขี้หน้า แต่ถึงอย่างนั้นไคริไม่ได้อยู่ในสายตาของโมโมะเลย ส่วนไคริเองก็รู้ว่าเธอเองรักโทจิเต็มหัวใจ เลยพยายามช่วยเหลือโมโมะให้สมหวังกับโทจิ
แต่รักครั้งนี้ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะ “ซาเอะ” (รับบทโดย นากาโนะ เมอิ) เพื่อนสนิทของโมโมะ ที่คอยจับจ้องเอาของทุกอย่างที่เป็นของโมโมะมาเป็นของตัวเอง รวมถึง “โทจิ” ด้วย ทำให้โมโมะ โทจิ และไคริมีปัญหาต่อกัน แต่รักครั้งนี้โมโมะจำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ระหว่างโทจิ เพื่อนสนิทที่เป็นรักแรกของเธอ หรือไคริ ชายหนุ่มที่คอยมอบรอยยิ้มให้กับเธอเสมอ
จะเลือกใครระหว่างคนที่เรารัก หรือคนที่รักเรา ?
นี่คงเป็นธีมหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้ค่ะ ที่เนื้อเรื่องพยายามให้คนดูคิดตามถึงข้อคิดของความรักว่า ถ้าเรามีความรัก เราจะเลือกใครดีระหว่างคนที่เรารัก หรือคนที่รักเรา หรือพูดอีกอย่างตามบทภาพยนตร์เลยก็คือ คุณจะเลือกใครระหว่าง “คนที่ทำให้เรามีความสุข” หรือ “คนที่เราอยากทำให้เขามีความสุข”
เรื่องราวความรักเป็นไปได้อย่างรวดเร็วมาก คงเป็นเพราะว่าเป็นภาพยนตร์เวลาเพียง 2 ชั่วโมง ความรักของโมโมะ โทจิ และไคริ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เดี๋ยวก็มีคนหนึ่งเข้า เดี๋ยวก็มีคนหนึ่งออกไป จนทำให้โมโมะเองก็สับสนว่า “ฉันควรจะเลือกใครดี” (ออกแนวเลือกได้ แต่ก็ไม่รู้จะเลือกใคร ก็ปวดใจอีกแบบนะคะ) จนทำให้โมโมะต้องกลับมาถามหัวใจว่า เธออยากจะใช้ชีวิตร่วมกับใครระหว่าง คนที่ทำให้เธอมีความสุข หรือคนที่เธออยากทำให้เขามีความสุข หรือบางที…มันอาจจะสามารถเป็นคนเดียวกันก็ได้…
มิตรภาพและความรักของเด็กม.ปลาย
เนื้อเรื่องจะโฟกัสไปที่เรื่องความรักเยอะมาก แต่ในขณะเดียวกันภาพยนตร์ก็ได้สอดแทรกชีวิตความเป็นนักเรียนม.ปลายให้เราได้เห็นอยู่บ้าง วัยใสที่กำลังเติบโต วัยที่กำลังเรียนรู้ความรัก วัยที่กำลังเดินตามความฝัน และวัยที่กำลังทำความรู้จักกับมิตรภาพ
ปมของละครนอกจากเรื่องความรักว่า โมโมะจะลงเอยที่ใคร ก็มีเรื่องของ “ซาเอะ” เนี่ยแหละค่ะ นางคือเพื่อนสนิทของโมโมะ แต่ซาเอะกลับชอบทำร้ายจิตใจเธอด้วยการแย่งทุกสิ่งที่โมโมะมี และใช้แผนสกปรกที่เพื่อนคนหนึ่งไม่น่าจะทำกันได้
“ฉันจะมีความสุข ก็ต่อเมื่อโมโมะไม่มีความสุข”
นี่คือคำพูดของซาเอะที่ได้พูดออกไปถึงความรู้สึกที่เธอมี แต่ถึงอย่างนั้นโมโมะกลับมองว่าซาเอะยังเป็นเพื่อนคนสำคัญของเธอ ไม่ว่าเธอจะมีความรักกับผู้ชายคนไหน แต่ซาเอะคือเพื่อนที่เธอไม่มีวันทิ้งได้ลงคอ
“แม้สิ่งที่เธอทำฉันจะให้อภัยไม่ได้ แต่ฉันก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องร้ายขึ้นกับซาเอะ”
แค่ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข เราก็มีความสุขแล้ว
อาจจะเป็นเพราะพลังของรักก็ได้ ทำให้เราค่อยๆ ได้เรียนรู้ว่า จริงๆ แล้ว “ความรัก” คืออะไร พอเราพูดถึงความรัก เราก็มักจะนึกถึงการครอบครอง อย่างเช่น โมโมะที่อยากอยู่เคียงข้างโทจิ หรือซาเอะผู้ขี้อิจฉา เลยพยายามแย่งสิ่งที่โมโมะรักไปจากเธอ แต่ในขณะที่ “ไคริ” กลับมอบความสุขให้โมโมะ ต่อให้เขาอาจจะไม่ได้เป็นคนที่ได้ครอบครองโมโมะก็ตาม และสิ่งที่ไคริทำ ก็ได้ส่งต่อถึง “โมโมะ” รวมถึง “ซาเอะ” ที่ได้รู้ว่าการให้จากก้นบึ้งหัวใจมันทำให้เรารู้สึกอย่างไร
ความรักที่ไม่ได้หมายถึงแค่การครอบครอง แต่คือการทำให้คนที่เรารักยิ้มออกมาได้
และผลสุดท้าย ไม่วาเธอหรือฉันก็อยากเป็นฝ่ายทำให้คนที่มอบความสุขกับเรา ได้มีความสุขบ้าง
สิ่งที่ประทับใจในภาพยนตร์เรื่องนี้
1. ภาพฉากในเรื่องสวยมาก อิ่มเอมไปกับบรรยากาศสวยๆ ของดอกไม้ที่กำลังบานสะพรั่ง พร้อมวิวสวยๆ ริมทะเล โทนสีของภาพก็สไตล์ญี่ปุ่น ออกแนวสีโทนเบาๆ ผสมกับสีสดใส แต่โทนสีก็ไม่แรงเกินไป ตามสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ
2. นี่ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์รักโรแมนติก แต่เป็นรักคอมเมดี้ค่ะ! จะมีฉากฮาๆ สลับมาให้ขำได้เรื่อยๆ
3. อิโนะโอะ เคย์ แสดงได้อย่างมีพลัง ไฮเปอร์สุดๆ และฮามาก ดูแล้วรู้สึกว่า เป็นไอดอลคนหนึ่งที่มีฝีมือการแสดงที่น่าติดตาม
4. เรื่องดำเนินได้กระชับฉับไวดี แต่ด้วยความไวเกินไป ก็จะมีบางช่วงที่ทำให้ยังไม่อินกับความรักความสัมพันธ์เท่าไหร่นัก
5. เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวความรักของวัยรุ่นที่ดีอีกเรื่องหนึ่ง ความรักที่ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังตบตี แย่งชิง แต่เป็นการแสดงความรักในแบบอื่นที่อ่อนโยน และเปิดโอกาสให้แต่ละฝ่ายได้เป็นคนเลือกจริงๆ ชอบฉากที่ไคริ พาโมโมะไปปรับความเข้าใจกับโทจิค่ะ มันทำให้รู้สึกเลยว่า ผู้ชายคนนี้ใจกว้างมาก และมีจิตใจที่อยากทำให้คนที่รักมีความสุขจริงๆ และเฝ้ารอรอยยิ้มของคนที่รัก ถ้าเราไม่ได้เป็นคนเห็นแก่ตัวเกินไป การที่ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่คนรักกันควรทำต่อกัน
ความคิดเห็นส่วนตัวสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้
Peach Girl เป็นแนวภาพยนตร์รักวัยรุ่นที่ดูได้เรื่อยๆ เพลินๆ แต่ก็ยังไม่ถึงกับว้าวนะคะ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบหนังรักสไตล์วัยรุ่นญี่ปุ่น ใครที่กำลังเครียดๆ ห่อเหี่ยวในชีวิต ไปดูเรื่องนี้ก็จะเติมความสุขให้กับหัวใจได้เป็นอย่างดีค่ะ และใครเป็นแฟนคลับอิโนะโอะ เคย์คงจะฟินมากๆ เพราะเรื่องนี้ได้รับบทเด่นสุดๆ แถมมีคาแร็กเตอร์ที่ชวนให้สาวๆ หลงรัก ถ้าเลือกได้อยากจะได้ไคริมาเป็นแฟนจริงๆ ><”
ส่วนท้ายที่สุดแล้วโมโมะจังจะเลือกใคร สามารถไปค้นหาคำตอบได้ในเรื่อง Peach Girl ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ววันนี้ มาลุ้นกันค่ะว่า บทสรุปของรักครั้งนี้จะเป็นอย่างไร โมโมะจะเลือกใครระหว่าง “คนที่ทำให้เรามีความสุข” หรือ “คนที่เราอยากทำให้เขามีความสุข”
เรื่องแนะนำ :
– พระเอกไม่หล่อ แล้วคนดูอะไรในละครญี่ปุ่น
– ย้อนรอยซีรีส์ CHANGE นายกมือใหม่ หัวใจประชาชน
– ตัวละครญี่ปุ่นชอบเรียกชื่อจริงกันหรือเปล่า!?
– 5 วงนักร้องญี่ปุ่นที่มีสมาชิกเยอะเป็นกองทัพ (นอกจาก AKB48)
– 5 ความแกร่งของนางเอกละครญี่ปุ่น
ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก
ภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง Peach Girl
http://peachgirl-movie.jp/sp/