ญี่ปุ่นในมุมมืด ตอนที่ 12 : แต่งงาน…ตลอดระยะเวลาจากวันนั้นถึงวันนี้ประมาณ 14 ปี มีใครบางคนถามผมว่า เธอท้องก่อนที่จะแยกจากกันรึเปล่า ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ผมคงมีลูกอีกคนปัจจุบันก็น่าจะมีอายุ 14 ปี ตอนนี้เธอคนนั้นไปใช้ชีวิตที่อเมริกา เธอไม่ได้มีความสำคัญอะไร ยกเว้นถ้าเธอมีลูกกับผมจริงๆ
ภาพโดย : อ.วิโรจน์ สายดนตรี
ผู้อ่านยังจำพ่อของไดน่าได้ไหมครับ จำได้ว่าช่วงนั้นทาโร่เดินทางบ่อย แต่ผมไม่รู้ว่าเขาไปไหน
มีอยู่วันหนึ่งพี่หงส์มาหาผมที่บ้านไดน่า เธอบอกว่ามาธุระแถวนี้เลยแวะมาหา เธอบอกผมว่าทาโร่ ต้องไปธุระที่สิงคโปร์บ่อยๆ ฝากให้ผมดูแลไดน่าดีๆ แล้วจะขึ้นค่าจ้างให้
วันนั้นพี่หงส์ซื้ออาหารไทยมาฝาก นั่งทานอาหารและก็คุยกันไป ผมบอกแกว่า ผมกลัวโดนจับและยังอยากอยู่ญี่ปุ่นต่อไปเพราะรายได้ดี จากการได้นั่งคุยกันในวันนั้นทำให้รู้ว่า พี่หงส์กับทาโร่มีความสัมพันธ์กันมากกว่าคำว่าเพื่อน และก็มีธุรกิจบางอย่างที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน แต่ก็ช่างมันเถอะ มันไม่ใช่เรื่องของเรา
ความคิดของแกตอนนั้นคงอยากให้ผมทำงานอยู่ที่นี่ไปเรื่อยๆ ผมเคยบอกท่านผู้อ่านแล้วว่า มีความคิดอย่างหนึ่งที่อยู่ในใจตลอดเวลา คือการอาศัยอยู่ที่ใดที่หนึ่งแล้วต้องโดนจับในที่สุด เพราะเราอยู่ที่นี่แบบผิดกฎหมาย ผมเลยไม่ได้รับปากพี่หงส์ เพียงแต่พยักหน้าเฉยๆ แกก็คงดูผมออก แต่แกก็ไม่ได้กดดันอะไรผมในเรื่องนี้
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ไดน่ากับอาเทียรพาผมไปเดินเล่น ย่านแฟชั่นในโตเกียว นอกจากบรรยากาศสวยๆ งามๆ มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมเศร้ามาก ผมสังเกตเห็นคนไทยที่มาเที่ยวญี่ปุ่น ผู้อ่านครับเป็นภาพที่เศร้ามากจริงๆ สำหรับผม คิดถึงบ้านใจแทบขาด ไม่อยากเห็นภาพแบบนี้อีกเลย
ผมอยากเล่าเรื่องบางส่วนของผมที่เมืองไทยให้ผู้อ่านได้ฟัง ผมว่ามันทั้งเศร้าทั้งสนุกดี ผมขอสงวนชื่อบางท่านเพื่อไม่ให้เป็นการพาดพิงบุคคลอื่น เรื่องพ่อแม่ กับเรื่องเรียนเคยเล่าไปบ้างแล้ว เอาเรื่องความรักแล้วกัน
เรื่องความรักนี่ยิ่งน่าสนใจ ผมมีแฟนทั้งหมด 8 คน ในช่วงอายุ 17 ถึง 28 ปี บางคนคบกับนาน บางคนก็เป็นช่วงสั้นๆ คนที่คบหากันนานที่สุดคือคบกัน 6 ปี ปัจจุบันเธอมีร้านอาหารไทยอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ เพิ่งได้เจอเธอเมื่อ 5 เดือนที่แล้วที่เมืองไทยเป็นงานศพพ่อของเธอ
ผมยังจำทุกคนได้ดี ตอนผมอายุ 29 ปี ผมแต่งงานครั้งแรก คู่ชีวิตผมในวันนั้นคบกันก่อนแต่งประมาณ 5-6 เดือน แล้วตัดสินใจแต่งงานกัน
การแต่งงานในครั้งนั้นดูจะรีบๆ เกินไปหน่อย เพราะพ่อแม่ฝ่ายหญิงอยากให้รีบแต่ง เนื่องจากคิดไปเองว่าลูกสาวตัวเองตั้งครรภ์ จริงๆ แล้วเปล่าเลย เพียงแต่ช่วงนั้นเธอกินเก่งมากแค่นั้น
ในเมื่อแต่งแล้วก็เลยตามเลย ผมสองคนก็อยากแต่งอยู่แล้ว ผมแต่งงานในวันที่ 24 ธันวา …. ซึ่งเป็นวันคริสมาสต์อีฟพอดี คนมาร่วมงานเยอะมากๆ ประมาณ สองพันกว่าคน เป็นแขกผมจริงๆ ประมาณร้อยกว่าคน นอกนั้นผมไม่รู้จัก เพราะพ่อแม่ของฝ่ายหญิงเป็นที่คนมีชื่อเสียงในสังคมประมาณหนึ่ง
หลังงานแต่งงานใช้เวลาสร้างบ้านประมาณ 4-5 เดือน สร้างบ้านบนที่ดินที่พ่อผมยกให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน ผมก็เริ่มเป็นหนี้เป็นสิ้นอย่างเป็นทางการจากการสร้างบ้านนี่แหละ
หลังจากสร้างบ้านเสร็จ อยู่กันมาไม่ถึงปีก็จบ ผมแยกจากกันโดยไม่มีคำลา ตอนเช้ายังไปส่งเธอที่ทำงาน ตอนเย็นไม่เจอกันอีกแล้ว และก็ไม่เจอกันอีกเลย
ตลอดระยะเวลาจากวันนั้นถึงวันนี้ประมาณ 14 ปี ที่สำคัญที่สุดมีใครบางคนถามผมว่า เธอท้องก่อนที่จะแยกจากกันรึเปล่า ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ผมคงมีลูกอีกคนปัจจุบันก็น่าจะมีอายุ 14 ปี
เธอคนนั้นไปใช้ชีวิตที่อเมริกา ปัจจุบันไปๆ มาๆ เมืองไทยบ้างตามคำบอกเล่าของเพื่อน เธอไม่ได้มีความสำคัญอะไร ยกเว้นถ้าเธอมีลูกกับผมจริงๆ คงต้องมาคุยกันหน่อย
อ่านญี่ปุ่นในมุมมืดทั้งหมด คลิ๊ก >>> ญี่ปุ่นในมุมมืด