ใครที่คิดว่าตัวเองมีใจที่แกร่งพอ ไปเรียนต่อญี่ปุ่นได้ สามารถปรับตัวกับชีวิตนักเรียนม.ปลายที่ไม่ได้คิกขุอาโนเนะอย่างในการ์ตูนได้ตลอดรอดฝั่ง ไปดูกันต่อว่าการเรียนม.ปลายที่ญี่ปุ่นเป็นยังไงกันค่ะ
ตอนที่แล้ว ได้เล่าถึงระเบียบวินัยของการเรียนระดับมัธยมปลายในโรงเรียนประจำของญี่ปุ่นกันไปแล้ว คราวนี้ใครที่คิดว่าตัวเองมีใจที่แกร่งพอ สามารถปรับตัวกับชีวิตนักเรียนม.ปลาย ที่ไม่ได้คิกขุอาโนเนะอย่างในการ์ตูนได้ตลอดรอดฝั่ง ไปดูกันต่อว่าการเรียนม.ปลายที่ญี่ปุ่นเป็นยังไงกันค่ะ (เป็นข้อมูลจากร.ร.ที่เจ๊เอ๊ดทำงานด้วยเท่านั้นนะคะ ร.ร.มัธยมปลายอื่นๆ อาจจะมีความแตกต่างกันไป )
ถ้าคิดจะเรียนต่อม.ปลาย ขอให้มีเป้าหมายที่ “การเข้ามหาวิทยาลัยญี่ปุ่น”
การไปเรียนต่อม.ปลาย ไม่ใช่แค่เรียนเพื่อได้วุฒิมัธยมศึกษาตอนปลายของญี่ปุ่น หรือเรียนเพื่อที่จะได้มีโอกาสใส่ชุดนักเรียนญี่ปุ่น ได้ใช้ชีวิตในโรงเรียนมัธยมญี่ปุ่นแค่นั้น แล้วกลับมาเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่ไทย แต่การเรียนมัธยมปลายเป็นเส้นทางหนึ่งที่จะมุ่งสู่การเรียนต่อในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น ที่ไม่ทำให้เสียเวลาหรือเรียนช้ากว่าเพื่อนร่วมรุ่น เรียนจบมหาวิทยาลัย 4 ปี ใช้เวลาเท่ากันกับเพื่อนๆ ที่เรียนม.ปลายและมหาวิทยาลัยที่เมืองไทย
เนื่องจากถ้ารอให้จบม.6 ที่ไทยก่อน แล้วค่อยไปเข้ามหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่แล้ว ภาษาญี่ปุ่นยังแข็งแรงไม่พอ จึงต้องเผื่อเวลาในการไปเรียนภาษาในโรงเรียนสอนภาษาก่อนอย่างน้อย 1 ปีครึ่ง – 2 ปี
เรียนอะไรกันนะ?
การเข้าเรียนตั้งแต่ระดับม.ปลาย ประมาณครึ่งปีหรือหนึ่งปีแรก นักเรียนต่างชาติจะต้องเรียนภาษาญี่ปุ่นแบบเนื้อๆ เน้นๆ เป็นหลักค่ะ จะได้เรียนร่วมกับเด็กญี่ปุ่นในบางวิชาที่ยังไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะภาษาญี่ปุ่นมากนัก เช่น พลศึกษา ภาษาอังกฤษ ดนตรี คอมพิวเตอร์ เป็นต้น พอมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นมากพอแล้ว จึงจะได้เข้าไปนั่งเรียนในวิชาอื่นๆ ตามหลักสูตรปรกติกับเด็กนักเรียนญี่ปุ่น
จากการเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างจริงจัง ประกอบกับการอยู่หอพักร่วมกับเด็กญี่ปุ่น สภาพแวดล้อมที่ต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นตลอดเวลา ทำให้มีนักเรียนไทยจำนวนไม่น้อยที่สามารถสอบวัดระดับภาษาญี่ปุ่นผ่านระดับ N2 ได้ ภายในเวลา 1 ปี หรืออย่างช้าไม่เกิน 1 ปีครึ่ง
เรียนจบแล้วจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยญี่ปุ่นยังไง?
เมื่อเรียนจบหลักสูตรม.ปลาย จะได้ประกาศนียบัตรจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของญี่ปุ่น หลายคนอาจจะกังวลว่า แล้วจะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยญี่ปุ่นแข่งกับเด็กญี่ปุ่นไหม
มหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นมีมากกว่า 700 แห่งทั่วประเทศ ระเบียบการรับสมัครจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัยว่ามีระบบการรับนักเรียนต่างชาติอย่างไร มีทั้งแบบที่ใช้การสอบของศูนย์การสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย เรียกกันย่อๆ ว่า senta shaken (センター試験) เป็นการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเด็กมัธยมญี่ปุ่น ซึ่งแน่นอนว่ามหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดังๆ ย่อมมีการแข่งขันสูง แต่มหาวิทยาลัยหลายแห่งในปัจจุบันมีระบบการสอบตรง มีโควต้าสำหรับนักเรียนต่างชาติโดยเฉพาะ บางแห่งใช้คะแนนการสอบเข้ามหาวิทยาลัยญี่ปุ่นสำหรับนักเรียนต่างชาติ ที่เรียกว่า EJU บางแห่งมีระบบซุยเซน (推薦) หรือ recommendation คือการที่ทางโรงเรียนเขียนจดหมายแนะนำว่าเป็นนักเรียนที่เรียนดีเพื่อนำไปยื่นให้กับมหาวิทยาลัยคู่สัญญา ถ้าได้รับการแนะนำในลักษณะนี้ จะได้รับยกเว้นการสอบข้อเขียน เพียงสอบสัมภาษณ์ให้ผ่านก็เข้าเรียนได้
จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยไหนได้นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของนักเรียนแต่ละคน แต่โรงเรียนมัธยมปลายของญี่ปุ่น ก็จะมีคุณครูแนะแนวเหมือนบ้านเราค่ะ ที่จะคอยให้คำปรึกษาแนะนำนักเรียนว่าอยากจะเรียนทางด้านไหน ควรจะเลือกสาขาอะไร พร้อมกับดูผลการเรียนประกอบว่าควรจะเลือกมหาวิทยาลัยระดับไหน ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการสมัครสอบ การเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์ ไปจนถึงการแนะนำเกี่ยวกับการเดินทางข้ามจังหวัดไปสอบที่จังหวัดอื่น จะไปยังไง พักที่ไหน
แล้วจะต้องค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
ค่าใช้จ่ายในการเรียนม.ปลายที่ญี่ปุ่น โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณปีละ 5 แสนกว่าบาท (1.5 ล้านเยนต่อปี) ซึ่งจะรวมทุกอย่างเบ็ดเสร็จ ไม่ว่าจะเป็นค่าเล่าเรียน หนังสือเรียน ที่พัก อาหารครบทุกมื้อ กิจกรรม ชุดนักเรียน ฯลฯ เงินที่ใช้ส่วนตัวจะใช้ไปกับการซื้อขนม หรือข้าวของส่วนตัว เช่น สบู่ แชมพู โลชั่น เท่านั้นเอง เรียกได้ว่าค่าเทอมที่ร.ร.นานาชาติในไทยบางแห่งยังแพงกว่าเสียอีก แต่ทั้งนี้ ก็ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยต่ออีก 4 ปีด้วย
มีหลักสูตรอินเตอร์ไหม
โรงเรียนมัธยมที่เปิดหลักสูตรนานาชาติในญี่ปุ่นมีหลายแห่งค่ะ เป็นโรงเรียนสำหรับเด็กญี่ปุ่น คล้ายกับบ้านเราที่บางครอบครัวอยากจะให้ลูกเรียนในโรงเรียนอินเตอร์ และมีเด็กต่างชาติที่พ่อแม่ทำงานหรืออาศัยอยู่ในญี่ปุ่น เป็นหลักสูตรการเรียนการสอนมาจากอเมริกา อังกฤษ หรือแคนาดา ฯลฯ เหมือนร.ร.อินเตอร์ในไทย แต่ที่เปิดรับนักเรียนต่างชาติจากต่างประเทศเข้าไปเรียน มีไม่มากนัก
ถ้าอยากจะไปเรียนทำอย่างไร
การไปเรียนต่อระดับมัธยมปลายในโรงเรียนประจำที่ญี่ปุ่นนั้น ขั้นตอนการจะสมัครเรียนไม่ได้ยากมากมายค่ะ จะมีการสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์ โดยที่จะสัมภาษณ์ทั้งนักเรียนและผู้ปกครองเพื่อดูเป้าหมายและความตั้งใจในการไปเรียน รวมถึงดูผลการเรียนในระดับมัธยมต้น ถ้าสอบผ่านทั้งข้อเขียนและสัมภาษณ์ก็สามารถไปเรียนได้ แต่การจะเรียนได้อย่างประสบความสำเร็จ สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ตามที่หวัง ต้องผ่านการเรียนที่หนักและการใช้ชีวิตในโรงเรียนที่เข้มงวดอย่างมาก
การไปเรียนม.ปลายที่ญี่ปุ่น ไม่ได้คิกขุอย่างที่คิด แต่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนแน่นอนค่ะ ทุกวันนี้เวลาเจ๊เอ๊ดได้พบปะนักเรียนที่ไปเรียนตั้งแต่ม.ปลาย จนจบมหาวิทยาลัย กลับมาทำงานอยู่ในไทยทุกวันนี้ รู้สึกทึ่งกับความเปลี่ยนไปของนักเรียนหลายคนที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเด็กไทยรุ่นเดียวกัน ส่วนทักษะภาษาญี่ปุ่นนั้นไม่ต้องพูดถึงค่ะ ถ้าหันหลังอาจจะฟังไม่ออกกันเลยทีเดียวค่ะ ว่าคนที่พูดเป็นคนไทยหรือญี่ปุ่น
พบปะ “เจ๊เอ๊ด” และ #ทีมเจ๊เอ๊ด ได้ที่ >>> www.facebook.com/jeducationfan
ข้อมูลเรียนต่อญี่ปุ่น-เรียนภาษาญี่ปุ่น >>> www.jeducation.com
เรื่องแนะนำ :
– ส่งลูกหลานไปเรียนม.ปลายที่ญี่ปุ่นดีไหม
– ท่องอิเสะ-ชิมะ สถานที่จัดงานประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G7
– เรียนทำเบเกอรี่ที่ญี่ปุ่น
– แทนที่การ “ตัด” ด้วยการ “เติม”
– มารยาทในการชมบุไต (ละครเวที) ที่ญี่ปุ่น